Dyson ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากอังกฤษ เปิดตัว Dyson OnTrac เฮดโฟนรุ่นล่าสุดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ หลังจากสร้างกระแสในตลาดโลกมาตลอดปีที่ผ่าน
พร้อมมาทำตลาดเฮดโฟนพรีเมียมด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเสียงคุณภาพเต็มสเป็กตรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 55 ชั่วโมง และที่สำคัญคือความสามารถในการปรับแต่งลุคได้มากกว่า 2,000 แบบ ในราคา 19,900 บาท
เสียงคุณภาพระดับสตูดิโอ ครอบคลุมทุกความถี่
สิ่งที่ทำให้ Dyson OnTrac โดดเด่นในตลาดเฮดโฟนพรีเมียม คือคุณภาพเสียงที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยลำโพงไดรเวอร์นีโอดีเมียมขนาด 40 มม. ความต้านทาน 16 โอห์ม และระบบประมวลผลสัญญาณเสียงขั้นสูง
ช่วงความถี่ที่กว้างเป็นพิเศษตั้งแต่ 6Hz ไปจนถึง 21,000Hz ทำให้ได้เสียงเต็มสเป็กตรัม ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสหนักแน่นในเพลง EDM หรือเสียงแหลมสูงคมชัดในเพลงคลาสสิก ทุกรายละเอียดจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมจริง
ที่น่าสนใจคือตัวครอบลำโพงที่ออกแบบให้เอียงเข้าหาใบหู 13 องศา เพื่อให้เสียงเข้าหูได้ตรงและชัดเจนที่สุด นี่คือเหตุผลที่ Dyson OnTrac™ ให้ประสบการณ์การฟังที่แตกต่างจากเฮดโฟนทั่วไป

ระบบตัดเสียงรบกวนที่ทรงพลัง
หนึ่งในจุดขายหลักของ Dyson OnTrac คือระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC) ที่ปรับตามสภาพแวดล้อมได้อัตโนมัติ ใช้ไมโครโฟน 8 ตัว ทำงานร่วมกันตรวจสอบเสียงรอบข้างได้มากถึง 384,000 ครั้งต่อนาที
ระบบนี้ทำงานร่วมกับวัสดุคุณภาพเยี่ยมและรูปทรงภายในหูฟังที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 40 เดซิเบล ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถไฟฟ้า เสียงแอร์ หรือเสียงคุยของคนรอบข้าง
การเปิดปิดระบบ ANC ทำได้ง่ายๆ เพียงแตะเบาๆ สองครั้งที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้การใช้งานเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย
แบตเตอรี่ทนทานสุด 55 ชั่วโมง
จุดเด่นที่สำคัญอีกประการของ Dyson OnTrac คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้สูงสุด 55 ชั่วโมง แม้จะเปิดระบบตัดเสียงรบกวน ANC ตลอดเวลาก็ตาม นี่หมายความว่าคุณสามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์โดยไม่ต้องเสียบชาร์จ
ความลับอยู่ที่แบตเตอรี่ลิเธียมไออนประสิทธิภาพสูงสองก้อนที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในก้านคาดศีรษะ การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้แบตเตอรี่ทนทานขึ้น แต่ยังช่วยกระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล ทำให้สวมใส่สบายแม้ในระยะเวลาที่นานๆ
สำหรับคนที่ใช้งานหนักหรือเดินทางบ่อย ความสามารถในการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานนี้ถือเป็นจุดขายที่สำคัญมาก
ปรับแต่งสไตล์ได้มากกว่า 2,000 แบบ ไม่ซ้ำใคร

สิ่งที่ทำให้ Dyson OnTrac แตกต่างจากเฮดโฟนทุกรุ่นในตลาด คือความสามารถในการปรับแต่งสไตล์ที่ไม่จำกัด มาพร้อม 4 สีหลัก ที่ผลิตอย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ได้แก่ CNC Aluminum, CNC Copper, CNC Black Nickel และสีพิเศษ Ceramic Cinnabar ที่มาพร้อมผิวสัมผัสแบบเคลือบเซรามิก
ที่น่าตื่นเต้นคือคุณสามารถปรับแต่งเฮดโฟนให้เป็นสไตล์ของตัวเองได้ด้วยการแมทช์ฝาครอบด้านนอกกับโฟมครอบหู ฝาครอบด้านนอกผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน มีให้เลือกเพิ่มเติมถึง 8 สี ในขณะที่บุมนวมมีให้เลือก 7 สี
การผสมผสานระหว่างฝาครอบและบุนวมทำให้สามารถสร้างลุคที่ไม่เหมือนใครได้มากกว่า 2,000 แบบ ทำให้ Dyson OnTrac™ เป็นเฮดโฟนที่แสดงออกถึงบุคลิกและสไตล์ส่วนตัวได้อย่างแท้จริง
แอปพลิเคชัน MyDyson และฟีเจอร์อัจฉริยะ
Dyson OnTrac มาพร้อมแอปพลิเคชัน MyDyson ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะ ระบบตรวจสอบเสียงแบบเรียลไทม์จะตรวจสอบระดับเสียงภายในและเสียงภายนอกหูฟัง พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อเสียงอยู่ในระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อการได้ยิน
แอปฯ ยังช่วยให้ผู้ใช้เลือกโหมดอีควอไลเซอร์แบบกำหนดเองได้ 3 แบบ ได้แก่ โหมด Bass Boost สำหรับคนรักเสียงเบส โหมด Neutral สำหรับเสียงที่สมดุล และโหมด Enhanced สำหรับเสียงที่คมชัดขึ้น
เซ็นเซอร์ตรวจจับศีรษะแบบคาปาซิทีฟจะตรวจจับเมื่อถอดเฮดโฟนจากการสวมใส่ ตัวเซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณให้หยุดเสียงที่กำลังเล่นชั่วคราวโดยอัตโนมัติ และเสียงจะกลับมาเล่นต่อทันทีเมื่อสวมใส่กลับคืน
ปุ่มควบคุมอัจฉริยะทำให้การเล่น หยุดชั่วคราว ข้ามเพลง กรอกลับไปข้างหน้าและย้อนกลับเป็นเรื่องง่าย หรือกดค้างเพื่อสั่งการด้วยเสียงได้ทันที
สำหรับการโทร ไมโครโฟนแบบ Dual Beam-forming จะรับเสียงสนทนาของคุณได้อย่างชัดเจน ไม่รับเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้การสนทนาทางโทรศัพท์มีคุณภาพดีเยี่ยม

วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาที่คุ้มค่า
Dyson OnTrac วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ในราคา 19,900 บาท สำหรับทั้ง 4 สี โดยจะมาพร้อมฝาครอบด้านนอกและบุนวมครอบหูตามสีที่คุณเลือก
สำหรับใครที่อยากโดดเด่นไม่เหมือนใคร ฝาครอบด้านนอก 8 สี และบุนวมครอบหู 7 สี วางจำหน่ายแยกในราคาคู่ละ 2,590 บาท
คุณสามารถเป็นเจ้าของ Dyson OnTrac ได้ที่ Dyson.co.th หรือหน้าร้าน Dyson Store นอกจากนั้นคุณยังสามารถเข้าไปออกแบบ Dyson OnTrac ในสไตล์ที่ไม่เหมือนใครด้วยเครื่องมือแสดงภาพ 360° ในเว็บไซต์ Dyson.co.th อีกด้วย
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
