ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเจรจาเบื้องต้นเพื่อซื้อหุ้นใน Intel บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา เพื่อเร่งโครงการขยายการผลิตในรัฐโอไฮโอที่เผชิญความล่าช้า
ข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการประชุมที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และซีอีโอของ Intel คือ Lip-Bu Tan โดยการเจรจายังอยู่ในระยะเริ่มต้น และยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่เป็นทางการ
โครงการโรงงานผลิตชิปในรัฐโอไฮโอของ Intel เคยถูกโฆษณาว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่กลับเผชิญการเลื่อนกำหนดการซ้ำๆ โดยคาดว่าการผลิตจะเริ่มขึ้นในทศวรรษหน้า
ปัจจุบัน Intel ประกาศมาตรการลดต้นทุนครั้งใหญ่ รวมถึงการลดพนักงาน 15% และการยกเลิกแผนการสร้างโรงงานในเยอรมนีและโปแลนด์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ทางการเงินที่ท้าทาย
ในอดีต Intel เคยเป็นผู้จัดหา CPU แต่เพียงผู้เดียวให้แก่ Mac เป็นเวลากว่าทศวรรษ โดยความร่วมมือเริ่มต้นในปี 2006 เมื่อ Apple เปลี่ยนจากโปรเซสเซอร์ IBM PowerPC มาใช้สถาปัตยกรรม x86 ของ Intel
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือดังกล่าวเริ่มสิ้นสุดลงตั้งแต่ปี 2020 เมื่อ Apple เปิดตัวชิป Apple Silicon ของตัวเอง เริ่มต้นด้วยชิป M1 และยุติการใช้ Intel สิ้นเชิงในปี 2023
ข้อเสนอการซื้อหุ้นจากรัฐบาลเกิดขึ้นในช่วงที่ Intel กำลังดิ้นรนเพื่อกลับมาแข่งขันในตลาดการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ขณะที่ Apple ปัจจุบันออกแบบชิปเองและใช้บริการผลิตจาก TSMC
ปัจจุบัน Intel พยายามสร้างตัวเองให้เป็นพันธมิตรในการผลิตชิปให้แก่ลูกค้าภายนอก โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลเคยหยิบยกแนวคิดให้ TSMC มาร่วมดำเนินการโรงงานของ Intel ในรูปแบบกิจการร่วมค้า
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการรักษาความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและลดการพึ่งพาการผลิตชิปจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่ความตึงเครียดทางการค้ากับจีนยังคงดำเนินต่อไป
ข้อมูลจาก : MacRumors
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
