ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าอัปเกรดเครือข่าย 5G บนคลื่น 2600 MHz ให้ใช้งานเต็มแบนด์วิดท์ 90 MHz ในพื้นที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ย่านนิมมานเหมินท์และสนามบินเชียงใหม่ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานดิจิทัลรองรับเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ภาคเหนือ
การอัปเกรดครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาโครงข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) ที่จะเสร็จสิ้นทั่วประเทศในเดือนกันยายน 2568 โดยมุ่งตอบสนองความต้องการใช้งาน 5G ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ทรู คอร์ปอเรชั่น มีผู้ใช้งาน 5G ทั่วประเทศสูงถึง 14.7 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลไตรมาส 2/2568
ความสำเร็จในการเปิดใช้งาน 5G เต็มแบนด์วิดท์มาจากการที่บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากคลื่น 2300 MHz แบนด์วิดท์กว้าง 70 MHz ที่ได้จากการประมูล มารองรับผู้ใช้งาน 4G แทน จึงปลดล็อกให้คลื่น 2600 MHz ทำงาน 5G ได้เต็มประสิทธิภาพ
ปกติแล้วผู้ให้บริการมือถือทุกรายต้องแบ่งความจุแบนด์วิดท์ของคลื่น 2600 MHz เพื่อเปิดใช้งานทั้ง 5G และ 4G ร่วมกัน เนื่องจากต้องรองรับผู้ใช้งาน 4G จำนวนมาก จึงไม่สามารถเปิดใช้งาน 5G ได้เต็มแบนด์
ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่ครบที่สุดในไทยด้วย 8 คลื่นความถี่ ครอบคลุมทุกย่านทั้งคลื่นความถี่ต่ำ-กลาง-สูง ได้แก่ 700 MHz, 900 MHz, 1500 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz
พื้นที่เป้าหมายในการอัปเกรดครั้งนี้ ได้แก่ ย่านนิมมานเหมินท์ ซึ่งเป็นหัวใจเศรษฐกิจและแหล่งรวมร้านค้า คาเฟ่ และพื้นที่ทำงานร่วม (Co-working Space) ที่เป็นที่นิยมของนักเดินทางดิจิทัล (Digital Nomads) และ สนามบินเชียงใหม่ ศูนย์กลางการคมนาคมสำคัญของภาคเหนือที่รองรับผู้โดยสารประมาณ 8.5-11 ล้านคนต่อปี
จังหวัดเชียงใหม่ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 5 ของประเทศไทย และอันดับหนึ่งในภาคเหนือ ตามรายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยในครึ่งแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกว่า 6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทยที่เติบโตสูงถึง 6.55% แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้ความต้องการใช้งานเครือข่ายสื่อสารและอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน
นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราดำเนินการอัปเกรด 5G คลื่น 2600 MHz ให้เต็มประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่องทั่วไทย โดยครั้งนี้เรามุ่งพัฒนาที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคเหนือ”
“เครือข่ายของเราจะตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องการความเร็วและเสถียรภาพสูง เพิ่มประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยว เศรษฐกิจดิจิทัล และวิถีชีวิตของชาวเชียงใหม่” นายประเทศกล่าวเพิ่มเติม
การผนึกเครือข่ายใหม่นี้ทำให้ลูกค้าทั้ง ทรูมูฟ เอช และ ดีแทค ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่ผสานจุดแข็งเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ โดยลูกค้าทั้งสองแบรนด์สามารถใช้งานบนเครือข่ายเดียวกันด้วยประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม
ความแข็งแกร่งของการผนึกกำลังครั้งนี้สะท้อนจากผลการประเมินของสถาบัน nPerf ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดอันดับให้ ทรู 5G ครองตำแหน่งเครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทยต่อเนื่อง 9 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2559-2567
จากผลสำรวจรายงาน nPerf 2024 ระบุว่า ทรูมูฟ เอช ครองความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ด้วยคะแนนรวมสูงสุด 104,336 คะแนน ความเร็วอัปโหลดสูงสุด 37.33 เมกะบิตต่อวินาที และค่า Latency ต่ำที่สุดเพียง 23.83 มิลลิวินาที
ขณะที่ ดีแทค โดดเด่นในด้านคุณภาพการใช้งานจริง (Quality of Experience) มอบประสบการณ์การท่องเว็บ (Web Browsing) และการรับชมความบันเทิงแบบสตรีมมิ่ง (Streaming) ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
