Meta เปิดมิติใหม่ของการสื่อสารทางธุรกิจด้วยการเปิดตัวชุดโซลูชันการส่งข้อความล่าสุด ในงาน Business Messaging Summit 2568 ที่มุ่งเป้าช่วยธุรกิจไทยขยายผลกำไรผ่านการสนทนากับลูกค้า
ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรายนี้เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในตลาดไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมเสริมแกร่งเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
การส่งข้อความกลายเป็นเครื่องมือหลักขับเคลื่อนธุรกิจ
จากผลการศึกษาของ กันตาร์ (Kantar) ในปี 2568 เผยให้เห็นว่า “การสนทนา” กำลังกลายเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้าไปโดยสิ้นเชิง
ในประเทศไทย สถิติชี้ชัดว่า 95% ของธุรกิจที่เข้าร่วมการสำรวจยืนยันว่า การส่งข้อความทางธุรกิจช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ ที่น่าสนใจคือ อัตราการเปลี่ยนจากผู้สนใจเป็นลูกค้าจริงเพิ่มขึ้นถึง 55% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ

คุณแพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า “การส่งข้อความยังคงเป็นช่องทางที่คนชื่นชอบในการโต้ตอบกับแบรนด์ที่พวกเขารัก และธุรกิจที่พวกเขาค้นพบ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านคน เชื่อมต่อกับบัญชีธุรกิจผ่านบริการส่งข้อความของเราในแต่ละสัปดาห์”
ตัวเลขที่น่าทึ่งคือ มีการสนทนาระหว่างผู้คนกับธุรกิจกว่า 600 ล้านครั้งต่อวัน ในอีโคซิสเต็มของ Meta ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไป
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยกับการส่งข้อความธุรกิจ
ผลการสำรวจออนไลน์ของ กันตาร์ เกี่ยวกับการใช้การส่งข้อความในกลุ่มผู้ใหญ่ชาวไทย เผยข้อมูลที่น่าสนใจ โดย 81% ของผู้ใหญ่ส่งข้อความกับธุรกิจอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และ 80% ระบุว่าชอบสื่อสารกับธุรกิจผ่านข้อความ
ที่น่าสนใจคือ 81% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การส่งข้อความเป็นวิธีที่พวกเขาชอบใช้ในการติดต่อกับธุรกิจขนาดกลางและเล็กหรือผู้ประกอบการท้องถิ่น นอกจากนี้ 73% ยังค้นพบธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการส่งข้อความ ซึ่งตอกย้ำว่า “การส่งข้อความ” เป็นเครื่องมือค้นพบธุรกิจที่มีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล
ด้านความพึงพอใจ 74% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาต้องการสื่อสารกับแบรนด์และธุรกิจในลักษณะเดียวกับที่พูดคุยกับเพื่อนและครอบครัว ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการประสบการณ์ที่เป็นธรรมชาติและเป็นกันเอง
ยุค Business AI เปลี่ยนโฉมการบริการลูกค้า
Generative AI กำลังปฏิวัติการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าให้เป็นเรื่องง่ายและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น จากผลสำรวจของ กันตาร์ พบว่า 68% ของผู้บริโภคผู้ใหญ่ในประเทศไทยเห็นว่า การได้รับคำตอบจาก AI หรือแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI นั้นมีประโยชน์
คุณแพร กล่าวเสริมว่า “เรามองเห็นอนาคตที่ธุรกิจทุกขนาดสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อผ่าน AI เรากำลังเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือและผู้ช่วยธุรกิจอัจฉริยะ Business AI ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยของธุรกิจ ใช้งานได้ง่าย และทำให้ทุกธุรกิจเข้าถึงพลังของ AI ได้มากขึ้นในการให้บริการลูกค้า”
การพัฒนา Business AI นี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ 24/7 โดยไม่จำเป็นต้องมีพนักงานคอยตอบตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างมีนัยสำคัญ
โซลูชันเสริมประสิทธิภาพการตลาดครบวงจร
Meta นำเสนอชุดโซลูชันนวัตกรรมที่เสริมประสิทธิภาพโฆษณาผ่านวงจรลูกค้าทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
โซลูชัน Value Optimization เน้นการซื้อขายหรือการเพิ่มมูลค่าของยอดขายในแต่ละครั้ง โดยโซลูชันโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta ไม่ว่าจะเป็นบน Facebook, Messenger หรือ Instagram สามารถเพิ่มขีดการแข่งขันให้กับธุรกิจด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าและผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ที่สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ
โซลูชัน Lead Optimization เน้นการค้นหากลุ่มลูกค้าใหม่และเพิ่มคุณภาพลีด Meta มอบโซลูชันที่คุ้มค่าในการสร้างลีดคุณภาพสูง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเวลาในการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์หรือสินค้ามูลค่าสูง
ธุรกิจไทยที่ใช้เทคโนโลยีโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI จาก Meta สามารถสร้างยอดขายได้มูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั่วโลก และมีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อการลงทุนโฆษณาทุก 1 เหรียญสหรัฐฯ
ประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Click-to-Messaging
จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบเปรียบเทียบแบบ A/B จำนวน 28 ครั้ง ระหว่างปี 2566-2567 สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภค พบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ
กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพยอดขาย (Purchase Optimization) ผ่านการคลิกไปยังช่องทางการแชท Click-to-Messaging (CTM) ให้ผลลัพธ์ดีกว่ากลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพของการสนทนา (Conversation Optimization) ถึง 99% โดยมีต้นทุนต่อการซื้อสินค้าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 20%
สถิตินี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ “การส่งข้อความ” ในการผลักดันการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดย 95% ของผู้ใหญ่รู้สึกพึงพอใจเมื่อส่งข้อความหาธุรกิจผ่าน Messenger หรือ Instagram Direct Messaging

เครื่องมือ “คะแนนโอกาส” ปรับปรุงแคมเปญแบบเรียลไทม์
Meta เปิดตัวเครื่องมือปรับประสิทธิภาพแคมเปญล่าสุดชื่อ “คะแนนโอกาส” (Opportunity Score) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี Machine Learning ขั้นสูงให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญในแบบเรียลไทม์
เครื่องมือนี้พัฒนาขึ้นจากอัลกอริทึมของแมชชีนเลิร์นนิ่งขั้นสูงและการทดสอบกับผู้ลงโฆษณาหลายพันราย ผลการทดสอบจากผู้ใช้งานกลุ่มแรกพบว่า ค่าผลลัพธ์เฉลี่ยต่อการกระทำลดลงถึง 12% ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่มีนัยสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบโฆษณา
ระบบนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลแคมเปญและให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย การปรับงบประมาณ หรือการเปลี่ยนรูปแบบโฆษณา
ระบบชำระเงินไร้รอยต่อบน Messenger
นวัตกรรมที่น่าสนใจอีกชิ้นคือ ฟีเจอร์ “โอนผ่านแอปธนาคารของคุณ” (Transfer with Your Payment App) ที่พร้อมให้บริการในประเทศไทยผ่าน Messenger ซึ่งรองรับแอปธนาคารยอดนิยม เช่น K Plus, Krungthai Next, SCB Easy และจะมีพันธมิตรธนาคารเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ระบบนี้ทำให้ประสบการณ์การซื้อขายระหว่างธุรกิจและลูกค้าบน Messenger เป็นไปได้อย่างราบรื่นและไร้รอยต่อ ด้วยระบบการชำระเงินอัตโนมัติที่รองรับการทำงาน ช่วยลดอัตราลูกค้าที่ออกจากกระบวนการซื้อก่อนทำรายการสำเร็จ
การพัฒนาระบบชำระเงินแบบบูรณาการนี้จะช่วยเพิ่มระดับความพึงพอใจและอัตราการซื้อสำเร็จด้วยเพียงไม่กี่คลิก ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยที่ต้องการลดความซับซ้อนของกระบวนการชำระเงิน
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
