Canon ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับโลก เปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรม AI ล้ำสมัย
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเกมรุกตลาดการพิมพ์ไทย ด้วยการนำเสนอเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน Canon ตระกูล imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งานในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล โดยครอบคลุม 4 แนวคิดหลัก ได้แก่ ความน่าเชื่อถือในคุณภาพ ความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูล การเชื่อมต่อที่ครอบคลุม และการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
นายฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร แคนนอน ไทยแลนด์ เผยว่า แคนนอนมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์อย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่ฟีเจอร์ใช้งานที่ทันสมัย แต่ยังรวมถึงโซลูชันการพิมพ์ที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในยุค AI ได้อย่างครอบคลุม
เครื่องพิมพ์ imageFORCE Series ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Make Business Move” โดยไม่เพียงนำเสนอนวัตกรรมการพิมพ์ประสิทธิภาพสูง แต่เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานในโลกยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ความโดดเด่นของ imageFORCE Series อยู่ที่ 4 จุดแข็งหลัก ประกอบด้วย Reliability ที่มอบคุณภาพเชื่อถือได้สูงสุด ด้วยฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูล AI แบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพและแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงรุก Security ที่มอบความปลอดภัยแบบ 360° เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญผ่านการประเมินความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับด้าน Connectivity เครื่องพิมพ์สามารถเชื่อมต่อได้หลายช่องทางอย่างราบลื่น ใช้ร่วมกับบริการ Cloud ชั้นนำ เช่น Google Drive, Dropbox, OneDrive รวมถึงเชื่อมต่อกับ Microsoft Teams และ SharePoint Online ได้อย่างง่ายดาย จึงสนับสนุนการทำงานทางไกลแบบไร้รอยต่อ
ด้าน Sustainability imageFORCE Series ทุกรุ่นใช้วัสดุรีไซเคิลสูงถึง 30% พร้อมเทคโนโลยีช่วยประหยัดพลังงาน เช่น ผงหมึกจุดหลอมเหลวต่ำและระบบหลอมรวมแบบตามความต้องการ
แคนนอนวางแผนเปิดตัวเครื่องพิมพ์ imageFORCE Series 4 รุ่นในปี 2568 ได้แก่
- imageFORCE C5100 เครื่องพิมพ์ A3 สีความเร็วสูง
- imageFORCE 6100 เครื่องพิมพ์ A3 ขาวดำ
- imageFORCE C7165 เครื่องพิมพ์สีรุ่นเรือธงเน้นประสิทธิภาพสูงสุด
- imageFORCE C3150 เครื่องพิมพ์สีดีไซน์กะทัดรัดเหมาะสำหรับออฟฟิศขนาดกลาง
การเปิดตัวครั้งนี้ยังเป็นการโชว์ศักยภาพโรงงาน แคนนอน จังหวัดปราจีนบุรี ในการสร้างฐานการผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันคุณภาพระดับโลกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Made in Thailand” โดยอาศัยฝีมือแรงงานไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่าสากล
นายมาโกโตะ นากามูระ ประธานบริษัท แคนนอน ปราจีนบุรี (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า โรงงานมีการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยและใช้วัสดุรีไซเคิลกว่า 30% ปัจจุบันโรงงานผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน รุ่น imageRUNNER และ imageRUNNER Advance DX ทั้งหมด 20 รุ่น และกำลังผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันในกลุ่ม imageFORCE Series ใหม่เพิ่มเติมอีก 9 รุ่นภายในปี 2568
ความสำเร็จของ แคนนอนสะท้อนจากการครองอันดับ 1 ตลาดเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน เลเซอร์ A3 และ A4 ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อนในภูมิภาคเอเชีย โดยมีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารขาวดำถึง 28% และกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารสีกว่า 20%
นายพงศพร กรอบสนิท ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น แคนนอนไทยแลนด์ ระบุว่า ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีคาดว่าจะมียอดจำหน่ายสูงถึง 25,000 เครื่องในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 127% โดยผู้ใช้งานกว่า 60% ยังมองว่าการพิมพ์เป็นสิ่งจำเป็นในการสื่อสารกับลูกค้า
แคนนอนยังนำเสนอ 2 นวัตกรรมใหม่ คือ เทคโนโลยี D² Exposure ที่ใช้อุปกรณ์การผลิตจอแสดงผลไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์ (OLED) ในการพิมพ์ มอบคุณภาพงานพิมพ์ระดับพรีเมียม ด้วยความละเอียดสูงถึง 4,800 x 2,400 dpi และเทคโนโลยี E2 Analysis การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหางานพิมพ์ล่วงหน้าจากระยะไกลก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
