Acer ประกาศเปิดตัวไลน์อัปใหม่ล่าสุดในตระกูล Nitro Series ทั้งเกมมิ่งแล็ปท็อป เดสก์ท็อป และมอนิเตอร์ความละเอียดสูง ณ งาน IFA 2025 ในกรุงเบอร์ลิน
บริษัทได้ผสานฮาร์ดแวร์ทรงพลัง ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ และงานภาพสุดสมจริง เพื่อยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมและการสร้างสรรค์คอนเทนต์สำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ โดยเฉพาะการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด
แล็ปท็อปเกมมิ่ง Nitro V 16 และ V 16S พร้อมพลัง AI
Acer Nitro V 16 (ANV16-72) โน้ตบุ๊กเกมมิ่งและครีเอเตอร์ขุมพลังใหม่ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วและภาพคมชัดสูงสุด ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core 9 รุ่น 270H จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5070 Laptop GPU บนสถาปัตยกรรม Blackwell ล่าสุด
การ์ดจอรองรับ AI เต็มรูปแบบ ทั้ง DLSS 4, NVIDIA Studio และ NVIDIA NIM Microservices เพื่อสร้างผู้ช่วย AI หรือ workflow ส่วน Intel Application Optimization จะจัดสรรทรัพยากรแบบเรียลไทม์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
จอภาพเลือกใช้พาเนล WQXGA 2560×1600 ครอบคลุมสี 100% sRGB รีเฟรชเรต 180Hz ให้ภาพสดใสและการเคลื่อนไหวสมจริง พร้อมระบบระบายความร้อนพัดลมคู่และช่องดูด-ระบายลมสีทาง ช่วยให้เครื่องทำงานเสถียรแม้ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน
สำหรับ Acer Nitro V 16S (ANV16S-71) มาพร้อมดีไซน์บางเบา ตัวเครื่องโลหะบางเพียง 19.9 มม. แต่ยังให้ประสิทธิภาพเต็มพิกัดด้วย Intel Core 9 270H และ RTX 5070 Laptop GPU พร้อมเทคโนโลยี DLSS 4 และ neural rendering สำหรับการเล่นเกมและงานครีเอทีฟที่ตอบสนองรวดเร็ว
จอภาพ WQXGA 2560×1600 ครอบคลุมสี 100% sRGB รีเฟรชเรต 180Hz ให้สีตรงชัดและเฟรมเรตลื่นไหล เสริมด้วยคีย์บอร์ด RGB 4 โซน เพิ่มสไตล์ล้าสมัย
เดสก์ท็อป Nitro 70 และ 50 ขุมพลังเต็มขั้น
Desktops Nitro ได้เปิดตัวสองรุ่นใหม่ คือ Nitro 70 (N70X3D-100) และ Nitro 50 (N50-100) มาเจาะกลุ่มเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์โดยเฉพาะ
ฝั่ง Nitro 70 มาพร้อมซีพียู AMD Ryzen 9 9950X3D จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA RTX 5090 ที่ให้พลัง AI สูงถึง 3,352 TOPS รองรับแรม DDR5 ได้สูงสุด 128GB และ SSD PCIe Gen 4 ขนาด 2TB
ส่วนฝั่ง Nitro 50 เลือกใช้ Ryzen 7 8700G และ RTX 5080 พร้อมแรม DDR5 สูงสุด 128GB และ SSD 2TB เช่นกัน
จุดเด่นทั้งสองรุ่นอยู่ที่ระบบระบายความร้อน Nitro CycloneX 360 ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศได้มากขึ้นถึง 15% โดยเฉพาะ Nitro 70 ที่มีชุดระบายความร้อนด้วยน้ำ 360 มม. เพื่อคงความเสถียร
นอกจากนี้ยังมีการรองรับ Wi-Fi 7, ฟีเจอร์ Acer Intelligence Space สำหรับใช้งานเครื่องมือ AI, เคสกระจกนิรภัยไฟ ARGB ปรับแต่งได้ และชิ้นส่วนของตัวเครื่องทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลสูงถึง 65%
มอนิเตอร์ Nitro 4 รุ่นใหม่ เพื่อประสบการณ์เล่นเกมเต็มพิกัด
Acer Nitro XV275K V6
จอมอนิเตอร์เกมมิ่งขนาด 27 นิ้ว 4K UHD (3840×2160) รีเฟรชเรต 180 Hz พร้อม 1 ms Visual Response Boost Pro (VRB Pro) และ AMD FreeSync Premium ให้การเล่นเกมลื่นไหล ไม่มีภาพฉีกขาด ความสว่างสูงสุด 1,000 nits (HDR10%) ครอบคลุมสี 97% DCI-P3 และแสดงสีได้ 1.07 พันล้านสี (8-bit+FRC) พร้อมพอร์ต HDMI 2.1 คู่ และ DisplayPort 1.4
Acer Nitro XV273U W1
ออกแบบสำหรับการแข่งขันและสตรีมมิ่งด้วยหน้าจอ 27 นิ้ว WQHD (2560×1440) IPS รีเฟรชเรต OC 275 Hz และเวลาตอบสนอง 1 ms VRB Pro พร้อม AMD FreeSync Premium รองรับ VESA DisplayHDR 500, ความสว่างสูงสุด 500 nits, ครอบคลุมสี 95% DCI-P3 และมาพร้อมลำโพงสเตอริโอ 2W
Acer Nitro XV270X
สำหรับผู้ที่ต้องการความละเอียดสูงสุด 5K (5120×2880) ให้ภาพสมจริงด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000:1, เวลาตอบสนอง 1 ms VRB, ครอบคลุมสี 95% DCI-P3, พร้อมลำโพง 2W คู่
Acer Nitro XZ403CKR
จอขนาดใหญ่ 39.7 นิ้ว 1000R โค้ง ความละเอียด 5K WUHD (5120×2160) ให้มุมมองกว้างและภาพคมชัดสูงสุด รองรับ Dynamic Frequency Resolution (DFR), WFHD 288 Hz, เวลาตอบสนอง 1 ms VRB / 0.5 ms GTG พร้อม AMD FreeSync Premium และมาพร้อมลำโพง 5W และพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย
ราคาและการวางจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ Acer Nitro Series ใหม่จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ USD 299.99 สำหรับมอนิเตอร์ ไปจนถึง USD 1,099.99 สำหรับแล็ปท็อป โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ Q3 2025 สำหรับบางรุ่น และครบทุกรุ่นภายใน Q2 2026
สำหรับตลาดไทยมีการเปิดตัว Nitro V 16S AI (ANV16S-41) ในราคา 37,990-42,990 บาท ในไตรมาส 3 ปี 2025
ทั้งสองรุ่นแล็ปท็อปมาพร้อมซอฟต์แวร์ NitroSense สำหรับปรับแต่งการทำงาน และ Acer Experience Zone รวบรวมชุดแอป AI เพื่อเสริม productivity และ creativity ด้านการเชื่อมต่อจัดเต็มด้วย Intel Killer DoubleShot Pro เล่นเกมออนไลน์ไม่มีแลค และ Thunderbolt 4 สำหรับโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
