review realme P3 5G รีวิว

รีวิว realme P3 5G – สมาร์ตโฟนเกมมิ่ง แบตอึด ทนทาน ในงบไม่ถึงหมื่น

รีวิว realme P3 5G สมาร์ตโฟนเกมมิ่งราคา 9,999 บาท ชิป Snapdragon 6 Gen 4 แบตอึด 6000mAh พร้อมมาตรฐาน IP69 คุ้มค่าใช้ยาวๆ สำหรับคนงบประหยัด

เป็นครั้งแรกกับการมาถึงของ realme P-Series ในตลาดประเทศไทยนับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะ realme P3 5G ที่เปิดตัวพร้อมกับนิยาม “Dual Performance” ซึ่งชูจุดเด่นด้านพลังการประมวลผลที่รวดเร็วควบคู่ไปกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานเป็นพิเศษ

สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็น “ผู้สร้างมาตรฐานใหม่” (Segment Redefiner) ในวงการมือถือระดับกลาง โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทลายกำแพงด้านราคา ด้วยการนำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้อย่างน่าทึ่งที่ 9,999 บาท

ใน รีวิว realme P3 5G ทีมงาน techOffside เราได้ทดสอบลองใช้อย่างละเอียดในทุกมิติ ตั้งแต่การออกแบบและคุณภาพงานประกอบ ประสิทธิภาพของจอแสดงผล การทดสอบขุมพลังการประมวลผลในการใช้งานจริง การวิเคราะห์คุณภาพของระบบกล้องถ่ายภาพ ไปจนถึงการพิจารณาประสบการณ์ด้านซอฟต์แวร์และแบตเตอรี่ ก่อนจะสรุปด้วยบทสรุปที่ชัดเจนว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มีความคุ้มค่าและเหมาะสมกับผู้ใช้งานกลุ่มใดมากที่สุด

แกะกล่อง รีวิว realme P3 5G

ในแพ็กเกจของ realme P3 5G นอกจากตัวเครื่องแล้ว จะมีในส่วนของเอกสารความปลอดภัย, เข็มจิ้มถาดซิม พร้อมกับเคสใสสำหรับป้องกันรอย ในรุ่นนี้มาในวัสดุแบบขาวขุ่นลวดลายแบบลายทาง เมื่อใส่กับเครื่องแล้วจะมีควมรู้สึกเหมือนเป็นนวมนุ่มๆ หุ้มตัวเครื่อง ดูสวยแปลกตาดี

ด้านล่างสุดของกล่องจะมีชุดอุปกรณ์สำหรับชาร์จ ที่ให้มาเป็นสายเคเบิลหัว USB-A to USB-C และ อะแดปเตอร์ชาร์จมาตรฐาน 45W SUPERVOOC พร้อมสำหรับการใช้งานและชาร์จได้รวดเร็วเต็มประสิทธิภาพของเครื่อง

การออกแบบและคุณภาพงานประกอบ: แกร่ง ทนทาน แต่คุ้มค่าเงิน

รีวิว realme P3 5G

ในแง่ของการออกแบบ realme P3 5G มาพร้อมกับรูปทรงที่ทันสมัยและใช้งานได้จริง ด้วยขนาดตัวเครื่อง 163.15 x 75.65 x 7.97 มม. และน้ำหนัก 194 กรัม ทำให้การจับถือมีความสมดุล ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป การออกแบบใช้ขอบตัวเครื่องแบบแบน (Flat Edges) ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ให้ความรู้สึกที่ดูโมเดิร์น

รีวิว realme P3 5G

อย่างไรก็ตาม เพื่อควบคุมต้นทุนให้สอดคล้องกับราคาจำหน่าย วัสดุที่ใช้สำหรับฝาหลังและกรอบตัวเครื่องเป็นพลาสติกทั้งหมด ซึ่งให้ความรู้สึกในการสัมผัสที่เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกพรีเมียมเทียบเท่ากับสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันซึ่งอาจใช้วัสดุที่เป็นกระจกหรือโลหะ

สำหรับตลาดในประเทศไทย มีตัวเลือกสีให้ 2 สีคือ Starlight Green และ Comet Grey ที่ได้แรงบันดาลใจจากจักรวาลและความฝันของคนรุ่นใหม่

ความทนทานระดับสูงในระดับราคาไม่เกินหมื่น

จุดที่ทำให้ realme P3 5G โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันอย่างสิ้นเชิง คือคุณสมบัติด้านความทนทานที่สูงเกินความคาดหมาย

ข้อมูลทางเทคนิคระบุว่า realme P3 5G ได้รับการรับรองมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นถึง 3 ระดับพร้อมกัน คือ IP66, IP68 และ IP69 โดยแต่ละมาตรฐานจะมีความทนทานต่อสภาวะต่างๆ ดังนี้

  • IP66: ให้การป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์และสามารถทนทานต่อการฉีดน้ำแรงดันสูงได้จากทุกทิศทาง
  • IP68: ให้การป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์และสามารถทนทานต่อการจมน้ำอย่างต่อเนื่องในระดับความลึกที่ผู้ผลิตกำหนด (ในกรณีนี้คือ 2.5 เมตร นาน 30 นาที)
  • IP69: เป็นมาตรฐานสูงสุดที่ให้การป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์และทนทานต่อการฉีดน้ำแรงดันสูงและอุณหภูมิสูงได้ ซึ่งมักจะพบในอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมหรืออุปกรณ์ที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ

การที่สมาร์ตโฟนราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาทมาพร้อมกับมาตรฐาน IP69 ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับตลาดอย่างแท้จริง

จอแสดงผล AMOLED 120Hz ที่สดใส

รีวิว realme P3 5G

จอแสดงผลของ realme P3 5G ถือว่ามีความโดดเด่นอย่างมากในกลุ่มราคานี้ โดยมาพร้อมกับหน้าจอพาเนล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2400×1080 พิกเซล) และมีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz

คุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและเนียนตา ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนดูเนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย การท่องเว็บ หรือที่สำคัญที่สุดคือการเล่นเกม ซึ่งความลื่นไหลของหน้าจอเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบและความเพลิดเพลินในการเล่น

ด้วยหน้าจอที่เป็น AMOLED มีความสว่างสูงสุด (Peak Brightness) ถึง 2000 nits (ในการแสดงผลเนื้อหา HDR) ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ระบุความสว่างปกติ (Typical Brightness) ไว้ที่ 600 nits ทำให้การใช้งานกลางแจ้งภายใต้แสงแดดโดยตรงนั้น อยู่ในระดับที่ใช้ได้ทั่วไป แต่อาจจะสู้ไม่ไหวในสภาพแดดจัดมากๆ

ประสบการณ์ด้านเสียง

รีวิว realme P3 5G

ในด้านระบบเสียง realme P3 5G มาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอ ซึ่งให้ระดับเสียงที่ดังเพียงพอสำหรับการรับชมวิดีโอและเล่นเกม อย่างไรก็ตาม คุณภาพเสียงจะเริ่มลดลงเมื่อเปิดระดับเสียงสูงสุด โดยเสียงจะขาดความลึกและมิติไปบ้าง

นอกจากนี้อุปกรณ์ยังไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ ซึ่งเป็นแนวทางปกติของสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน แต่ผู้ที่ยังใช้หูฟังแบบมีสายอาจต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงจาก USB Type-C เป็น 3.5 มม. หรือใช้เป็นหูฟังมีสายแบบ USB-C แทน

ประสิทธิภาพ: ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 4 เพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ

ประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญที่ realme P3 5G ใช้เป็นจุดขายหลัก ด้วยการเลือกใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 6 Gen 4 ถือว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนกลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 6 Gen 4 ที่ได้รับการอัปเกรดกระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตรที่ทันสมัยของ TSMC และใช้สถาปัตยกรรม CPU ARMv9 ซึ่งประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง Cortex-A720 และคอร์ประหยัดพลังงาน Cortex-A520

กระบวนการผลิตที่เล็กลงและสถาปัตยกรรมที่ใหม่กว่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพลังการประมวลผล แต่ยังส่งผลดีต่อการจัดการพลังงาน ทำให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าชิปเซ็ตรุ่นเก่าในสมาร์ตโฟนระดับเดียวกัน

คะแนนทดสอบมาตรฐาน AnTuTu ที่ realme อ้างว่าสูงกว่า 760,000 คะแนน เป็นการยืนยันถึงศักยภาพด้านประสิทธิภาพบนกระดาษที่น่าประทับใจสำหรับสมาร์ตโฟนในกลุ่มราคานี้

ประสบการณ์เกมมิ่ง

จุดขายที่ชัดเจนที่สุดของ realme P3 5G คือความสามารถในการรองรับการเล่นเกมที่เฟรมเรตสูง อย่างเช่น Mobile Legends Bang Bang จากการทดสอบพบว่า ตัวเครื่องสามารถรักษาระดับเฟรมเรตเฉลี่ยได้ระหว่าง 82-90 FPS ซึ่งมอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดีเยี่ยม

ในเรื่องของการควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบระบายความร้อน AeroSpace Cooling System ที่ให้มา ทำให้ช่วยรักษาอุณหภูมิได้ในระดับที่ดีในการเล่นในช่วงแรก โดยที่จะเริ่มมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นในระดับที่สัมผัสได้เมื่อเล่นต่อเนื่องไปประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง

ถึงกระนั้น realme ก็ได้ใส่ฟีเจอร์ที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความต้องการของเกมเมอร์มาด้วย เช่น GT Boost ที่ช่วยเร่งประสิทธิภาพสูงสุดทันทีที่เปิดเกม และ Bypass Charging ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ชาญฉลาด โดยเมื่อเสียบสายชาร์จระหว่างเล่นเกม ระบบจะดึงพลังงานไปเลี้ยงตัวเครื่องโดยตรงแทนที่จะชาร์จเข้าแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยลดความร้อนที่เกิดจากการชาร์จและถนอมสุขภาพแบตเตอรี่ไปในตัว

การใช้งานทั่วไป

สำหรับการใช้งานทั่วไป realme P3 5G มาพร้อมกับ RAM ขนาด 8GB (ชนิด LPDDR4X) และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256GB ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน แต่ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลของ UFS 2.2 นั้นอาจจะช้ากว่ามาตรฐาน UFS 3.1 ที่เริ่มพบได้ในสมาร์ตโฟนที่มีราคาสูงขึ้นในหลักหมื่นบาทขึ้นไป ทำให้อาจจะมีความช้าอยู่บ้างในการโหลดข้อมูลหรือเปิดแอปพลิเคชันขนาดใหญ่

ระบบกล้อง: 50MP คมชัด แต่ยืดหยุ่นน้อยไปนิด

ระบบกล้องของ realme P3 5G สะท้อนให้เห็นถึงการจัดลำดับความสำคัญของอุปกรณ์นี้อย่างชัดเจน โดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพการทำงานและแบตเตอรี่เป็นหลัก ทำให้ส่วนของกล้องมีคุณสมบัติที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่โดยที่ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างที่อาจจะทำให้ในการใช้งานถ่ายภาพหรือวิดีโอในบางสถานการณ์อาจจะไม่ยืดหยุ่นมากนัก

ระบบกล้องหลังประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP และกล้องเสริมสำหรับวัดความลึก (Depth Sensor) ความละเอียด 2MP จุดที่ต้องสังเกต 2 ประการคือ:

  1. ไม่มีระบบกันสั่นแบบออปติคอล (OIS – Optical Image Stabilization): การขาดหายไปของ OIS ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ทำให้มีโอกาสเกิดภาพเบลอจากการสั่นของมือได้ง่ายขึ้น และยังทำให้การบันทึกวิดีโอมีความนิ่งและราบรื่นน้อยลง
  2. ไม่มีเลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultrawide): ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเก็บภาพทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ หรือถ่ายภาพหมู่ในพื้นที่จำกัดได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่ผู้ใช้จำนวนมากคาดหวังจากสมาร์ตโฟนในยุคปัจจุบัน

ภาพถ่ายในแต่สถานการณ์

จากการรวบรวมข้อมูลการใช้งานจริง สามารถสรุปคุณภาพของภาพถ่ายได้ดังนี้:

  • สภาพแสงกลางวัน: ในสภาวะแสงที่ดี กล้องหลัก 50MP สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ภาพมีความสดใส คมชัด และมีรายละเอียดที่ดี เหมาะสำหรับการแชร์บนโซเชียลมีเดียโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม
  • สภาพแสงน้อย: เมื่อเปิดใช้งานโหมดกลางคืน (Night Mode) คุณภาพของภาพจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยซอฟต์แวร์จะช่วยดึงความสว่างและรายละเอียดในส่วนมืดของภาพออกมาได้มากขึ้น แต่หากไม่ใช้โหมดนี้ ภาพถ่ายในที่แสงน้อยอาจมีสัญญาณรบกวน (Noise) และเกิดแสงฟุ้งจากแหล่งกำเนิดแสงได้ง่าย
  • โหมดภาพบุคคล (Portrait Mode): การตรวจจับขอบของตัวแบบเพื่อเบลอพื้นหลังทำได้ค่อนข้างดี ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่ในบางสถานการณ์อาจยังพบความไม่สมบูรณ์ในการตัดขอบได้บ้าง
  • กล้องหน้า: กล้องหน้าความละเอียด 16MP ให้ภาพเซลฟี่ที่มีรายละเอียดและสีผิวที่ดูดีในสภาพแสงที่เพียงพอ แต่มีข้อสังเกตว่า บางครั้งซอฟต์แวร์อาจปรับให้ใบหน้าของตัวแบบดูมืดลงโดยไม่จำเป็น

ความสามารถของ “AI Camera”

realme ทำการตลาดกล้องรุ่นนี้ว่าเป็น “50MP AI Camera” ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ในการปรับแต่งภาพในหลายๆ จุด เพื่อช่วยทดแทนข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะเห็นว่า ภาพผ่านการประมวลผลจากซอฟต์แวร์จนรู้สึกไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ทำให้ภาพถ่ายที่ได้นั้นอยู่ในระดับที่ถ่ายปุบ สวยปับ เอาไปอัพขึ้นโซเชียลได้เลย แต่ถ้าจะเอาไปเพื่อทำงานหรือตกแต่งเพิ่มก็อาจจะไม่ค่อยถูกใจนัก

ความสามารถด้านวิดีโอ

จุดแข็งอย่างหนึ่งคือความสามารถในการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีด้วยกล้องหลัง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นในราคานี้ อย่างไรก็ตาม ระบบกันสั่นเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ (gyro-EIS) เท่านั้น ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ราบรื่นน้อยกว่าระบบกันสั่นแบบออปติคอล (OIS)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ realme P3 5G

แบตเตอรี่และชาร์จเร็ว: พลังขับเคลื่อนที่ตอบโจทย์

realme P3 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ชูจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพที่คุ้มกับราคา และเรื่องของแบตเตอรี่ก็ทำได้ดีด้วยเช่นกัน

หนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นเสาหลักและสร้างตัวตนให้กับ realme P3 5G คือแบตเตอรี่ขนาดมหึมาถึง 6000mAh ความจุระดับนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมหาศาลเหนือสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันส่วนใหญ่ จากข้อมูลการใช้งานจริงยืนยันถึงความอึดทนทานเป็นพิเศษ โดยสามารถใช้งานหนักได้แบบตั้งแต่เช้ายันเย็นได้สบายๆ และสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ได้สบายๆ ถึงสองวันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ในแง่ของการเล่นเกมซึ่งเป็นกิจกรรมที่ใช้พลังงานสูง มีการทดสอบหนึ่งพบว่า การเล่นเกมที่ 120FPS เป็นเวลาสองชั่วโมง ทำให้แบตเตอรี่ลดลงจาก 100% เหลือ 55% ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้สามารถคาดหวังการเล่นเกมต่อเนื่องได้นานกว่าสี่ชั่วโมงเต็ม นี่คือความอึดที่ตอบโจทย์เกมเมอร์และผู้ใช้งานหนักได้อย่างแท้จริง

รีวิว realme P3 5G

ด้านการชาร์จ อุปกรณ์มาพร้อมกับหัวชาร์จ 45W ในกล่อง ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 1-50% ได้ในเวลาประมาณ 30 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งถือว่ามีความเร็วที่เหมาะสมและสะดวกสบายสำหรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่นี้

และด้วยการมีระบบ Bypass Charging ที่สามารถชาร์จไฟไปพร้อมกับการเล่นเกม เพื่อลดภาระการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบเพื่อการเล่นเกมอย่างแท้จริง

realme UI 6.0: ประสบการณ์ใช้งานที่ทันสมัย

realme P3 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Android 15 ตัวระบบปฏิบัติการเองมีฟังก์ชันการปรับแต่งที่หลากหลายและมีสีสันสดใส มีฟีเจอร์ด้าน AI พื้นฐานหลายตัวที่ให้มาพร้อมกับระบบ และรองรับทำงานกับ Gemini เพื่อเพิ่มความสามารถให้ระบบชาญฉลาดมากขึ้น

ในการแต่งรูป มี AI สำหรับแต่งภาพมาให้ใช้หลายตัว และ AI ลบวัตถุในภาพก็มีมาให้ใช้ด้วยเช่นกัน

สำหรับนโยบายการอัปเดตซอฟต์แวร์มาตรฐานของ realme สำหรับสมาร์ตโฟน P-Series ระดับกลางคือการการันตีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android ครั้งใหญ่เป็นเวลา 2 ปี และการอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยเป็นเวลา 3 ปี

เนื่องจาก realme P3 5G เปิดตัวมาพร้อมกับ Android 15 จึงหมายความว่า ผู้ใช้สามารถคาดหวังว่าจะได้รับการอัปเดตไปถึง Android 16 และ Android 17 โดยการสนับสนุนด้านความปลอดภัยจะสิ้นสุดลงในช่วงปี 2028 นี่เป็นระดับการสนับสนุนที่ยอมรับได้สำหรับสมาร์ตโฟนระดับกลางในปี 2025 แต่ก็ไม่ได้ถือว่าโดดเด่นเป็นพิเศษ เนื่องจากแบรนด์คู่แข่งบางรายเริ่มเสนอนโยบายการอัปเดตที่ยาวนานกว่า

รีวิว realme P3 5G

บทสรุป รีวิว realme P3 5G คุ้มค่าหรือไม่ และเหมาะสำหรับใคร?

บทสรุปของ realme P3 5G คือภาพของสมาร์ตโฟนที่มีความสุดขั้วในตัวเอง มันเป็นอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากจุดแข็งที่โดดเด่นอย่างชัดเจน และในขณะเดียวกันก็ยอมแลกมาด้วยการประนีประนอมในด้านอื่นๆ อย่างจงใจ อุปกรณ์นี้มอบความเป็นเลิศใน 3 ด้านหลักที่หาคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันได้ยากได้แก่ ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีและทรงพลัง, ความอึดของแบตเตอรี่ที่อยู่ในระดับแนวหน้า และความทนทานทางกายภาพที่เหนือความคาดหมาย

อย่างไรก็ตาม จุดแข็งเหล่านี้ต้องแลกมาด้วยข้อจำกัดในด้านความยืดหยุ่นของกล้องถ่ายภาพ (ไม่มี OIS และเลนส์ Ultrawide) และความสว่างของหน้าจอที่อยู่ในระดับพอใช้เมื่อใช้งานจริงกลางแจ้ง

realme P3 5G เหมาะสำหรับใคร?

  1. เกมเมอร์สายประหยัด (The Budget-Conscious Gamer): ผู้ใช้งานที่มีเป้าหมายหลักคือการเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น PUBG ที่เฟรมเรตสูงๆ โดยมีงบประมาณที่จำกัดอย่างเข้มงวดไม่เกิน 10,000 บาท ผู้ใช้กลุ่มนี้พร้อมที่จะมองข้ามข้อจำกัดด้านกล้องและซอฟต์แวร์เพื่อแลกกับประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมในราคาที่จ่ายไป
  2. ผู้ใช้งานสายอึด (The Endurance-Focused Power User): ผู้ที่ให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ต้องทำงานนอกสถานที่ตลอดวัน เช่น พนักงานส่งของ ที่ต้องการโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานหนัก (เปิด GPS, ข้อมูลมือถือตลอดเวลา) ได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด และยังต้องการความทนทานต่อสภาพอากาศและอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน
  3. ผู้ที่มองหาความคุ้มค่าโดยรวม: ผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่ครบเครื่องในราคาสมเหตุสมผล โดยยอมรับได้กับข้อจำกัดบางอย่างเพื่อแลกกับคุณสมบัติเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งานหลัก

สรุปโดยรวมแล้ว realme P3 5G ถือว่าพิสูจน์ตัวเองในคอนเซ็ปต์ที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ กับสมาร์ตโฟนงบประมาณราคา 10,000 บาท ที่ได้ฟีเจอร์หลักสำคัญในเรื่องประสิทธิภาพในการเล่นเกม, แบตเตอรี่ความจุสูงพร้อมชาร์จเร็ว และความทนทานมาตรฐาน IP69 และการรับประกันอัพเดตซอฟต์แวร์นานหลายปี จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มกับค่าตัวสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนในงบจำกัดและทนทานพร้อมใช้งานต่อเนื่องได้นานหลายปี

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.