ASUS Republic of Gamers (ROG) ได้เปิดตัวจอมอนิเตอร์เกมมิ่ง OLED รุ่นใหม่ 3 รุ่น ในงาน Gamescom 2025 ที่เยอรมนี โดยนำเสนอเทคโนโลยี Tandem OLED ที่พัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมเคลือบผิว TrueBlack Glossy เพื่อยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม
จอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ประกอบด้วย ROG Swift OLED PG27AQWP-W, ROG Strix OLED XG27AQWMG และ ROG Strix OLED XG27AQDMG Gen 2 ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่หลายประการ รวมถึงความถี่รีเฟรชสูงสุด 540Hz ซึ่งเป็นสถิติใหม่สำหรับจอ OLED ในตลาดโลก
เทคโนโลยี Tandem OLED ก้าวล้ำสู่อนาคต
เทคโนโลยี Tandem OLED ที่ ASUS พัฒนาขึ้นใหม่นี้ มาพร้อมข้อได้เปรียบที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับจอ WOLED รุ่นก่อนหน้า โดยสามารถเพิ่มความสว่างสูงสุดได้ถึง 15% และขยายปริมาตรสีได้มากขึ้น 25%
ที่สำคัญที่สุดคือการยืดอายุการใช้งานของแผง OLED ได้นานขึ้นถึง 60% ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ผู้ใช้จอ OLED มักกังวลเรื่องการ Burn-in หรือการเสื่อมสภาพของพิกเซล
เทคโนโลยีนี้ยังคงรักษาคุณสมบัติเด่นของ OLED เช่น เวลาตอบสนอง 0.03ms GTG ที่รวดเร็วสุดขีด รองรับมาตรฐาน VESA DisplayHDR 500 True Black และครอบคลุมพื้นที่สี DCI-P3 ได้ถึง 99.5%
ASUS ROG Swift OLED PG27AQWP-W จอ OLED เร็วที่สุดในโลก

ROG Swift OLED PG27AQWP-W เป็นจอมอนิเตอร์ขนาด 26.5 นิ้ว ความละเอียด QHD ที่สามารถอ้างได้ว่าเป็นจอ OLED ที่เร็วที่สุดในโลกด้วยรีเฟรชเรตสูงถึง 540Hz แบบ Native ซึ่งเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
จุดเด่นของรุ่นนี้คือระบบ Dual Mode ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างโหมด QHD@540Hz สำหรับการเล่นเกมแข่งขัน หรือโหมด HD@720Hz ตามความต้องการ ทำให้สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพได้อย่างยืดหยุ่น

ในด้านการเชื่อมต่อ รุ่นนี้มาพร้อม DisplayPort 2.1a UHBR20 ที่รองรับแบนด์วิดธ์เต็ม 80Gbps และ HDMI 2.1 รวมถึงรองรับการติดตั้งขาตั้งกล้องแบบมาตรฐาน Tripod Socket ส่วนดีไซน์ภายนอกมาในโทนสีเงินพร้อมแผงหลังแบบกึ่งโปร่งใสที่ดูทันสมัย
ROG Strix OLED XG27AQWMG พลังเกมมิ่งในระดับสูง

ROG Strix OLED XG27AQWMG เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพระดับสูง ด้วยขนาดหน้าจอ 26.5 นิ้ว ความละเอียด QHD และความถี่รีเฟรช 280Hz ที่ยังคงให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลเยี่ยม
รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Tandem OLED เช่นเดียวกับรุ่นท็อป ทำให้ได้รับประโยชน์ในเรื่องความสว่าง ปริมาตรสี และอายุการใช้งานที่ดีขึ้น ขณะที่ยังคงมาตรฐาน VESA DisplayHDR 500 True Black และความแม่นยำสี Delta E<2
จุดเด่นเพิ่มเติมคือขาตั้งใหม่ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม 30% เมื่อเทียบกับจอ XG ขนาด 27 นิ้วรุ่นก่อน ทำให้ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะได้มากขึ้น พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่าน DisplayPort 1.4 (DSC), HDMI 2.1 และ USB Hub
เคลือบผิว TrueBlack Glossy เพื่อภาพที่สมจริง
นวัตกรรม TrueBlack Glossy Coating เป็นเทคโนโลยีเคลือบผิวใหม่ที่ ASUS พัฒนาขึ้นเพื่อให้ภาพมีความคมชัดสูงสุดและสีดำที่ลึกที่สุด โดยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อม
เคลือบผิวนี้ช่วยลดการสะท้อนแสงที่ไม่ต้องการ ทำให้ภาพดูคมชัดและมีคอนทราสต์สูง เหมาะสำหรับทั้งการเล่นเกมและงานกราฟิกที่ต้องการความแม่นยำสูง ผู้ใช้จะได้สัมผัสประสบการณ์ภาพที่เหมือนจริงมากขึ้น
การออกแบบเคลือบผิวนี้ยังคำนึงถึงการใช้งานในระยะยาว โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของแผง OLED และยังช่วยปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วนเล็กน้อยอีกด้วย
ระบบป้องกัน OLED Care Pro และ Neo Proximity Sensor
ปัญหาการ Burn-in เป็นข้อกังวลหลักของผู้ใช้จอ OLED ASUS จึงพัฒนาระบบ OLED Care Pro ที่มาพร้อม Neo Proximity Sensor รุ่นล่าสุดเพื่อป้องกันปัญหานี้อย่างชาญฉลาด
Neo Proximity Sensor ใช้เทคโนโลยีการตรวจจับความยาวคลื่นเพื่อวัดระยะห่างระหว่างผู้ใช้กับจอมอนิเตอร์อย่างแม่นยำ เมื่อระบบตรวจพบว่าผู้ใช้ออกไปจากหน้าจอ จะสลับไปแสดงภาพสีดำโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการติดภาพ
เมื่อผู้ใช้กลับมา ระบบจะคืนภาพเดิมทันทีโดยไม่มีความล่าช้า ผู้ใช้ยังสามารถปรับระยะการตรวจจับได้ตามความต้องการ ทำให้สะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด
ROG Strix OLED XG27AQDMG Gen 2 อัปเกรดเพื่อความสมบูรณ์

ROG Strix OLED XG27AQDMG Gen 2 เป็นการอัปเกรดจากรุ่นเดิมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยขนาดหน้าจอ 26.5 นิ้ว ความละเอียด QHD และความถี่รีเฟรช 240Hz ที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมทั่วไป
รุ่น Gen 2 นี้ได้รับการเพิ่มเทคโนโลยี TrueBlack Glossy Coating และ Neo Proximity Sensor ที่ไม่มีในรุ่นเดิม ทำให้ได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นทั้งในด้านคุณภาพภาพและความปลอดภัยของแผง OLED
แม้จะเป็นรุ่น Gen 2 แต่ยังคงรองรับมาตรฐาน VESA DisplayHDR 400 True Black, ครอบคลุมพื้นที่สี DCI-P3 ได้ 99% และมีความแม่นยำสี Delta E<2 เหมาะสำหรับทั้งการเล่นเกม การออกแบบกราฟิก และการผลิตวิดีโอ
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
