Nothing เปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่สองรายการ Phone (3) สมาร์ตโฟนเรือธงที่แท้จริง และ Headphone (1) หูฟังครอบหูรุ่นแรกของแบรนด์ พร้อมปฏิวัติวงการเทคโนโลยีด้วยนวัตกรรมสุดล้ำและการดีไซน์ที่แหวกแนวไม่ซ้ำซากจำเจ
หลังจากใช้เวลาถึงสองปีเต็มในการพัฒนา Phone (3) กลับมาพร้อมการยกระดับที่ครบทุกมิติ ทั้งดีไซน์ Glyph Matrix โฉมใหม่ ประสิทธิภาพที่ทรงพลังด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8s Gen 4 และกล้องระดับมืออาชีพ ขณะที่ Headphone (1) ร่วมมือกับ KEF ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงระดับตำนาน มอบประสบการณ์ฟังที่สมจริงเหนือระดับ
Glyph Matrix โฉมใหม่ เทคโนโลยีสื่อสารที่เหนือกว่า
Phone (3) ติดตั้ง Glyph Matrix เวอร์ชันใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อลดเวลาการใช้หน้าจอลง โดยใช้หน้าจอแสดงผลแบบ micro-LED ที่ด้านหลังตัวเครื่อง แสดงเฉพาะข้อมูลสำคัญในเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งสำคัญมากขึ้น
ไฮไลต์ใหม่คือฟีเจอร์ Flip to Record เพียงคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง ระบบจะเริ่มถอดเสียงและสรุปบทสนทนาอัตโนมัติผ่าน Essential Space โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ ทำให้การจดบันทึกการประชุมหรือบทสนทนาสำคัญเป็นเรื่องง่ายดาย
Glyph Toys เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สนุกที่รวบรวม Quick Tools และมินิเกมไว้ด้านหลังตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Glyph Mirror นาฬิกาดิจิทัล นาฬิกาจับเวลา สถานะแบตเตอรี่ และ Solar Clock รวมถึงมินิเกมอย่าง Spin the Bottle ทั้งหมดควบคุมได้ด้วยการกดปุ่มเดียวที่ด้านหลังเครื่อง
ประสิทธิภาพเรือธงด้วย Snapdragon 8s Gen 4
Phone (3) ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8s Gen 4 รุ่นล่าสุด ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร มาพร้อมสถาปัตยกรรม CPU Qualcomm Kryo และ GPU Qualcomm Adreno ที่ได้รับการอัปเกรด
เมื่อเทียบกับ Phone (2) ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด พลังการประมวลผล CPU เพิ่มขึ้น 36% การอัปเกรด GPU เร็วขึ้นถึง 88% ประสิทธิภาพการประมวลผลงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เพิ่มขึ้น 60% และความสามารถในการจดจำภาพที่รวดเร็วขึ้น 125%
แบตเตอรี่แบบซิลิคอน-คาร์บอนขนาด 5150mAh ใช้งานได้ยาวนานเกินหนึ่งวันเต็ม รองรับระบบ Fast Charge ทั้งแบบมีสาย 65W (ชาร์จเต็มภายใน 54 นาที) และไร้สาย 15W
กล้องระดับมืออาชีพสำหรับครีเอเตอร์
Phone (3) มาพร้อมระบบกล้องที่ออกแบบมาเพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะ เซนเซอร์หลักขนาด 1/1.3 นิ้ว ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า ถ่ายภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อม Optical Zoom เก็บภาพมุมใกล้โดยไม่สูญเสียรายละเอียด
บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K 60fps ได้คมชัดและเสถียรจากทุกเลนส์ ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical เต็มรูปแบบ มาพร้อมพรีเซ็ต (Presets) ที่พัฒนาร่วมกับช่างภาพมือโปร ให้สร้างสรรค์วิดีโอสไตล์ภาพยนตร์ได้อย่างง่ายดาย
หน้าจอสุดคมชัดและสวยงาม
Phone (3) มาพร้อมหน้าจอ AMOLED แบบยืดหยุ่น ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ 1.5K รองรับการใช้งานได้ทุกสภาพแสง ด้วยความสว่างสูงสุดถึง 4,500 นิต (HDR) และ 1,600 นิต (HMB)
อัตรารีเฟรชแบบปรับได้ที่ 30-120Hz และค่า touch sampling 1000Hz ทำให้ทุกการตอบสนองลื่นไหลอย่างฉับไว ขณะที่การหรี่แสงด้วย PWM ที่ 2160Hz ช่วยถนอมสายตา ขอบจอบางเท่ากันทั้ง 4 ด้านเพียง 1.87 มิลลิเมตร บางลง 18% เมื่อเทียบกับ Phone (2)
Nothing OS 3.5 ขับเคลื่อนด้วย AI
Nothing OS 3.5 ที่รันบนระบบปฏิบัติการ Android 15 มอบประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วและลื่นไหล ด้วยการออกแบบที่เน้นประโยชน์และลดสิ่งรบกวน
ฟีเจอร์เด่นอย่าง Essential Search แถบค้นหาอัจฉริยะที่เรียกใช้ได้ง่ายเพียงปัดขึ้นจากหน้าจอหลัก ค้นหาได้ครบทั้งรายชื่อ รูปภาพ ไฟล์ พร้อมการตอบสนองแบบเรียลไทม์
Essential Space เป็นพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับรวบรวมไอเดีย โน้ต และคอนเทนต์ทั้งหมดที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระบบด้วย AI ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 1 ใน 5 ที่ใช้ฟีเจอร์นี้เป็นประจำทุกสัปดาห์
Nothing รับประกันการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันหลักนาน 5 ปี และอัปเดตระบบความปลอดภัยนานถึง 7 ปี
Headphone (1) หูฟังครอบหูรุ่นแรกจาก Nothing
Headphone (1) เป็นผลงานความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง Nothing และ KEF ผู้บุกเบิกนวัตกรรมเสียงระดับ Hi-Fi ที่มีประสบการณ์มากว่า 60 ปี
มาพร้อม Dynamic Driver ขนาด 40 มิลลิเมตร ที่ปรับแต่งเพื่อถ่ายทอดคุณภาพเสียงให้ออกมาเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสแน่นทรงพลัง มิดโทนคมชัด และเสียงแหลมใสเคลียร์เต็มอรรถรส
Headphone (1) รองรับ Hi-Res Audio, LDAC เพื่อการเชื่อมต่อไร้สายคุณภาพสูง และมีทางเลือกการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านพอร์ต USB-C แบบ Lossless และพอร์ต 3.5 มิลลิเมตร
ระบบควบคุมแบบ Tactile Controls ใหม่
Headphone (1) ฉีกแนวการใช้ระบบควบคุมแบบสัมผัส ด้วยการเลือกใช้ระบบควบคุมแบบสัมผัสจริง (Tactile controls) ผ่านปุ่มที่อยู่บนตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Roller, Paddle หรือ Button
ผู้ใช้สามารถปรับระดับเสียง จัดการการเล่นเพลง หรือสลับโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC) ได้อย่างแม่นยำ ฉับไว ลดความยุ่งยากหรือข้อผิดพลาดที่มักพบกับระบบจอสัมผัสทั่วไป
Button ปุ่มอัจฉริยะสามารถตั้งค่าได้ตามความต้องการผ่านแอปพลิเคชัน Nothing X เปิดการใช้งานฟีเจอร์ Channel Hop สลับการเล่นเสียงระหว่างแอปพลิเคชันได้ทันที
ประสิทธิภาพและการใช้งาน
Headphone (1) สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 35 ชั่วโมง แม้จะเปิดโหมด ANC และการชาร์จเร่งด่วนเพียง 5 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้นานถึง 2.4 ชั่วโมง
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 พร้อมฟีเจอร์เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ ได้ในเวลาเดียวกัน รองรับระบบ Fast Pair และการส่งสัญญาณเสียงที่มีค่าความหน่วงต่ำ
โหมด ANC มาพร้อมกับไมโครโฟนคู่แบบ Feedforward และ Feedback ช่วยปรับระดับการตัดเสียงรบกวนภายนอกได้แบบเรียลไทม์ พร้อมไมโครโฟน ENC 4 ตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI ผ่านการฝึกฝนจากสถานการณ์เสียงรบกวนมาแล้วกว่า 28 ล้านรูปแบบ
ดีไซน์โปร่งใสเป็นเอกลักษณ์
ทั้ง Phone (3) และ Headphone (1) โดดเด่นด้วยดีไซน์โปร่งใสมองเห็นโครงสร้างภายใน และวัสดุระดับพรีเมียม Phone (3) ผสานรูปทรงเรขาคณิตอันโดดเด่นเข้ากับดีไซน์โมดูลาร์ที่ประณีต มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
Headphone (1) ใช้วัสดุอะลูมิเนียมขึ้นรูป ชิ้นส่วนที่ผลิตด้วย CNC ที่มีความแม่นยำสูง และวัสดุเมมโมรี่โฟมเคลือบ PU ที่ทั้งสวยงามและสวมใส่สบาย
เปิดตัว Nothing Phone (3) และ Headphone (1) ราคาและการวางจำหน่าย
Phone (3) มีให้เลือก 2 สีคือ Black และ White พร้อมความจุให้เลือก 2 รุ่น
- 12GB + 256GB ราคา 27,999 บาท
- 16GB + 512GB ราคา 30,999 บาท
Limited Drop เปิดขายรอบพิเศษที่ Nothing Store (One Bangkok) และ Carnival (CentralWorld) ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
การสั่งซื้อ Phone (3) รับสิทธิ Storage Upgrade ฟรี (จำนวนจำกัด) พร้อมของสมนาคุณสุดพิเศษ Nothing Ear, Nothing Cap และ Nothing Tote Bag
Phone (3) ความจุ 16 GB + 512 GB เริ่มพรีออเดอร์ พร้อมรับสิทธิ Storage Upgrade ฟรี ผ่านร้านค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ dotlife, Jaymart, Banana, Mocare, Powerbuy, Power Mall, Pro Gadgets ผู้บริการเครือข่าย AIS ผู้บริการเครือข่าย AIS และช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee และ Alottech เริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป
Headphone (1) มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ ราคา 8,999 บาท เปิดพรีออเดอร์ 26 กรกฎาคมนี้ วางขายอย่างเป็นทางการ 2 สิงหาคม สำหรับผู้ที่สั่งจอง รับฟรี Nothing Headphone Protective Cover
Nothing ยกระดับประสบการณ์หลังการขาย ด้วยบริการสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง โทร 1800 018 320 รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมศูนย์บริการ 10 แห่ง และจุดรับส่งสินค้าใกล้บ้าน
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
