รีวิว vivo V60 สมาร์ตโฟนรุ่นระดับกลางที่ครั้งนี้มาอย่างแพรวพราว กับสโลแกน “เสิร์ฟช็อตโปรให้คนสวย” ชูจุดเด่นการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่เหนือระดับทั้งเรื่องระยะเลนส์ที่หลากหลาย และฟีเจอร์ AI ที่ให้การถ่ายภาพออกมาสวยปิ๊งทันที ไม่ต้องไปแต่งในแอปอื่นให้วุ่นวาย
มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยตั้งแต่แรกเห็น สัมผัสที่ดีพรีเมียม น้ำหนักเบาถือจับสบาย แต่ภายในจัดแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุสูงถึง 6500mAh และยังมีสีใหม่อย่าง Berry Purple ที่ดูสดใสวัยรุ่นแบบมีเสน่ห์
ที่สำคัญและน่าตื่นเต้นมากๆ ก็คือ vivo V60 ยังจับมือกับ POP MART นำเอาคาแรคเตอร์สุดน่ารักอย่างน้อง ZSIGA มาคอลแลปกันแบบสุดพิเศษ ด้วยคอลเลคชันที่จัดมาให้สำหรับ vivo V60 โดยเฉพาะ มีให้ตั้งแต่ สายคล้องโทรศัพท์, สติกเกอร์, กระเป๋าใส่โทรศัพท์ และเคสโทรศัพท์ ที่สวยเด่นไม่เหมือนใคร และไม่ได้แค่นั้น ในแอปกล้องยังมี Zsiga Exclusive Frames กรอบภาพเก๋ๆ 4 แบบให้เลือกได้เฉพาะในรุ่นนี้อีกด้วย
ยังไม่เริ่มเข้าสู่ รีวิว ก็มีความพิเศษของ vivo V60 เต็มไปหมด TechOffside ได้ทดสอบลองใช้งานสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มาได้สักพัก จะมาขอแชร์ประสบการณ์หลังที่ได้ลองแล้วว่าแต่ละอย่างน่าสนใจแค่ไหน กล้องจะถ่ายดีจริงหรือเปล่า แล้วมีฟีเจอร์เด็ดอะไรที่เราชอบใจบ้าง ตามอ่านกันได้ในบทความนี้กันได้เลย
Unbox แกะกล่อง รีวิว vivo V60

แพ็กเกจของ vivo V60 ยังเป็นกล่องสีดำแบบเท่ๆ เหมือนเดิม โดยจะมีชื่อรุ่น V60 พร้อมกำกับไว้ชัดเจนว่ากล้องเป็นการพัฒนาร่วมกับ ZEISS เช่นเคย เสริมด้วย AI ที่มีให้ใช้งานแบบเต็มระบบ
ภายในตัวกล่องจะมีเอกสารสำหรับการใช้งานเบื้องต้น พร้อมอุปกรณ์เริ่มใช้งานอย่างเข็มจิ้มถาดซิม และมีเคสกันรอยแบบ TPU แบบนิ่มเป็นสีโทนเดียวกับตัวเครื่องมาให้ด้วย



อุปกรณ์สำหรับการชาร์จมีมาให้ครบอยู่ในกล่องไม่ต้องไปหาซื้อให้วุ่นวาย โดยจะมีสายชาร์จแบบ USB-A to USB-C และอะแดปเตอร์ชาร์จมาตรฐาน 90W FlashCharge
vivo V60 x POP MART: ZSIGA Gift Set ที่น่าสะสม

ความพิเศษที่เป็นการร่วมมือระหว่าง vivo กับ POP MART ในคอลเลกชัน ZSIGA Exclusive Collaboration Gift Set ที่จัดขึ้นเฉพาะในช่วงเปิดตัว โดยจะมีแตกต่างกันตามช่วงทางการวางจำหน่าย
อย่างเซ็ตที่เราเอามาโชว์นี้ จะเป็นของรางวัลแจกในกิจกรรม Like & Share ใน Live งานเปิดตัว vivo V60 พร้อมกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ รอติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่หน้าเพจของ vivo ภายในกล่องประกอบด้วยของสะสมหลากหลาย ได้แก่ กล่องสุ่ม ZSIGA (ซิก้า) Take it Slow, สายคล้องโทรศัพท์, สติกเกอร์, ของตกแต่ง, กระเป๋าใส่โทรศัพท์, เคสโทรศัพท์



สำหรับลูกค้าที่จองเครื่องทางหน้าร้าน ก็จะได้รับของพรีเมียมจาก POP MART Zsiga เช่นเดียวกัน โดยของที่ได้รับประกอบด้วยเคส, สติ๊กเกอร์, สายห้อยโทรศัพท์, กระเป๋า และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นการเปิดจองของแต่ละร้านค้าที่ร่วมรายการ

สำหรับคนที่ชอบของสะสม POP MART เราต้องบอกว่าคอลเลคชันนี้คือความพิเศษเฉพาะกับ vivo V60 เท่านั้น ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ทั้งสมาร์ทโฟนและของสะสมที่หาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ ดังนั้นถ้าชอบน้อง Zsiga ก็ไม่ต้องลังเลอะไร จัดไปเลย

Design : บางเบา แต่แกร่งจริง
สัมผัสแรกเมื่อหยิบ vivo V60 ขึ้นมา รู้สึกได้ทันทีว่ามันเบากว่าที่คาดไว้ ด้วยน้ำหนักเพียง 192 กรัม (สำหรับ Mist Gray) ขณะที่ Berry Purple และ Summer Blue จะหนักขึ้นมาอีกนิดหน่อยที่ 200 กรัม เมื่อเทียบกับโทรศัพท์ที่มีแบตเตอรี่ 6500mAh ตัวอื่นๆ นี่ถือว่าทำน้ำหนักมาได้เบามากๆ
ตัวเครื่องบางที่สุดเพียง 7.53 มม. (Mist Gray) และ 7.65 มม. (สำหรับสีอื่นๆ) ทำให้จับถือสบายมือ ไม่รู้สึกปวดฝ่ามือเวลาใช้งานนาน รวมถึงการออกแบบ Quad Curved ที่ขอบโค้งทั้ง 4 ด้านช่วยให้เครื่องดูโค้งมนไม่มีเหลี่ยมสัน และที่สำคัญคือขอบบางที่สุดเพียง 1.86 มม. ทำให้พื้นที่หน้าจอดูใหญ่เต็มพื้นที่มากขึ้น
การออกแบบตัวโมดูลกล้องหลัง วางจัดระเบียบกล้องคู่ได้อย่างลงตัว มีโลโก้ ZEISS แปะอยู่ให้เห็นชัดเจน โดยที่ข้างๆ จะเป็นกล้อง Ultra-wide และไฟ Aura Light
สีใหม่ 3 สไตล์ที่แตกต่าง

Berry Purple เป็นสีเด่นของรุ่นนี้ เป็นโทนสีแดงที่แอบซ่อนความหวานของสีม่วง เป็นการผสมผสานความสดใสแบบวัยรุ่นเข้ากับความละมุนอย่างมีเสน่ห์ ตัววัสดุฝาหลังเป็นกระจกที่มีสัมผัสแบบนุ่มละมุนแบบด้าน แต่ยังมีสะท้อนแสงเหลือบเงาอย่างสวยงาม
Summer Blue เป็นการผสานสีฟ้าผสมชมพูอ่อนที่ลงตัว โทนสีจะเปลี่ยนไปตามองศาของแสงที่มากระทบ ทำให้ฝาหลังดูมีชีวิตชีวาและสดใสมากขึ้น ตัววัสดุฝาหลังเป็นกระจกแบบด้านที่เกิดรอยนิ้วมือเวลาสัมผัสได้ยาก การถือใช้จึงรู้สึกสะอาดตาอยู่ตลอดเวลา
Mist Gray สำหรับคนที่รู้สึกว่าสีหวานอาจจะสาวไปหน่อย ก็มีตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย เป็นโทนสีเทาเข้ม ถ่ายทอดความลึกซึ้งผ่านการไล่เฉดและชั้นเงาอย่างละเมียดละไม โดยที่วัสดุฝาหลังสีนี้จะเป็นพลาสติกแทนกระจก ทำให้น้ำหนักเบาลงไปอีก 8 กรัม
ความทนทาน IP68 & IP69

เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ใน vivo V60 ที่ตัวเครื่องมาพร้อมมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69 ที่ทนน้ำที่มีอุณหภูมิและแรงดันสูง ใช้งานได้อย่างสบายใจในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานกลางฝน หรือแม้แต่การล้างทำความสะอาดตัวเครื่อง รวมไปถึงยังมีโหมดถ่ายรูปใต้น้ำมาให้ใช้งานอีกด้วย

และเพื่อความอุ่นใจในการใช้งาน จะมีฟีเจอร์ Water Ejection หรือการไล่น้ำออกจากลำโพง หลังจากที่เครื่องเปียกน้ำ เมื่อเปิดใช้งาน ฟังก์ชันนี้จะเล่นเสียงที่ความดังสูงสุดเป็นเวลา 30 วินาที เพื่อช่วยไล่น้ำที่อาจเข้าไปติดในลำโพงออกไป ทำให้เสียงกลับมาเป็นปกติ
สรุปแล้วกับดีไซน์ของ vivo V60 ยังมากับความสวยที่เรียบง่าย ไม่ฉูดฉาด โทนสีมาในแบบสวยละมุน แม้ว่าสเปกภายในจะให้แบตเตอรี่ความจุสูง แต่ยังคงความบางและน้ำหนักที่เบาอย่างน่าประทับใจ รวมถึงความทนทานที่ดีมากสำหรับสมาร์ตโฟนระดับราคานี้ เป็นความลงตัวที่น่าชื่นชมในการออกแบบเครื่องออกมาได้สมดุลขนาดนี้

Camera : กล้องที่ดีขึ้น ถ่ายสวยได้อย่างใจ
เรายอมรับเลยว่า ตั้งแต่ vivo ตัดสินใจนำเอา ZEISS ที่ก่อนหน้านี้มีเฉพาะรุ่นเรือธง ลงมาให้ใน V-Series ก็ทำให้การถ่ายภาพและกล้องของรุ่นระดับกลางดูสวยเด่นทะยานขึ้นมาทันที และใน V60 ก็อัปเกรดระบบกล้องให้ดีขึ้นทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างน่าประทับใจ ถือว่าเป็นจุดเด่นหลักของรุ่นนี้ได้เลย
ZEISS Super Periscope Telephoto – ครั้งแรกใน V Series

สิ่งที่ทำให้กล้องของ vivo V60 ดูโดดเด่นขึ้นมาก็คือการใช้ 50MP ZEISS Super Periscope Telephoto Camera ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95 นิ้ว ตัวเดียวกับรุ่น X200 FE เป็นเรื่องที่ต้องชื่นชม vivo ที่นำเอาเทคโนโลยีระดับเรือธงลงมาในกลุ่ม V Series ได้ใช้งานกัน
กล้องตัวนี้มาพร้อมกับรูรับแสงขนาดใหญ่พิเศษ f/2.65 และมีระบบกันสั่น OIS รองรับออปติคอลซูม 3X และ Hyper Zoom ซูมได้สูงสุด 100X ทำให้สามารถถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกลได้อย่างคมชัด


จากการทดสอบจริง ภาพที่ได้จากการซูม 3X มีความคมชัดและรายละเอียดที่น่าประทับใจ สีสันธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาดเกินจริง โดยในระยะที่ให้ความชัดเจนใกล้เคียง Optical ในแสงปกติ จะอยู่ที่ไม่เกิน 10X (243mm) และถ้าซูมไกลมากกว่านี้ จะเป็นการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ เพื่อช่วยเพิ่มรายละเอียดของภาพ ซึ่งทำได้ดีกับภาพวิวทิวทัศน์และการถ่ายวัตถุที่อยู่ในระยะไกล
10x Telephoto Stage Portrait สำหรับคนชอบคอนเสิร์ต

นี่คือฟีเจอร์ของดีที่ vivo ภูมิใจนำเสนอ และต้องบอกว่าน่าสนใจจริงๆ Stage Style ช่วยให้สามารถถ่ายภาพของเส้นผม ใบหน้า เสื้อผ้า และโทนผิวของศิลปินบนเวทีได้คมชัดและเป็นธรรมชาติ พร้อมปรับสีสันให้สดใสและสมจริง
จากการลองใช้ในสถานการณ์จริง พบว่าเหมาะกับการถ่ายมินิคอนเสิร์ต มิวสิกเฟสติวัล หรือโรดโชว์ โดยเฉพาะช่วงที่มีแสงเพียงพอ ถ้าอยู่ไม่เกิน 10 เมตรจากเวที ใช้ซูม 10X สามารถเก็บภาพครึ่งตัวได้คมชัดทีเดียว




อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ยังต้องการแสงที่เพียงพอ หากเป็นคอนเสิร์ตที่แสงน้อยหรือมีการเปลี่ยนสีแสงบ่อย ผลลัพธ์อาจจะมีลดลงบ้าง แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีเกินคาดมาก
ZEISS Multifocal Portrait – 5 ระยะครบครัน

ถูกใจมากสำหรับสายถ่ายภาพบุคคล เพราะvivo V60 มาพร้อม ZEISS Multifocal Portrait ที่ครบครัน 5 ระยะ ได้แก่:
- 23mm (Landscape Portrait) – เหมาะสำหรับถ่ายพอร์ตเทรตพร้อมฉากหลัง
- 35mm (Narrative Portrait) – สร้างเรื่องราวในภาพ
- 50mm (Classic Portrait) – ระยะมาตรฐานที่ดูเป็นธรรมชาติ
- 85mm (Portrait) – เหมาะถ่ายใบหน้าแบบมืออาชีพ
- 100mm (Close-Up Portrait) – เน้นรายละเอียดใบหน้า





การเพิ่มสองระยะใหม่ 85mm และ 100mm เข้ามาใน vivo V60 เป็นสิ่งที่คนที่ชอบถ่ายภาพแบบพอร์ตเทรตรอคอย เพราะระยะเหล่านี้ช่วยให้ได้โบเก้ที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ รายละเอียดใบหน้าคมชัด โดยเฉพาะ 100mm ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้ที่ต้องการความละเอียดสูง และดึงระยะฉากหลังเข้ามาใกล้กับนางแบบได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ






นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกเลนส์ ZEISS หลายแบบเพื่อให้ได้ดวงโบเก้ด้านหลังที่แตกต่างไปหลายรูปแบบ ให้เราสร้างสรรค์ภาพถ่ายในอารมณ์ที่แตกต่างกันไป เหมือนพกเลนส์ระดับโปรหลายตัวไปถ่ายได้อยู่ในสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว
กล้องหลัก 50MP ZEISS OIS – ถ่ายสวยคมชัดอย่างมั่นใจ

แม้จะมีกล้องเทเลโฟโต้มาเป็นดาวเด่น แต่กล้องหลัก 50MP ZEISS OIS ด้วยเซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/1.88 ยังคงทำหน้าที่หลักได้ดีเยี่ยม
ภาพที่ได้มีความคมชัดสูง รายละเอียดดี การจัดการแสงแบ็คไลท์ทำได้ดี ไม่เสียรายละเอียดในเงามาก และที่สำคัญคือระบบกันสั่น OIS ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้คมชัดขึ้น
กล้องหน้า 50MP – เซลฟี่สวยชัดแจ๋ว

กล้องหน้า 50MP ZEISS Group Selfie Camera มุมมองกว้าง 92° พร้อม AI Facial Contouring เป็นอีกจุดเด่นที่น่าสนใจ AI ช่วยปรับรูปหน้าเวลาถ่ายเซลฟี่ ทำให้รูปออกมาสวยและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ได้แต่งแบบสวยโดดจนดูไม่เป็นตัวเอง
เลนส์กล้องมุมมองกว้างช่วยให้ถ่ายเซลฟี่หมู่เก็บคนในเฟรมได้เยอะขึ้น โดยจะมีระบบ AI Professional Portrait ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่มีความคมชัดและรายละเอียดสูง



จากการทดสอบใช้งานจริง พบว่า AI ของกล้องหน้าทำงานได้ดีในการปรับแต่งใบหน้าแบบธรรมชาติ ไม่เกินจริงจนดูปลอม และอีกหนึ่งข้อดีคือเลนส์ที่กว้างช่วยเก็บหลายคนในเฟรมเดียวกันได้สะดวกมากขึ้น
กล้องมุมกว้าง 8MP – ตัวเสริมที่เรียบง่าย

vivo V60 มีใส่กล้องมุมกว้าง Ultra-Wide 8MP ใช้เซนเซอร์ OV08D10 มาให้ด้วย แม้ว่าสเปกความละเอียดอาจจะดูด้อยกว่าเลนส์ตัวอื่น ก็ถือว่าเป็นตัวเสริมให้เราสามารถเก็บภาพได้ครบทุกระยะในมุมมองที่กว้างเป็นพิเศษ จึงอาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนักสำหรับระยะนี้




ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra Wide ที่ระยะ 16mm
การทำงานร่วมกับ AI และการประมวลผล
สิ่งที่น่าประทับใจคือการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์กล้องที่ดีขึ้นและซอฟต์แวร์ AI ของ vivo การประมวลผลภาพเร็วขึ้น สีสันแม่นยำขึ้น และที่สำคัญคือการถ่ายภาพต่อเนื่องมีความเสถียรสูง
ระบบ ZEISS ที่พัฒนาร่วมกับ vivo ช่วยในเรื่องการ tuning สีและการจัดการแสงให้ได้ลุคที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS จริงๆ ที่มีให้เราเลือกโทนสีได้หลากหลายอย่างที่ต้องการ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ของภาพที่ได้บรรยากาศแตกต่างกันออกไป
สรุปด้านกล้อง
vivo V60 ยกระดับเรื่องกล้องของ V Series ขึ้นไปอีกขั้นอย่างชัดเจน กล้องเทเลโฟโต้ที่เข้ามาใหม่ทำให้มีความหลากหลายในการถ่ายภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือคุณภาพที่ได้สามารถแข่งกับรุ่นราคาแพงกว่าได้ จุดแข็งหลักอยู่ที่การถ่ายพอร์ตเทรต ซูม และเซลฟี่หมู่ สมกับสโลแกน “เสิร์ฟช็อตโปรให้คนสวย”

ฟีเจอร์กล้อง : ลูกเล่นหลากหลาย ถ่ายสวยถ่ายสนุก
ฮาร์ดแวร์กล้องที่อัปเกรดมา ผสานกับซอฟต์แวร์ที่จัดฟีเจอร์ในการถ่ายภาพพร้อมลูกเล่นที่ให้สมาร์ตโฟนของคุณ เก็บภาพสร้างสรรค์ช้อตสวยๆ ได้ไม่เหมือนใคร ทำให้การถ่ายภาพในแต่ละวันของคุณสนุกยิ่งกว่าเดิม
AI Four-Season Portrait – เปลี่ยนฤดูกาลในภาพ
ฟีเจอร์ AI Four-Season Portrait เป็นหนึ่งของดีที่มีให้เฉพาะใน vivo หาในสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นไม่ได้ โดยใช้ AI ช่วยใส่ลูกเล่นเสมือนลงในภาพจริงเพื่อสร้างบรรยากาศตามฤดูกาลที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาว

แน่นอนว่าชาวไทยที่ชีวิตเจอแต่ฤดูร้อน แดดแรง ไม่ก็ฤดูฝน ฟ้าครึ้ม การถ่ายภาพที่ได้ฤดูอื่นๆ มันสร้างความว้าวได้อย่างตื่นตาตื่นใจ การใช้งานเพียงแค่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตกลางแจ้ง ให้พื้นหลังเป็นต้นไม้หรือสวน และหลีกเลี่ยงที่ๆ มีคนพลุกพล่าน และฉากหลังที่มีรายละเอียดเยอะ




ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเนียนตาและเสมือนจริงมากขึ้น ที่ฉากหลังจะเป็นต้นไม้ใบใหม่ในฤดูต่างๆ และแสงที่ตัวแบบก็จะเป็นโทนเดียวกับฤดูนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นลูกเล่นสนุกๆ ที่เชื่อเลยว่าแชร์ลงโซเชียลไปเพื่อนๆ เห็นเป็นต้องหยุดดูแล้วกด Like รัวๆ ให้อย่างแน่นอน
Aura Light Portrait – ไม่ใช่แค่ไฟแฟลช แต่ให้แสงแบบไฟสตูดิโอ

Aura Light ของ vivo V60 ให้แสงนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ พร้อม AI 3D Studio Lighting ที่จำลองไฟสตูดิโอระดับมืออาชีพและสไตล์การจัดแสงแบบภาพยนตร์

ในการใช้งานจริงนั้น Aura Light ช่วยให้ภาพพอร์ตเทรตในเวลากลางคืนหรือสภาพแสงน้อยออกมาสวยโดดเด่นอย่างมือโปร แสงที่ส่องออกมามีความนุ่มนวล ไม่แสบตา และที่สำคัญคือสามารถปรับระดับความเข้มและอุณหภูมิของแสงได้ตามความเหมาะสม
ข้อดีคือระยะการส่องแสงที่กว้างขึ้น ทำให้ถ่ายเซลฟี่หมู่ได้ดีขึ้น และยังมี AI ช่วยในการปรับสีและคอนทราสต์ให้เหมาะสมกับแสงแวดล้อม เพื่อให้สกินโทนหรือสีผิวของคนมีความเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น


เปรียบเทียบภาพถ่ายพอร์เทรตที่ปิดและเปิดไฟ Aura Light จะเห็นว่านอกจากจะสว่างชัดขึ้นแล้ว โทนสีผิวก็มีความเนียนสวยเป็นธรรมชาติอีกด้วย
โหมดกล้องฟิล์ม – 3 สไตล์ 3 อารมณ์

vivo V60 มีลูกเล่นเก๋ๆ ในแอปกล้อง อย่างโหมดกล้องฟิล์ม ที่จะเปลี่ยนหน้าอินเทอร์เฟซเป็นแบบกล้องฟิล์มคลาสสิก และเพิ่ม 3 ตัวเลือกโทนฟิล์มใหม่:
- Classic Negative – โทนสีคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกวินเทจ
- Positive Film – สีสันสดใส เหมือนฟิล์มบวก
- Clear Blue – โทนสีฟ้าใส ให้ความรู้สึกสบายตา
จากการใช้งานจริง พบว่าแต่ละโหมดให้อารมณ์ที่แตกต่างกันชัดเจน Classic Negative เหมาะกับการถ่ายภาพแนววินเทจหรือสตรีท Positive Film ให้สีที่สดใสเหมาะกับภาพธรรมชาติ ส่วน Clear Blue เหมาะกับการถ่ายภาพท้องฟ้าหรือทะเล




สิ่งที่น่าประทับใจคือการประมวลผลที่เร็ว ไม่ต้องรอนาน และสามารถดูผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ก่อนจะกดถ่าย รวมถึงยังเลือกเฟรมสำหรับถ่ายได้หลายแบบ ทำให้เวลาอยากถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในโอกาสต่างๆ ก็เลือกให้เก็บเป็นภาพที่มีความเก๋ไก๋แปลกไม่เหมือนใคร
การบันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและหลัง
vivo V60 รองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวคมชัดระดับ 4K 30fps ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง และแม้แต่กล้องซูม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในระดับราคานี้
คุณภาพวิดีโอที่ได้มีความคมชัดสูง สีสันสมจริง และระบบกันสั่น OIS ช่วยให้วิดีโอที่ถ่ายขณะเดินหรือเคลื่อนไหวมีความเสถียรสูง การบันทึกเสียงคู่สเตอริโอทำให้ได้เสียงที่มีมิติและชัดเจน
หรือถ้าต้องการใช้ถ่ายวิดีโอเวลาเดินให้มีระบบกันสั่นที่ดียิ่งขึ้น ก็สามารถเลือกเป็นระบบ Ultra ได้ แต่จะถ่ายได้ความละเอียดสูงสุดที่ 1080p 30fps
โหมดถ่ายใต้น้ำ สนุกได้ทุกที่ไม่ต้องกลัวเปียก

ไหนๆ ตัวเครื่องก็มาในมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 และ IP69 แล้ว vivo ก็จัดโหมดถ่ายใต้น้ำมาให้ด้วย ทำให้คุณหยิบเอา vivo V60 กระโดดลงสระว่ายน้ำได้อย่างไม่ต้องห่วงอะไร
เมื่อคุณเลือกโหมดถ่ายใต้น้ำ เครื่องจะปิดการสั่งงานผ่านหน้าจอให้กดถ่ายได้จากปุ่มปรับเสียงด้านข้างเพื่อเลือกถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอ และกดปุ่ม Power เพื่อปิดหน้าจอ โดยการใช้งานเราก็แนะนำว่าเหมาะสำหรับการถ่ายในสระน้ำที่เป็นน้ำสะอาด (ที่ไม่ใช่สระระบบน้ำเกลือ) หรือแหล่งน้ำจืดอย่างน้ำตก ไม่ควรลงในน้ำทะเลเด็ดขาด และหลังจากที่ลงน้ำขึ้นมาให้กดคำสั่งไล่น้ำออกจากลำโพง พร้อมซับน้ำให้เครื่องแห้งทุกครั้ง


จากที่เราถ่ายภาพและวิดีโอใต้น้ำ โทนสีมีความสดใส และโฟกัสที่ชัดเจนแม่นยำ ให้คุณเก็บภาพกิจกรรมของครอบครัวเวลาไปเที่ยวสุดสัปดาห์ได้สวยงามแบบไม่ต้องมีกล้องแอคชันมาก็ถ่ายได้สวย
โหมดถ่ายรูปกลางคืน เก็บสีสันคมชัด

vivo V60 มีความสามารถในการถ่ายภาพเวลากลางคืนหรือ Night Mode ในระดับที่น่าพึงพอใจ สามารถเก็บรายละเอียดของแสงและสีในภาพให้มีความคมชัด ไม่สว่างพร่าเบลอ และให้ภาพที่มีความสว่างกว่าตาเห็นระดับหนึ่ง




โดยภาพที่ได้จะไม่ได้สว่างสด HDR จนผิดธรรมชาติ แต่จะได้ภาพที่ยังคงบรรยากาศความเป็นกลางคืนที่สวยงาม ให้คุณเก็บบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างน่าประทับใจ
กรอบถ่ายรูป Zsiga Exclusive Frames

Zsiga Exclusive Frames มีให้เลือกใช้ทั้งหมด 4 แบบในการถ่ายภาพ เป็นฟีเจอร์พิเศษที่เปิดให้ใช้งานได้เฉพาะหลังเปิดตัว V60 เป็นต้นไป วิธีใช้งานคือเข้าไปที่กล้อง → ตั้งค่า → เปิดลายน้ำ
กรอบแต่ละแบบมีสไตล์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่โทนสีฟ้าใส, โทนสีขาว, โทนสีชมพูอบอุ่น, ไปจนถึงโทนสีม่วงเข้ม เป็นการถ่ายภาพที่สามารถเอาไปอวดเพื่อนๆ ได้ เพราะนี่มีแค่เฉพาะใน vivo V60 เท่านั้น

AI Image Studio: ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์
บางครั้งถ่ายรูปมาแล้ว ถึงแม้ว่าจะสวยแต่บางทีเราก็ไม่อยากจะจบแค่นั้น ก็อยากจะปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมอีก ใน vivo V60 ยังมีเครื่องมือมาให้ใช้งานแต่งภาพแบบอัจริยะมากมายให้เลือกใช้อีกด้วย
AI Magic Move – ย้ายวัตถุในภาพได้

เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจที่ช่วยให้แก้ไของค์ประกอบภาพที่ไม่ลงตัวให้สวยงามตามต้องการได้อย่างอิสระ เพียงกดค้างและลาก ก็สามารถปรับแต่งองค์ประกอบภาพได้ทันที
จากที่ได้ทดลองใช้ ฟีเจอร์นี้ทำงานได้ดีกับวัตถุที่มีขอบเขตชัดเจน เช่น คน ต้นไม้ รถยนต์ หรือสิ่งของต่างๆ สามารถย้ายตำแหน่งหรือแม้แต่ลากวัตถุจากภาพหนึ่งไปยังตำแหน่งอื่นในภาพได้พร้อมกับแต่งพื้นหลังแทนบริเวณที่วัตถุได้อย่างแนบเนียน
AI Image Expander – ขยายภาพให้กว้างขึ้น

AI Image Expander เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับการเติมเต็มภาพถ่าย เพิ่มรายละเอียดในพื้นที่ที่ขาดหาย ทำให้ภาพดูสมบูรณ์และมีมิติมากขึ้น
การใช้งานค่อนข้างง่าย เพียงเลือกภาพที่ต้องการขยาย แล้วเลือกเครื่องมือเพื่อปรับ crop ภาพ ระบบ AI จะช่วยเติมเนื้อหาให้เหมาะสมกับบริบทของภาพ เหมาะสำหรับบางทีเราถ่ายภาพแล้วอยากปรับสัดส่วนภาพเพื่อวางองค์ประกอบใหม่ ก็ใช้เครื่องมือนี้ได้
การใช้งานเหมาะสำหรับขยายภาพแนวธรรมชาติ อาคาร หรือท้องฟ้าได้ดี แต่อาจมีปัญหาเมื่อต้องเติมรายละเอียดที่ซับซ้อน เช่น ใบหน้าคน หรือข้อความที่อ่านได้
AI Reflection Erase – ลบแสงสะท้อนบนกระจก

ตัวช่วยลดแสงสะท้อนจากการถ่ายภาพผ่านกระจกหรือพื้นผิวที่มีความเงา ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนเจอบ่อย โดยเฉพาะการถ่ายภาพในรถ หรือผ่านกระจกตึก
จากการทดสอบ พบว่าฟีเจอร์นี้ทำงานได้ดีกับแสงสะท้อนที่ไม่ซับซ้อนมาก สามารถลดแสงสะท้อนได้โดยไม่ทำให้ภาพเสียหายมากนัก แต่หากแสงสะท้อนมีรูปแบบที่ซับซ้อน ผลลัพธ์อาจไม่สมบูรณ์ การใช้งานง่าย เพียงเลือกภาพและใช้เครื่องมือนี้ AI จะตรวจหาและลบแสงสะท้อนให้อัตโนมัติ ประหยัดเวลาในการแต่งรูปอย่างมาก
AI Erase 3.0 – ลบคนออกจากภาพได้แบบเหลือเชื่อ

AI Erase 3.0 เวอร์ชันล่าสุดสามารถตรวจจับบุคคลอื่นๆ ในภาพแบบอัตโนมัติ และเลือกลบเฉพาะบางบุคคลออกได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
ความสามารถในการแยกแยะคนในภาพดีขึ้นมาก สามารถจดจำรูปร่างและเงาของคนได้แม่นยำกว่าเดิม การเติมพื้นหลังในส่วนที่หายไปหลังจากลบคนออกก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
จุดแข็งคือใช้งานได้กับภาพที่มีหลายคน และสามารถเลือกลบเฉพาะคนที่ไม่ต้องการได้ ในหลายๆ ภาพที่ไม่คิดว่าจะลบได้ แต่ก็สามารถทำได้อย่างแนบเนียน
AI Photo Enhance – ปรับปรุงภาพอัจฉริยะ
AI Photo Enhance ใช้อัลกอริทึม AI วิเคราะห์เนื้อหาภาพถ่าย และปรับรายละเอียดภาพอย่างชาญฉลาด เช่น ความสว่าง คอนทราสต์ ความอิ่มตัวของสี รวมถึงช่วยปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของภาพถ่าย
ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากสำหรับภาพที่มีคุณภาพไม่ดี เช่น ภาพเก่า ภาพที่เบลอ หรือภาพที่ถ่ายในสภาวะแสงไม่เหมาะสม สามารถลด noise กู้คืนรายละเอียด และปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามได้

Performance : ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่
เรื่องของประสบการณ์ใช้งาน เป็นอีกสิ่งที่ vivo V60 ทำได้ดีมาก สำหรับสมาร์ตโฟนระดับกลาง ทั้งเรื่องการใช้งานต่างๆ ในประจำวัน การใช้แอป รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่อยู่ได้แบบไม่ต้องกลัวหมดระหว่างวัน
Snapdragon 7 Gen 4 – ชิปรุ่นใหม่ล่าสุด
vivo V60 ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 7 Gen 4 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 4nm มาพร้อม CPU ที่เร็วขึ้น 27% และ GPU ที่แรงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
จากการใช้งานจริง พบว่าชิปตัวนี้ตอบสนองได้ดีทั้งงานทั่วไปและงานหนักๆ การเปิดแอปฯ เร็ว การสลับระหว่างแอปฯ ลื่นไหล และที่สำคัญคือไม่มีอาการสะดุดหรือค้างเมื่อใช้งานหลายแอปฯ พร้อมกัน
สามารถรองรับการเล่นเกมระดับกลางถึงหนัก เลือกที่จะปรับความละเอียดภาพระดับกลางและเฟรมเรตสูง ให้เล่นได้อย่างลื่นไหลต่อเนื่องได้โดยเครื่องไม่ร้อน ตอบโจทย์สำหรับสายเล่นเกมทั่วไป

จากที่เราได้ทดสอบลองเล่นเกม ด้วย Ultra Game Mode ที่มีมาให้ในระบบ เป็นเครื่องมือช่วยในการปรับแต่งให้การเล่นเกมมีความเสถียร เล่นต่อเนื่องนานๆ โดยที่เฟรมเรตไม่แกว่ง นิ่งๆ ที่ 60fps และยังมีระบบชาร์จแบบ Bypass สำหรับสายที่ชอบเล่นเกมยาวๆ แล้วเสียบสายชาร์จไปด้วย ช่วยให้เครื่องมีความร้อนสะสมน้อยลงและช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
Extended RAM – ขยายแรมได้ 12GB + 12GB

ฟีเจอร์ Extended RAM ที่ขยายแรมได้ 12GB + 12GB เปิดใช้งานได้พร้อมกันกว่า 40 แอปพลิเคชัน เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ ด้วยการใช้พื้นที่ storage บางส่วนมาทำหน้าที่เป็น RAM เสริม
จากการทดสอบ พบว่าระบบจัดการหน่วยความจำทำงานได้ดี แอปฯ ที่เปิดไว้ยังคงอยู่ในหน่วยความจำนานขึ้น ลดการต้อง reload ใหม่ การสลับระหว่างแอปฯ ขนาดใหญ่ เช่น เกม, กล้อง, และแอปฯ แต่งรูป ทำได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของ Extended RAM จะขึ้นอยู่กับความเร็วของ storage UFS 2.2 ซึ่งช้ากว่า RAM จริง จึงยังรู้สึกได้เล็กน้อยเมื่อเปิดแอปฯ ที่ถูกย้ายไป Extended RAM
แบตเตอรี่ BlueVolt 6500mAh – ใช้ได้เต็มวันอย่างสบาย
แบตเตอรี่ BlueVolt Silicon Anode Gen 3 ขนาด 6500mAh เป็นจุดขายสำคัญของ vivo V60 ในการใช้งานจริงแบบหลากหลาย (โซเชียล, เกม, ถ่ายภาพ, ดูวิดีโอ) สามารถใช้งานได้เต็มวันโดยเหลือแบตอยู่ประมาณ 15-20%
การใช้งานหนัก เช่น เล่นเกม, ถ่าย 4K video, หรือใช้ฟีเจอร์ AI เยอะ สามารถใช้งานได้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าดีมากในกลุ่มนี้
จุดที่น่าประทับใจคือแม้แบตเตอรี่จะมีความจุใหญ่ แต่สุขภาพแบตยังคงอยู่ในระดับดีได้นานถึง 4 ปี ตาม vivo อ้าง ซึ่งหมายความว่าแบตจะยังคงประสิทธิภาพในระดับที่ใช้งานได้ดีไม่ต่ำกว่า 80% ของความจุเดิม
ชาร์จไว 90W FlashCharge

90W FlashCharge ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 6500mAh ได้เร็วน่าประทับใจ จาก 0% เป็น 100% ใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที การชาร์จไป 50% ใช้เวลาเพียงประมาณ 18-20 นาที
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การชาร์จ 15 นาที ได้แบตประมาณ 25-30% ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้งานต่อประมาณ 4-5 ชั่วโมง
สิ่งที่เราทดสอบแล้วชอบกับระบบชาร์จนี้ก็คือหัวชาร์จไม่ร้อนมากเกินไป แม้จะชาร์จด้วยกำลังสูง และมีระบบป้องกันการชาร์จเกินที่ดี เมื่อแบตเต็มก็จะหยุดชาร์จให้อัตโนมัติ
ระบบระบายความร้อน VC Cooling System
ภายในเครื่องมี VC Cooling System ขนาดใหญ่พิเศษ ประกอบด้วยเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ 13 ตัว ช่วยตรวจจับและลดความร้อนได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เครื่องเย็นลงได้สูงสุด 12°C
จากการทดสอบเล่นเกมนาน 1 ชั่วโมง พบว่าตัวเครื่องอุ่นๆ แต่ไม่ร้อนจัด ไม่ถึงขั้นรู้สึกอึดอัดเมื่อจับถือ ประสิทธิภาพก็ยังคงเสถียรไม่มีการลดสมรรถนะ
ในการใช้งาน พื้นที่ที่ร้อนมากที่สุดคือบริเวณกล้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนด้านหน้าจอและฝ่ามือจับยังคงอุณหภูมิที่พอรับได้
การจัดการพลังงานอัจฉริยะ

vivo V60 มีระบบจัดการพลังงานที่ฉลาด สามารถเรียนรู้รูปแบบการใช้งานและปรับการทำงานของ CPU, GPU และระบบต่างๆ ให้เหมาะสม
โหมด Ultra Power Saving สามารถยืดการใช้งานได้นานขึ้นอย่างมาก เมื่อแบตเหลือน้อย โดยจะปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นและลดประสิทธิภาพลงเพื่อประหยัดพลังงาน
สรุปด้านประสิทธิภาพ
vivo V60 มอบประสิทธิภาพที่สมดุลและเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งงานทั่วไปและความบันเทิง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กับการชาร์จเร็วทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงาน และระบบระบายความร้อนที่ดีช่วยให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหา

Display & Sound
มาดูกันในส่วนของหน้าจอและระบบเสียงกันบ้าง vivo V60 จัดสเปคมาในระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งในเรื่องของความสวยงามในการแสดงผล สีสัน ความสว่างคมชัด ถือเป็นมาตรฐานที่ดีมากสำหรับสมาร์ตโฟนกลุ่มราคานี้
หน้าจอ 6.77 นิ้ว ที่สว่างเกินคาด
หน้าจอ 6.77 นิ้ว ความละเอียด 2392 x 1080 พิกเซล เป็น AMOLED ที่ให้สีสันสดใสและภาพคุณภาพสูง การออกแบบแบบ Quad Curved ทำให้ดูเรียบลื่นและสวยงาม
จุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดคือความสว่างหน้าจอเฉพาะส่วน 5000nits ที่มองเห็นชัดเจนแม้ใช้งานในที่แสงจ้า จากการทดสอบใต้แสงแดดกลางวัน ยังสามารถอ่านข้อความและดูภาพได้ชัดเจน ไม่ต้องบังแสงหรือหาที่ร่ม
การแสดงผลสีสันครอบคลุม 100% DCI-P3 ทำให้ภาพดูสมจริง โดยเฉพาะเมื่อดูหนังหรือเล่นเกม สีแดง เขียว น้ำเงิน ออกมาสดใสไม่จืดชืด และที่สำคัญคือผ่านการรับรองมาตรฐาน SGS Certification การันตีการปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ ใช้งานนานๆ ตาไม่เมื่อย

120Hz ที่ลื่นไหล
หน้าจอ 120Hz รีเฟรชเรต ทำให้การเลื่อนหน้าจอ, การเปิดแอปฯ, และการเล่นเกมดูลื่นไหลตามธรรมชาติ จากการใช้งานจริง รู้สึกได้ถึงความแตกต่างชัดเจนเมื่อเทียบกับหน้าจอ 60Hz
การเล่นเกมที่รองรับ high refresh rate จะได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น การตอบสนองเร็วขึ้น และภาพดูเนียนขึ้น แม้เป็นเกมธรรมดาอย่าง social game หรือ puzzle game ก็ยังรู้สึกได้ถึงความลื่นไหล
ระบบสามารถปรับ refresh rate แบบ adaptive ได้ เมื่อไม่ต้องการ 120Hz ก็จะลดลงมาเพื่อประหยัดแบตเตอรี่
ลำโพงสเตอริโอคู่ และระบบเสียงไร้สาย
ลำโพงสเตอริโอคู่ให้เสียงเซอร์ราวด์แบบ 3 มิติ มีพลังเสียงเบสที่ดี ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมและการดูหนัง/ฟังเพลง สมจริงยิ่งขึ้น
ระดับเสียงสูงสุดดังพอสำหรับใช้ในที่เปิดโล่งหรือสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรอบข้าง คุณภาพเสียงใสไม่แหลม ไม่บิดเบี้ยวแม้เปิดเสียงสุด
พร้อมกันนี้ยังมีระบบปรับแต่งเสียงที่หลากหลาย สามารถปรับ EQ ได้ตามความชอบ มี preset สำหรับเพลงแนวต่างๆ และรองรับ audio codec ที่หลากหลาย
การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 ให้คุณภาพเสียงที่ดีเมื่อใช้หูฟัง wireless และมีความเสถียรในการเชื่อมต่อ ระยะการเชื่อมต่อไกลขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง

ประสบการณ์การรับชม Netflix HDR
การรองรับ Netflix HDR ทำให้การดูซีรีส์หรือหนังใน Netflix ได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น สีสันสมจริงมากขึ้น contrast สูงขึ้น โดยเฉพาะฉากที่มีความมืดสลับกับความสว่าง จะเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้น
เนื่องจากเป็นหน้าจอ AMOLED สีดำจึงออกมาดำสนิท ทำให้ขอบหน้าจอเมื่อดูหนังแบบ widescreen จะหายไปกับตัวเครื่อง สร้างความรู้สึกดื่มด่ำมากขึ้น

ฟีเจอร์ AI ครบครันตามสไตล์สมาร์ตโฟนยุคใหม่
ในยุคนี้ที่ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรียบร้อย ใน vivo V60 ก็มีมาให้ครบแบบไม่ต้องรออัปเดต แกะกล่องมาพร้อมใช้งานได้เลย ทำให้การใช้งานสมาร์ตโฟนสะดวกและฉลาดกว่าที่เคยมีมา
Gemini Assistance – ผู้ช่วยส่วนตัวที่เข้าใจภาษาไทย

Gemini Assistance เป็นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่รวมขุมพลังการค้นหาของ Google และเทคโนโลยี Machine Learning เข้าด้วยกัน เพียงแค่กดปุ่มด้านข้างค้างไว้ก็สามารถสั่งงานได้ทันที
การใช้งานคำสั่งภาษาไทย Gemini เข้าใจและตอบโต้ได้ดี สามารถช่วยจัดตารางเวลา ตั้งเตือนนัดหมาย แนะนำคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจ และช่วยตอบคำถามการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมทั้งยังมีความสามารถสรุปเนื้อหาวิดีโออัตโนมัติ วิเคราะห์คำบรรยายและค้นหาคำตอบได้ในพริบตา หรือต้องการค้นหาจากภาพบนหน้าจอก็กดสั่งได้ทันที ประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลได้มาก และแน่นอนว่าในอนาคตถ้า Google เพิ่มฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ มาก็จะได้ใช้งานด้วยเช่นกัน
AI Captions – ถอดเสียงและแปลภาษาแบบเรียลไทม์

AI Captions เป็นฟีเจอร์ที่น่าประทับใจมาก สามารถถอดเสียงและแปลภาษาแบบเรียลไทม์ในที่ประชุมหรือระหว่างดูวิดีโอ รองรับการใช้งานกับ Zoom, Teams, Google Meet และ WhatsApp
เราได้ลองใช้กับคอนเทนต์ภาษาอังกฤษบน YouTube พบว่าการถอดเสียงค่อนข้างแม่นยำ และการแปลเป็นภาษาไทยเข้าใจได้ดี แม้จะยังไม่เนียนเหมือนคนแปล แต่ก็ช่วยให้ตามเนื้อหาได้
ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องเข้าประชุมออนไลน์บ่อย หรือชอบดูคอนเทนต์ต่างประเทศ สามารถสรุปใจความสำคัญหลังประชุมให้อีกด้วย ช่วยให้ไม่ต้องฟังบันทึกทั้งหมด
AI Smart Call Assistant – แปลภาษาระหว่างโทร

AI Smart Call Assistant มีฟีเจอร์ช่วยแปลเสียงและแสดงข้อความแปลบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ ฟังเสียงแปลออกมาได้ ทำให้คุยข้ามภาษาได้ง่ายขึ้น รองรับหลายภาษา เช่น อังกฤษ ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ และสามารถแสดงข้อความบทสนทนาแบบเรียลไทม์ พร้อมสรุปประเด็นสำคัญให้อัตโนมัติหลังจบการโทร
Block Spam Calls – ป้องกันสายรบกวน

Block Spam Calls ใช้ AI ระบุและบล็อกสายก่อกวนอย่างแม่นยำ ผ่านการฝึกฝนด้วยชุดข้อมูลทั่วโลก สามารถระบุและบล็อกสายก่อกวน การหลอกลวง และการตลาดทางโทรศัพท์ได้ทันที
รองรับพื้นที่ส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นที่อื่นๆ ที่มี vivo Dialer ให้บริการ ผู้ใช้สามารถรายงานและแจ้งเบอร์ที่น่าสงสัยเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความปลอดภัย

สรุป รีวิว vivo V60 เหมาะสำหรับใคร ซื้อดีหรือไม่?
vivo V60 เป็นการยกระดับสมาร์ตโฟนใน V Series ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการนำเอา ZEISS Super Periscope Telephoto 50MP มาเป็นครั้งแรก พร้อมชิป Snapdragon 7 Gen 4 และแบตเตอรี่ BlueVolt 6500mAh ถือเป็นการอัปเกรดประสิทธิภาพรอบด้านอย่างแท้จริง
การได้กล้องซูมมาทำให้ได้ระยะเก็บภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในการถ่ายพอร์ตเทรตระยะ 85mm และ 100mm ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ส่วนตัวผมชอบในจุดนี้ ที่เราถ่ายภาพละลายฉากหลังสร้างโบเก้ที่สวยงามได้อารมณ์เหมือนกล้องโปร

ส่วนในเรื่องของชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 ที่เป็นรุ่นใหม่ อาจจะไม่ได้เร็วแรงระดับเรือธง แต่ก็มีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างไหลลื่น ส่วนการเล่นเกมระดับกลางๆ ไม่ได้จริงจังมากก็ยังเอาอยู่
แบตเตอรี่ BlueVolt 6500mAh กับการชาร์จไว 90W เป็นอีกสิ่งที่โดดเด่นมาในรุ่นนี้ เพราะช่วยให้คุณใช้งานได้ตลอดทั้งวันแบบไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างวัน และยังชาร์จเต็มได้ไวมาก และที่ต้องยกนิ้วชื่นชมก็คือแบตเยอะแต่ยังคงรักษาความเพรียวบางของเครื่อง และน้ำหนักที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ฟีเจอร์ AI ครบครัน ตั้งแต่ Gemini Assistance, AI Captions, AI Magic Move ไปจนถึง Block Spam Calls ช่วยให้ประสบการณ์ใช้สมาร์ตโฟนในแต่ละวันสะดวกมากยิ่งขึ้น

และที่แอบโดนใจเป็นพิเศษ สำหรับแฟนๆ อาร์ตทอย กับการคอลแลปกับ POP MART นำเอาคาแรคเตอร์น้อง ZSIGA มาให้แบบจัดเต็มทั้งตัวกิฟต์เซ็ตสุดพิเศษที่ทำออกมาดีสวยน่าสะสม และยังมีเฟรมภาพในโหมดถ่ายรูปให้ตกแต่งได้ไม่เหมือนใคร
สรุปโดยรวมแล้วกับ รีวิว vivo V60 ที่เราได้ลองใช้ เชื่อว่านี่จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนงบราคาหมื่นกว่าบาท ที่มาพร้อมกล้องที่ถ่ายสวยในสารพัดโหมด แบตใหญ่ใช้ได้เต็มวัน และฟีเจอร์ครบครัน ใช้ต่อเนื่องไปได้อีกหลายปี vivo V60 รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน
ราคาและโปรโมชันเปิดตัว
vivo V60 ความจุ 12GB + 256GB ราคา 15,999 บาท และความจุ 12GB + 512GB ราคา 17,999 บาท ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
พิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 28 สิงหาคม 68 – 30 กันยายน 68 นี้ รับของสมนาคุณมากมาย vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปีแรก จำนวน 1 ครั้ง (มูลค่า 8,999 บาท) และ V60 Premium Gift เคสโทรศัพท์ (มูลค่า 890.-)
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
