- ดีป้า ขยายผลโครงการ OTOD ทุเรียนดิจิทัล เป้าหมาย 10,000 เกษตรกร ทั่วประเทศ
- เพิ่มคุณสมบัติใหม่ Carbon Footprint และเทคโนโลยี IoT ควบคุมระบบรดน้ำผ่านมือถือ
- คาดลดต้นทุนให้เกษตรกร 1,700 ล้านบาท และเพิ่มมูลค่าผลผลิต 11,700 ล้านบาท
- มอบคูปองดิจิทัลมูลค่า 10,000 บาท ให้เกษตรกรที่บันทึกข้อมูลสม่ำเสมอ 500 รางวัล
- เปิดรับสมัครถึง 31 สิงหาคม ผ่านแอปรัฐค้นหา ‘ทุเรียน ดิจิทัล’ เพื่อพลิกทุเรียนไทยกลับมายืนหัวแถวอาเซียน
จากที่ทุเรียนไทยเคยขึ้นชื่อว่าเป็นราชาผลไม้ของเอเชีย แต่หลายปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้ ดีป้า (สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล) พร้อมเครือข่ายพันธมิตรกำลังจะเขียนบทใหม่ให้กับอุตสาหกรรมทุเรียนไทย
โครงการ OTOD ทุเรียนดิจิทัล ที่เริ่มต้นในปี 2567 ได้สร้างผลลัพธ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรไปแล้วถึง 180 ล้านบาท และเพิ่มมูลค่าผลผลิตทุเรียนมากกว่า 1,280 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้ ดีป้า จึงตัดสินใจขยายผลโครงการเพื่อเข้าถึงเกษตรกรชาวสวนทุเรียนทั่วประเทศให้ได้ 10,000 ราย

แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เปลี่ยนวิธีการทำสวนทุเรียน
หัวใจของโครงการนี้คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยให้เกษตรกรบริหารจัดการสวนทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่ได้รับมาตรฐาน SURE นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือธรรมดา แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถจดบันทึกข้อมูลและติดตามย้อนกลับการเพาะปลูกได้อย่างละเอียด
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า เล่าว่า “เกษตรกรสามารถใช้แอปนี้ในการเก็บข้อมูลเกษตรกรเพื่อรวบรวมเป็น Big Data การจัดการข้อมูลเพื่อยื่นขอรับรองมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) การจัดการคุณภาพผลผลิต และการจัดการการตลาด”
สิ่งที่น่าสนใจคือแอปพลิเคชันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือบันทึกข้อมูลธรรมดา แต่ยังช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตได้อย่างมีระบบ ติดตามปัญหา และแก้ไขได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นสิ่งที่เกษตรกรแบบดั้งเดิมทำได้ยาก
นวัตกรรมใหม่: Carbon Footprint และ IoT เทคโนโลยี
การขยายผลครั้งนี้ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มจำนวนเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังมีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดสากลในยุคปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือ Greenhouse Gas Information หรือข้อมูลการลดและกักเก็บก๊าซเรือนกระจกโดยใช้บริการดิจิทัลเพื่อการจัดเก็บคาร์บอนฟุตพรินต์
การเพิ่มคุณสมบัตินี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การที่เกษตรกรไทยสามารถแสดงข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์ของทุเรียนที่ตนเองผลิตได้ จะเป็นจุดขายสำคัญในตลาดส่งออก
อีกนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นคือการนำเทคโนโลยี IoT มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ เกษตรกรสามารถควบคุมการเปิด-ปิดระบบรดน้ำในสวนทุเรียนผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าเวลาหรือการทำงานแบบอัตโนมัติผ่านชุดเซนเซอร์วัดความชื้นและอุณหภูมิ
พันธมิตรแกร่งขับเคลื่อนโครงการ
ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่ได้เกิดจากการทำงานเพียงหน่วยงานเดียว แต่มาจากการรวมพลังของพันธมิตรที่แข็งแกร่ง กรมส่งเสริมการเกษตร เข้ามาช่วยคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย ช่วยยกระดับบริการดิจิทัลด้านการเกษตรสัญชาติไทยให้ได้มาตรฐาน dSURE
ส่วน บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ก็เข้ามาช่วยขยายช่องทางตลาดเพื่อกระจายผลผลิตทุเรียนของเกษตรกรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญ เพราะการมีเทคโนโลยีที่ดีแค่ไหนก็ไม่มีความหมายหากไม่มีตลาดรองรับ

ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่คาดหวัง
ตัวเลขที่ดีป้าประเมินไว้ฟังดูน่าตื่นเต้นมาก โครงการ OTOD ทุเรียนดิจิทัล ครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนประมาณ 1,700 ล้านบาท และเพิ่มมูลค่าผลผลิตทุเรียนถึง 11,700 ล้านบาท
หากเปรียบเทียบกับผลงานที่ผ่านมา ซึ่งช่วยลดต้นทุน 180 ล้านบาทและเพิ่มมูลค่า 1,280 ล้านบาท จะเห็นว่าการขยายผลครั้งนี้คาดว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเกือบ 10 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพที่แท้จริงของโครงการนี้
แรงจูงใจสำหรับเกษตรกร
นอกจากประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้เทคโนโลยีแล้ว ดีป้ายังมีการมอบคูปองดิจิทัล ให้กับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนที่มีการบันทึกข้อมูลสม่ำเสมอ 500 รางวัล คูปองแต่ละใบมีมูลค่า 10,000 บาท สำหรับซื้อสินค้าและบริการดิจิทัลด้านการเกษตรบนบัญชีบริการดิจิทัล
การให้รางวัลแบบนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การจูงใจ แต่ยังเป็นการสร้างนิสัยที่ดีในการบันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้เทคโนโลยีนี้
ก้าวสู่เป้าหมายใหญ่: ทุเรียนไทยกลับมายืนหัวแถวอาเซียน
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้ายว่า “การดำเนินงานทั้งหมดถือเป็นหนึ่งก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อมเกษตรกรไทยให้ก้าวไปสู่เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) รองรับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ อีกทั้งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดสากล และพลิกพื้นทุเรียนไทยให้กลับมายืนหัวแถวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้ง”
เป้าหมายนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะทุเรียนไทยมีชื่อเสียงในด้านรสชาติและคุณภาพมาช้านาน สิ่งที่ขาดไปคือการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาด ซึ่งโครงการนี้กำลังเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว
วิธีสมัครและข้อมูลติดต่อ
สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคมนี้ ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐโดยพิมพ์ค้นหาคำว่า ‘ทุเรียน ดิจิทัล’ และกดสมัครได้เลย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ ดีป้า ได้ที่เบอร์โทร 06 1423 9055 และ 09 2955 9478 หรือผ่าน Line OA: @durian_digital
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
