LG Electronics เปิดเผยผลประกอบการเบื้องต้นไตรมาสที่ 2 ปี 2025 พบว่ากำไรดำเนินงานลดลงอย่างรุนแรงถึง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่บริษัทวางแผนปรับทิศทางธุรกิจเพื่อรับมือกับความท้าทายในตลาด
บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเกาหลีใต้รายงานรายได้รวม 20.74 ล้านล้านวอน (ประมาณ 466.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และกำไรดำเนินงาน 639.1 พันล้านวอน (ประมาณ 466.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2024 ที่มีรายได้ 21.7 ล้านล้านวอนและกำไรดำเนินงาน 1.19 ล้านล้านวอน
LG ระบุว่าผลประกอบการที่ลดลงสะท้อนถึงอารมณ์ผู้บริโภคที่อ่อนแอลงและสภาพแวดล้อมการค้าระหว่างประเทศที่ท้าทายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีการค้าที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้น ส่งผลให้ราคาแผง LCD เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
เพื่อฟื้นฟูผลประกอบการ LG วางแผนเน้นหนักไปที่ธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงและการเติบโตที่มั่นคง โดยเฉพาะภาคธุรกิจ B2B อย่างโซลูชันยานยนต์และระบบปรับอากาศ ระบบระบายอากาศ และเครื่องทำความเย็น (HVAC) บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจที่ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ รวมถึงบริการแพลตฟอร์ม webOS และรูปแบบธุรกิจแบบสมาชิก
ส่วนทางด้านธุรกิจโซลูชันยานยนต์ของ LG ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะเผชิญกับความท้าทายในอุตสาหกรรม บริษัทเห็นการเพิ่มขึ้นของกำไรดำเนินงานในส่วนธุรกิจนี้และวางแผนเพิ่มยอดขายระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ในรถยนต์ระดับพรีเมียม พร้อมทั้งขยายแพลตฟอร์มเนื้อหายานยนต์ใหม่
บริษัทยังมีแผนเน้นไปที่การดำเนินงาน HVAC ด้วยเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์และระบบทำความเย็นอุตสาหกรรม รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้กับศูนย์ข้อมูล LG ยังกล่าวถึงแผนการซื้อกิจการ OSO บริษัทโซลูชันน้ำร้อนของยุโรป เพื่อเข้าร่วมตลาดฮีตปั๊มป์อากาศเป็นน้ำที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทวีปยุโรปเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว
ในส่วนของธุรกิจสื่อและบันเทิงที่ LG เป็นที่รู้จักอย่างดี กลับพบว่าในไตรมาสที่ 2 ความต้องการชะลอตัวลงเนื่องจากราคาแผง LCD ที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทวางแผนเสริมสร้างความเป็นผู้นำในภาคเซกเมนต์ทีวี OLED พรีเมียมด้วยผลิตภัณฑ์ไร้สายใหม่อย่าง OLED evo M5 รวมถึงการทำให้ webOS แข่งขันได้มากขึ้นผ่านการขยายไปสู่เนื้อหาเกมและศิลปะดิจิทัล
ยังไม่มีความชัดเจนว่าแผนของ LG จะใช้เวลานานเท่าใดในการฟื้นฟูผลประกอบการของบริษัท แต่การเน้นหนักไปที่พื้นที่ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญดูเป็นแนวทางที่เหมาะสม
ข้อมูลจาก : Neowin
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
