Apple ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลด iPadOS 26 Public Beta แล้ว ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญที่นำฟีเจอร์แบบ Mac มาใช้ใน iPad อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะระบบหน้าต่างใหม่ที่ให้ผู้ใช้จัดการแอปได้อย่างอิสระ
การอัปเดตครั้งนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน แต่ผู้ใช้ที่ต้องการทดลองก่อนสามารถลงทะเบียนผ่าน Apple Beta Software Program ที่ beta.apple.com และติดตั้งผ่านแอป Settings ใน iPad ได้เลย
ระบบหน้าต่างแบบใหม่ เหมือน Mac เต็มตัว
ฟีเจอร์เด่นที่สุดของ iPadOS 26 คือระบบหน้าต่างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ผู้ใช้สามารถปรับขนาดและวางหน้าต่างได้ทุกตำแหน่งบนหน้าจอ เหมือนกับการใช้งาน Mac ทุกประการ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าโหมด Stage Manager แยกต่างหากอีกต่อไป
แอปทุกตัวจะเปิดในโหมดเต็มจอตามปกติ แต่ผู้ใช้สามารถปรับขนาดให้เหมาะกับความต้องการได้ทันที หน้าต่างจะจำขนาดและรูปร่างไว้แม้ปิดแอปแล้วเปิดใหม่ นอกจากนี้ยังมีปุ่มควบคุม “traffic light” ที่คุ้นเคยจาก Mac ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง ใช้สำหรับปิด ย่อ และจัดเรียงหน้าต่าง พร้อมฟีเจอร์ Exposé ที่ดูหน้าต่างทั้งหมดได้ด้วยท่าทางง่ายๆ
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ iPad สามารถใช้งานแบบ multitasking ได้เหมือน Mac อย่างแท้จริง ผู้ใช้ไม่ต้องปรับตัวกับระบบที่ซับซ้อน แต่ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าเดิมมาก
Menu Bar มาถึง iPad แล้ว
iPadOS 26 นำ Menu Bar แบบ macOS มาใช้ใน iPad เป็นครั้งแรก ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยการปัดลงจากด้านบนของหน้าจอ หรือเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ด้านบน เพื่อแสดง Menu Bar พร้อมตัวควบคุมเฉพาะของแต่ละแอป
ฟังก์ชันทั้งหมดที่เคยอยู่ในเมนู keyboard shortcut ของแอปจะถูกย้ายมาแสดงใน Menu Bar แทน นักพัฒนายังสามารถกำหนดสิ่งที่จะแสดงได้เอง แม้ว่าจะไม่มี Menu Bar Apps แบบ Mac แต่ Menu Bar ใหม่นี้เป็นศูนย์กลางที่สะดวกและคุ้นเคยสำหรับการควบคุมแอป
การเพิ่ม Menu Bar ทำให้การใช้งาน iPad กับ keyboard และ trackpad มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ iPad ทดแทน laptop
Dock อัปเกรดใหม่ ทรงพลังกว่าเดิม
Dock ใน iPadOS 26 ได้รับการปรับปรุงสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ การเพิ่มโฟลเดอร์จากแอป Files ลงใน Dock และการตั้งค่าให้ Dock แสดงอยู่บนหน้าจอตลอดเวลา
โฟลเดอร์เอกสารทำงานเหมือนบน Mac ทุกประการ โดยจะอยู่ที่ด้านขวาของ Dock ในส่วนเฉพาะ ผู้ใช้สามารถลากและวางไฟล์เข้าออกจากโฟลเดอร์เหล่านั้นได้ด้วย
ส่วนการตั้งค่าให้ Dock แสดงตลอดเวลานั้น จะทำงานคล้าย Mac แต่มีข้อแตกต่างคือ หากหน้าต่างแอปใดบดบังพื้นที่ที่ต้องใช้แสดง Dock ระบบจะซ่อน Dock อัตโนมัติ แต่ถ้าปรับขนาดหน้าต่างให้เหลือพื้นที่สำหรับ Dock ก็จะแสดงอยู่ตลอดเวลาได้
การออกแบบ Liquid Glass ใหม่หมด
Apple นำการออกแบบ Liquid Glass จาก iOS 26 มาใช้ใน iPadOS 26 ด้วย ไอคอนแอปได้รับการออกแบบใหม่ ปุ่มและเมนูมีเอฟเฟกต์แก้วใส และส่วนติดต่อผู้ใช้โดยรวมได้รับรูปลักษณ์ใหม่ที่สดใส
การออกแบบใหม่ของ iPadOS 26 ยังสร้างความเป็นเอกภาพกับแพลตฟอร์มอื่นของ Apple มากขึ้น เนื่องจาก Liquid Glass เป็นพื้นฐานของการออกแบบที่คล้ายกันบน iPhone, Mac, Apple Watch และ Apple TV
ผู้ใช้จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังอัปเดต โดยเฉพาะในเรื่องของสีสันที่สดใสและเอฟเฟกต์ที่นุ่มนวลกว่าเดิม ซึ่งช่วยให้การใช้งานรู้สึกทันสมัยและลื่นไหลมากขึ้น
การจัดการไฟล์อัปเกรดใหม่
แอป Files ได้รับการปรับปรุงให้คล้าย Finder ของ Mac มากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วย การปรับแต่งสีและไอคอนโฟลเดอร์ การปรับขนาดคอลัมน์ การพับโฟลเดอร์ได้ การเลือกแอปที่จะเปิดไฟล์ และการเปลี่ยนแอปเริ่มต้นสำหรับไฟล์แต่ละประเภท
แอป Preview มาถึง iPad เป็นครั้งแรกในฐานะศูนย์กลางสำหรับดูและแก้ไข PDF และรูปภาพ เหมือนกับบน Mac ทุกประการ การเพิ่มแอป Preview ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการเอกสารและรูปภาพได้สะดวกกว่าเดิมมาก
ความสามารถการจัดการไฟล์ที่ปรับปรุงใหม่นี้ทำให้ iPad เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องจัดการเอกสารจำนวนมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ workflow แบบมืออาชีพ
Background Tasks พร้อม Live Activities
ข้อจำกัดที่สำคัญของ iPad มาโดยตลอดคือแอปต้องเปิดอยู่บนหน้าจอเพื่อทำงานหนัก เนื่องจาก iPadOS เวอร์ชันเก่าจะปิดแอปในพื้นหลังถ้าใช้ทรัพยากรมากเกินไป
แต่ใน iPadOS 26 ฟีเจอร์ Background Tasks ใหม่ให้แอปทำงานหนักในพื้นหลังได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นครั้งต่อไปที่ export วิดีโอ render โมเดล 3D หรือ workflow อื่นที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง ผู้ใช้ไม่ต้องนั่งรอให้แอปทำงานเสร็จก่อนจึงจะไปทำอย่างอื่นได้
หลังจากออกจากแอป Background Tasks จะแสดงความคืบหน้าของแอปนั้นที่ด้านบนของหน้าจอ iPad ผ่าน Live Activity ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Live Activities มาใช้งานใน iPad ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบ multitasking อย่างมาก
เครื่องมือบันทึกเสียงใหม่
สำหรับผู้ที่เป็น podcaster, ใช้ video conferencing บ่อย หรือต้องการควบคุมการบันทึกเสียงใน iPad มากขึ้น iPadOS มีเครื่องมือใหม่หลายตัว
เข้าถึงได้ผ่าน Control Center ผู้ใช้ iPadOS 26 จะพบตัวเลือก Local Capture, Voice Isolation และ Input Picker ใหม่
Local Capture ให้ผู้ใช้บันทึกเสียงฝั่งตัวเองในการ video call ได้ชัดเจน Voice Isolation ที่เคยมีเฉพาะใน phone call ตอนนี้สามารถใช้ในการบันทึกเสียงได้ด้วย ส่วน Input Picker ทำให้เลือกไมโครโฟนที่ต้องการสำหรับแต่ละแอปได้ง่าย
แอปใหม่ 4 ตัว และเคอร์เซอร์ที่แม่นยำกว่า
Apple นำแอปใหม่ 4 ตัวมาสู่ iPad ใน iPadOS 26 ได้แก่ Journal ที่รองรับ Apple Pencil, Apple Games เป็นศูนย์กลางเกม, Preview สำหรับดู PDF และรูปภาพ และ Phone ที่ใช้ฟีเจอร์ Continuity เชื่อมต่อกับ iPhone
เคอร์เซอร์ระบบได้รับการอัปเดตด้วยการออกแบบใหม่ เปลี่ยนจากแบบกลมเป็นแบบชี้ที่คล้าย Mac มากขึ้น เคอร์เซอร์ใหม่ยังคงเปลี่ยนรูปร่างได้เหมือนเดิม แต่แม่นยำกว่าเดิม และมีฟีเจอร์ “shake to find” แบบ macOS ด้วย
ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์
iPad เกือบทุกรุ่นที่รองรับ iPadOS 18 สามารถใช้ iPadOS 26 ได้ มีเพียง iPad รุ่นที่ 7 เท่านั้นที่ถูกยกเลิกการรองรับ
รายการ iPad ที่รองรับครบถ้วน ได้แก่ iPad Pro (M4), iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3 ขึ้นไป), iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1 ขึ้นไป), iPad Air (M3, M2), iPad Air รุ่นที่ 3 ขึ้นไป, iPad (A16), iPad รุ่นที่ 8 ขึ้นไป, iPad mini (A17 Pro) และ iPad mini รุ่นที่ 5 ขึ้นไป
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPadOS 26 Public Beta ได้ที่ www.apple.com/th/os/ipados/
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
