ยุคของพลังงานสะอาดมาถึงแล้ว! ทรูมันนี่ ผนึกกำลังกับ เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า และ อัลเตอร์วิม เปิดตัวบริการสินเชื่อดิจิทัลเพื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์ครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้การเป็นเจ้าของระบบพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
การประกาศความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดโซลาร์เซลล์ในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากรายงานของ Verified Market Research ระบุว่าตลาดนี้มีมูลค่า 3.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 และคาดว่าจะขยายตัวไปถึง 9.46 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 ด้วยอัตราการเติบโต 14% ต่อปี สะท้อนความต้องการพลังงานทางเลือกที่เพิ่มสูงขึ้น
นายกรกฤต เมฆบุญส่งลาภ ผู้อำนวยการฝ่ายความสำเร็จทางธุรกิจของพันธมิตร บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด เผยว่า “เราต้องการผสานจุดแข็งของ FinTech เพื่อผลักดัน GreenTech ให้คนไทยเข้าถึงโซลูชันพลังงานสะอาดได้จริง ผ่านการนำเสนอบริการวงเงินพร้อมใช้ที่สมัครออนไลน์ได้สะดวกรวดเร็ว”
บริการ เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า นี้มาพร้อมเงื่อนไขที่น่าสนใจ ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 500,000 บาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.6% ต่อเดือน ลูกค้าสามารถสมัครผ่านแอปทรูมันนี่ได้ทันที ทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น
นอกจากเงื่อนไขทางการเงินที่ยืดหยุ่นแล้ว ลูกค้ายังได้รับบริการครบวงจรจาก อัลเตอร์วิม ตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ การวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า การออกแบบและติดตั้งระบบ ไปจนถึงบริการหลังการขาย โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 2,800 โครงการทั่วประเทศ ซึ่งสามารถช่วยลดค่าไฟได้สูงสุดกว่า 70%
นางสาวภควดี กอเจริญรัตนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อัลเตอร์วิม จำกัด กล่าวเสริมว่า “การร่วมมือนี้ช่วยลดอุปสรรคเรื่องต้นทุนและขั้นตอนที่ซับซ้อน ผ่านโซลูชันทางการเงินที่คล่องตัว ช่วยให้ลูกค้าทั่วไปและกลุ่มธุรกิจตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น”
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงพลังงานสะอาดได้ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero และสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรต่อโลก
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ truemoney.com และ altervim.com
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
