รีวิว Canon PowerShot V1 กล้องคอมแพคที่เป็นกระแสฮือฮาไม่น้อย โดยเฉพาะในกลุ่มสายวิดีโอ Vlogger จนทำให้เริ่มวางจำหน่ายของขาดตลาดไปสักพัก ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากกล้องคอมแพคทั่วไปคือ การออกแบบที่ไม่ได้พยายามทำทุกอย่างให้ได้เหมือนกล้องรุ่นอื่น แต่เป็นการมุ่งเป้าไปที่ความต้องการของ Vlogger และ Content Creator โดยเฉพาะ
ถึงแม้ว่าหน้าตารูปร่างจะออกมาดูหนากว่าปกติ แต่ก็เพราะใส่ระบบความร้อนแบบพัดลมมา ทำให้สามารถบันทึก 4K ได้ต่อเนื่องโดยไม่ฮีท
เชื่อว่าหลายคนที่เล็งๆ และลังเลกับรุ่นนี้ สงสัยกันว่า ด้วยการออกแบบที่เฉพาะเจาะจงนี้คุ้มค่ากับราคา 31,990 บาท หรือไม่? และใครที่เหมาะสมกับกล้องรุ่นนี้มากที่สุด?
หลังจากที่เราได้ลองใช้แล้ว มาดูกันว่า Canon PowerShot V1 ตอบโจทย์ความต้องการของ Vlogger ได้มากแค่ไหน
ออกแบบมาเพื่อ Vlogger โดยเฉพาะ
สิ่งแรกที่รู้สึกได้เมื่อจับ PowerShot V1 ขึ้นมาก็คือความ “หนา” ที่มากกว่ากล้องคอมแพคทั่วไป กับมิติตัวเครื่อง 52.5 มม. ซึ่งหนากว่ากล้องรุ่นอื่นพอสมควร
แต่เมื่อได้ลองใช้งานจริง ก็เข้าใจทันทีว่าทำไม Canon ถึงเลือกการออกแบบแบบนี้ ความหนาพิเศษนี้มาจากการใส่พัดลมระบายความร้อนเข้าไปในตัวเครื่อง ซึ่งหาไม่ได้ในกล้องคอมแพครุ่นอื่นๆ ตัวของน้องจึงดูตุ๊ต๊ะกว่าปกติ ส่วนน้ำหนักที่ 426 กรัม ถือว่าไม่หนักเกินไป สามารถใส่ในกระเป๋าพกพาหรือสะพายได้สะดวก แต่น่าจะใส่กระเป๋ากางเกงไม่ได้
Grip ที่ออกแบบมาเพื่อการ Vlog
ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะค่อนข้างหน้า แต่ตัว Grip ก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อการถือได้ง่าย ทำให้เวลายกกล้องขึ้นมาทำ Vlog ช่วยให้จับกระชับมือได้อย่างสบาย
ที่โดยที่ตัวกริปจะมีเว้นที่ให้นิ้วโป้งวางได้สบายเมื่อยืดแขนออกไป การออกแบบนี้อาจจะดูแปลกๆ สำหรับการถือถ่ายภาพแบบปกติ แต่สำหรับการทำ Vlog แล้วคือการออกแบบที่ลงตัวมาก
หน้าจอขนาดใหญ่ที่ปรับหมุนได้พร้อมระบบควบคุม
PowerShot V1 ให้หน้าจอสัมผัส 3 นิ้ว สามารถพับออกมาและหมุนได้เต็มรูปแบบ ทำให้สามารถดูตัวเองได้เมื่อทำ Vlog หน้าจอมีความคมชัดดี และตอบสนองการสัมผัสได้ดี
ระบบควบคุมใช้งานง่าย มีปุ่มที่ปรับแต่งได้และวงแหวนเลนส์สำหรับการปรับค่าต่างๆ เช่น รูรับแสง ได้อย่างรวดเร็ว สวิตช์ด้านหลังสำหรับสลับระหว่างโหมดภาพถ่ายและวิดีโอก็ทำงานได้ทันที
แม้ว่าแป้นหมุนด้านหลังจะมีขนาดเล็กและใช้งานค่อนข้างยาก และโหมดถ่ายภาพสโลวโมชั่นจะถูกซ่อนอยู่ในเมนูที่ลึก แต่โดยรวมแล้วระบบควบคุมเป็นมิตรกับผู้เริ่มต้น
พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน
PowerShot V1 มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อสำหรับใช้งานที่ครบถ้วน รวมถึง USB-C สำหรับถ่ายโอนข้อมูล ชาร์จแบตเตอรี่ และใช้เป็นเว็บแคม, Micro HDMI และพอร์ตไมโครโฟนและหูฟัง
Multi-function hotshoe สามารถรองรับแฟลชภายนอกและอุปกรณ์เสริมด้านเสียง โดยจะมีน้องปุกปุยที่บังลมไมโครโฟนให้มาก็สามารถติดตั้งเข้ากับ hotshoe ได้อย่างพอดี
จุดเด่นสำคัญคือช่องระบายความร้อนที่อยู่ด้านบนและด้านซ้ายของตัวกล้อง ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหาความร้อนสูงเกินไป
เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และเลนส์ที่ครบระยะ
สิ่งที่ทำให้ PowerShot V1 โดดเด่นจากกล้องรุ่นอื่นในตลาดคือการใช้เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1.4 นิ้ว ความละเอียด 22.3 ล้านพิกเซล ซึ่งใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วที่พบในกล้องรุ่นอื่นทั่วไป
การมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้นหมายถึงการรับแสงที่ดีขึ้น และความสามารถในการสร้าง Bokeh ที่สวยงามยิ่งขึ้น จากการทดสอบใช้งานจริง เราสังเกตได้ชัดเจนว่าคุณภาพของภาพและวิดีโอดีขึ้นเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย
ตัวเซ็นเซอร์ยังมาพร้อมกับการครอป 1.9x เมื่อเทียบกับฟูลเฟรม ซึ่งส่งผลให้เลนส์ 16-50mm กลายเป็นประมาณ 30-95mm ในมุมมองฟูลเฟรม
เลนส์ซูมที่กว้างเพื่อ Vlog
เลนส์ที่มาพร้อมตัวกล้องเป็นเลนส์ซูมมุมกว้าง 16-50mm f/2.8-4.5 ซึ่งมีจุดเด่นและจุดที่ต้องยอมรับอย่างชัดเจน
จุดเด่นของเลนส์:
- มุมกว้าง 16mm เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำ Vlog เพราะสามารถจับภาพได้กว้างขึ้นเมื่อยืดแขนออกไปถ่าย
- ซูม 3.1x ให้ความหลากหลายในการใช้งาน ไม่ต้องเข้าใกล้หรือออกห่างวัตถุมากเกินไป
- ระบบกันสั่น Optical IS ช่วยให้ภาพและวิดีโอนิ่งขึ้น
ข้อจำกัดที่ต้องยอมรับ:
- รูรับแสงสูงสุดค่อนข้างแคบ ที่ f/2.8-4.5 เมื่อเทียบกับกล้องรุ่นอื่นที่อาจมี f/1.8 – f/2.0
- ตัวเลนส์ถอดเปลี่ยนไม่ได้
- ประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อยมากยังทำได้ค่อนข้างจำกัด
จากการใช้งานจริง การมีมุมกว้างที่ 16mm เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับการทำ Vlog เพราะทำให้สามารถจับภาพได้มากขึ้นโดยไม่ต้องยืดแขนออกไปมากเกินไป แต่รูรับแสงที่แคบทำให้ต้องพึ่งพา ISO สูงขึ้นในสภาพแสงน้อย
เชื่อว่าแคนนอนเลือกใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงแคบเป็นสิ่งที่จำเป็นในการออกแบบให้กล้องมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักที่เหมาะสม หากต้องการเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างและเร็วกว่านี้ ขนาดและต้นทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผลลัพธ์คือ แม้ว่าเซ็นเซอร์จะช่วยเพิ่มคุณภาพ แต่เลนส์อาจจำกัดประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อยมาก หรือเมื่อต้องการสร้างระยะชัดลึกที่ตื้นมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ Vlogger ต้องการบ่อยครั้ง
วิดีโอที่ทำได้โดดเด่น ถ่าย 4K ได้แบบเครื่องไม่ร้อนจนดับ
สิ่งที่ทำให้ PowerShot V1 แตกต่างจากกล้องรุ่นอื่นอย่างชัดเจนคือความสามารถในการบันทึกวิดีโอ 4K 30fps ได้ไม่จำกัดเวลา ด้วยระบบระบายความร้อนแบบพัดลมที่ทำงานได้ค่อนข้างเงียบ
จากการทดสอบใช้งานจริง สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ในพื้นที่ๆ มีอากาศถ่ายเทและไม่ได้อยู่กลางแดด ถ่ายต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่มีปัญหาการหยุดทำงานหรือเตือนเรื่องความร้อนเลย นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับ Vlogger ที่ต้องการบันทึกเนื้อหายาวๆ หรือทำ Live Streaming
คุณภาพวิดีโอระดับมืออาชีพ
วิดีโอ 4K 30p แบบ Oversampled ให้คุณภาพที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้โปรไฟล์สี Canon Log 3 รายละเอียดคมชัด สีสันธรรมชาติ และมีช่วงไดนามิกกว้างเพียงพอสำหรับการทำงานในขั้นตอน Post Production
Canon Log 3 เป็นโปรไฟล์ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงในการปรับแต่งสี และ Exposure ในขั้นตอนหลังการถ่าย ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาแสงที่ไม่เหมาะสมได้ระดับหนึ่ง
พร้อมกันนี้ยังมี ฟิลเตอร์ ND 3 สต็อปในตัว ช่วยลดปริมาณแสงที่เข้าสู่เซ็นเซอร์ ทำให้สามารถถ่ายในสภาพแสงจ้าได้โดยไม่ต้องปิดรูรับแสงมากเกินไป หรือใช้ชัตเตอร์สปีดเร็วจนทำให้การเคลื่อนไหวในวิดีโอดูแข็งจนเกินไป
ข้อจำกัดของ 4K 60p ที่ต้องรู้
สำหรับ วิดีโอ 4K 60fps ก็ถ่ายได้เช่นกัน แต่มาพร้อมกับการครอป 1.4 เท่า นั้นหมายความว่าเลนส์ 16mm จะกลายเป็นประมาณ 22mm ทำให้ระยะในการถ่าย Vlog แบบถือเดินนั้นเป็นเรื่องที่ลำบาก รวมถึงระบบกันสั่นก็จะถูกปิดไป ถ้าจำเป็นต้องใช้ 4K 60p ก็จะเหมาะสำหรับการใช้งาน ถ่ายวิดีโอแบบตั้งกล้องบนขาตั้ง หรืออาจจะต้องหาไม้กันสั่นขนาดเล็กมาช่วยลดการสั่นไหว
ฟีเจอร์เสริมวิดีโอด้านอื่นๆ
- Full HD 120p สำหรับ Slow Motion แต่ไม่มีเสียง ทำให้เหมาะสำหรับการถ่าย B-roll หรือฉากพิเศษ
- ความสามารถด้าน Streaming โดยสามารถใช้เป็นเว็บแคมผ่าน USB-C ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเสริม ด้วยความได้เปรียบของขนาดเซ็นเซอร์ ทำให้คุณภาพของภาพในโหมดเว็บแคมดีกว่าเว็บแคมทั่วไปมาก และยังมีพัดลมในตัว ช่วยให้ใช้งานสตรีมนานๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา
- มี Picture Profile สำหรับเปลี่ยนลุคของภาพวิดีโอให้เลือกใช้หลายแบบ สำหรับเวลาที่เราอยากได้คลิปสวยๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปเกรดสีทีหลัง เพิ่มความสะดวกให้คนที่อยากถ่ายปุ้บแล้วใช้ปั้บได้เลย
ออโต้โฟกัสที่รวดเร็วแม่นยำ
หนึ่งในจุดแข็งของ PowerShot V1 คือระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel AF II ที่ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำอย่างน่าประทับใจ จากการใช้งานจริง เราพบว่าระบบนี้สามารถล็อกโฟกัสไปยังวัตถุได้เกือบจะในทันที การตอบสนองของระบบออโต้โฟกัสเร็วมากจนแทบจะไม่เห็นการ “หา” โฟกัส แม้ในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงแสงหรือระยะทางอย่างรวดเร็ว ระบบยังคงสามารถติดตามได้อย่างต่อเนื่อง
การจดจำวัตถุที่ชาญฉลาด
ระบบการจดจำวัตถุ (Subject Detection) สำหรับมนุษย์และสัตว์ก็ทำงานได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะการจดจำใบหน้าและดวงตา เมื่อมีคนเข้ามาในเฟรม ระบบจะล็อกโฟกัสที่ใบหน้าทันที และเมื่อคนหันหน้าไปมา ระบบจะปรับโฟกัสตามการเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น
จากการทดสอบในโหมด “เซลฟี่/Vlogger” พบว่าระบบแม่นยำเป็นพิเศษในการรักษาระยะโฟกัสบนใบหน้าและดวงตา แม้เมื่อเคลื่อนไหวไปมาหรือเปลี่ยนระยะห่างจากกล้อง ซึ่งความสามารถนี้ทำให้เวลาถ่าย Vlog ไม่ต้องห่วงว่าหน้าจะเบลอหรือหลุดโฟกัส
ประสบการณ์ใช้งานจริงกับ Vlog
สำหรับการทำ Vlog ระบบออโต้โฟกัสนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมาก เมื่อยืดแขนออกไปถ่ายตัวเอง ระบบจะจดจำใบหน้าและรักษาโฟกัสได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเอียงหัว เคลื่อนไหว หรือเปลี่ยนระยะห่าง
การทดสอบในสถานการณ์ที่เดินไปพูดไป ระบบก็สามารถติดตามและรักษาโฟกัสได้อย่างมั่นคง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องภาพเบลอกลางคัน
การทำงานในสภาพแสงต่างๆ
ในสภาพแสงดี ระบบ AF ทำงานได้เร็วและแม่นยำเกือบสมบูรณ์แบบ ในสภาพแสงน้อย ความเร็วจะลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงแม่นยำ และไม่ค่อยมีปัญหาการโฟกัสผิด
การเปลี่ยนระหว่างวัตถุใกล้และไกลก็ทำได้อย่างราบรื่น ไม่มีการกระตุกหรือหยุดชะงัก ทำให้ได้วิดีโอที่ดูมืออาชีพมากขึ้น
จุดแข็งโดดเด่นสำหรับ Content Creator
ระบบออโต้โฟกัสที่แข็งแกร่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อวิดีโอที่ดูราบรื่นและเป็นมืออาชีพมากขึ้น ลดความจำเป็นในการปรับโฟกัสด้วยตนเอง และช่วยให้ผู้สร้างมีสมาธิกับคอนเทนต์ของตน
สำหรับ Vlogger ที่ต้องการสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงโดยไม่ต้องมีทีมช่วย ระบบออโต้โฟกัสนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงคุณค่ามาก
ระบเสียงและแบตเตอรี่
คุณภาพเสียงที่น่าพอใจ
ไมโครโฟนภายใน ของ V1 สามารถบันทึกเสียง 16 บิตคุณภาพดี และที่บังลมไมโครโฟนที่ให้มาก็มีประสิทธิภาพในการลดเสียงลมได้อย่างดี จากการทดสอบการบันทึกเสียงในสภาพแวดล้อมต่างๆ พบว่าคุณภาพเสียงดีเกินความคาดหมายสำหรับกล้องขนาดเล็ก เสียงใสชัด จับเสียงพูดได้ดี และมีระดับ noise ที่ยอมรับได้
และในการใช้งาน Vlog ที่ถือกล้องถ่ายตัวเอง ระยะของเสียงที่เราพูดกับกล้องยังคงให้ความคมชัด และมีเสียงรบกวนเข้ามาเป็น Ambient อยู่บางๆ ที่ให้ฟิลดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ตัดเสียงจนเงียบสงัด
ถ้าต้องการทำคอนเทนต์ที่ต้องใช้ไมโครโฟนก็สามารถเชื่อมต่อผ่าน พอร์ตไมโครโฟน ได้ รวมถึงยังมี ช่องหูฟัง 3.5mm สำหรับมอนิเตอร์เสียงที่เข้ามาให้ตรวจเช็คระหว่างที่ถ่ายได้
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับเสียง: อาจมีเสียงหึ่งๆ จากมอเตอร์เลนส์เมื่อซูม และเสียงคลิกเมื่อเลนส์เคลื่อนที่ไปถึงสุดช่วงซูมเมื่อบันทึกเสียงด้วยไมโครโฟนภายใน แต่จะเจอเฉพาะในเวลาที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบมากๆ ซึ่งถ้าคุณซีเรียสเรื่องนี้ก็แนะนำให้ติดไมโครโฟนภายนอกแทน
แบตเตอรี่และการจ่ายไฟ
Canon PowerShot V1 ใช้แบตเตอรี่ LP-E17 ที่สามารถถ่ายภาพได้ประมาณ 340 ภาพ (400 ภาพในโหมดประหยัดพลังงาน) ซึ่งในการใช้งานจริงก็มักจะถ่ายได้มากกว่านี้
มีข้อได้เปรียบคือสามารถเสียบไฟผ่านพอร์ต USB-C เพื่อจ่ายไฟได้อย่างต่อเนื่องและชาร์จแบตเตอรี่ขณะบันทึกหรือสตรีมวิดีโอได้ สิ่งนี้แก้ปัญหาข้อจำกัดของแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะใช้ผ่านอะแดปเตอร์หรือว่าพาวเวอร์แบงค์ก็ได้ จุดนี้ถือว่ามาแก้ข้อจำกัดของแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี
ประสบการณ์หลังลองใช้
สำหรับ รีวิว กล้อง Canon PowerShot V1 ทีมงาน TechOffside มีโอกาสได้ทดสอบลองใช้ไปพอสมควร เพื่อลองถึงประสิทธิภาพในการใช้งานด้านต่างๆ ถือว่ามีจุดที่น่าประทับใจเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานด้านการถ่ายวิดีโอ
ในการทำ Vlog แบบยืดแขนออกไป ตัว grip จับกระชับมือได้อย่างสบาย แม้ใช้งานเป็นเวลานาน หน้าจอที่พับได้ทำให้มองเห็นตัวเองได้ชัดเจน และระบบ AF ติดตามใบหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
ระบบกันสั่น Optical IS สำหรับภาพถ่ายและ Digital IS สำหรับวิดีโอทำงานได้ดี ช่วยให้ได้ภาพที่นิ่งเมื่อถือด้วยมือ แม้ในการเดินไปพูดไป ภาพก็ยังคงความนิ่งได้ในระดับที่ยอมรับได้
อย่างไรก็ตาม ในการทำ Vlog แบบเดินไปพูดไปที่มีการเคลื่อนไหวมาก อาจยังมีการสั่นไหวเล็กน้อยที่ขอบภาพ สำหรับงานที่ต้องการความนิ่งระดับสูงมาก อาจต้องเพิ่มอุปกรณ์เสริมอย่างกิมบอลมาช่วย
ในสภาพแสงดี คุณภาพวิดีโอ 4K อยู่ในระดับที่ดีมาก รายละเอียดคมชัด สีสันธรรมชาติ และมีความคมชัดที่น่าประทับใจ และถ้าอยู่กลางแดดแสงจ้ามากๆ ก็ยังมี ND มาช่วย
ในสภาพแสงน้อย เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ช่วยได้มาก แต่รูรับแสงที่แคบของเลนส์ทำให้ต้องพึ่งพา ISO สูงขึ้น ในสภาพแสงน้อยมากๆ อาจมี noise ปรากฏขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้สำหรับการใช้งานทั่วไป
สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง ก็ทำได้ในระดับที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าจะออกแบบมาเน้นในด้านการถ่ายวิดีโอเป็นหลัก โดยภาพถ่ายได้ความละเอียด 22.3 ล้านพิกเซล มีคุณภาพดี คมชัด และสีสันสวยงาม ถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 30fps (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) ทำให้สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวได้ดี ตัวไฟล์ RAW ยังให้ความยืดหยุ่นดีสำหรับการปรับแต่งในขั้นตอนหลัง
และด้วยความสามารถเรื่องของการโฟกัสที่เร็วและแม่นยำ การใช้สำหรับเดินทางท่องเที่ยวหรือการใช้งานแบบ Point-and-shoot ก็ตอบสนองได้ดีเกินความคาดหมาย ทำให้เป็นกล้องที่หลากหลายมากกว่าที่คิด
แต่ก็มีข้อจำกัดในการถ่ายภาพนิ่งอยู่หลายจุด ตั้งแต่การที่ไม่มีช่องมองภาพแบบ EVF ต้องดูจากหน้าจออย่างเดียว ซึ่งอาจจะลำบากสำหรับสายปั้นช็อตที่ต้องเล็งกลางแดด ส่วน Picture Profile ที่มีให้ในโหมดวิดีโอ แต่กับการถ่ายภาพนิ่งนั้นกลับไม่มีให้เลือกใช้
รวมถึงตัวเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดแค่ f2.8 ที่เวลาถ่ายพอร์ตเทรตก็อาจจะไม่ได้ละลายหลังมากนัก ซึ่งเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่มีรูรับแสงกว้างสุดที่ f1.8-f2.0 จึงทำให้รู้สึกว่าการถ่ายภาพนั้น PowerShot V1 ยังมีความขาดๆ เกินๆ อยู่พอสมควร
ดังนั้นถ้าคาดหวังว่าจะใช้ PowerShot V1 เป็นกล้องคอมแพคสายสตรีท ส่วนตัวคิดว่าอาจจะยังตอบโจทย์ไม่ได้เต็มที่นัก อยู่ในระดับที่พอใช้แต่ยังไม่ได้น่าประทับใจมากเท่าไร
สรุป รีวิว Canon PowerShot V1 เหมาะสำหรับใคร?
Canon PowerShot V1 มีจุดแข็งหลายประการที่ทำให้โดดเด่นในตลาด: ระบบระบายความร้อนที่ช่วยให้บันทึก 4K ได้ไม่จำกัดเวลา, ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel AF II ที่เหนือชั้น, เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่ให้คุณภาพภาพดีกว่ากล้องรุ่นอื่น, และการออกแบบที่คิดมาเพื่อ Vlogger โดยเฉพาะ
ในทางกลับกัน PowerShot V1 ก็มีข้อจำกัด: เลนส์แบบตายตัวที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้, ไม่มีช่องมองภาพหรือแฟลชในตัว, รูรับแสงสูงสุดค่อนข้างช้า, และ 4K 60p ที่มีการครอปและไม่มีกันสั่น นอกจากนี้ยังมีเสียงรบกวนจากเลนส์เมื่อซูม และอาจมี noise ในสภาพแสงน้อยมาก
ใครที่ควรซื้อ Canon PowerShot V1
กลุ่มเป้าหมายหลัก: Vlogger และ Content Creator ที่ต้องการกล้องประสิทธิภาพสูงแต่ใช้งานง่าย อยากได้กล้องเก็บวิดีโอนอกสถานที่ๆ ไม่ใหญ่หรือเตะตาผู้คนเกินไป หยิบจับขึ้นมาถ่ายได้ทันทีไม่ต้องเซ็ตอัพมาก หรือจะใช้สำหรับเก็บฟุตเทจสำหรับใช้ประกอบการเล่าเรื่อง
รวมไปถึงผู้ที่ต้องการใช้งานเป็นกล้องตั้งบันทึกวิดีโอยาวๆ หรือทำ Live Streaming ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะว่ามีพัดลมช่วยจัดการอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป ถ่ายต่อเนื่องยาวๆ ได้หายห่วง
ไม่เหมาะสำหรับ: ตากล้องสายถ่ายภาพ สายสตรีท เนื่องจากไม่มีช่องมองภาพและแฟลชในตัว, ผู้ที่ต้องการความหลากหลายของเลนส์ที่เปลี่ยนได้, และผู้ที่มีงบประมาณจำกัดเนื่องจากราคาค่อนข้างสูง
สำหรับ ราคา ของ Canon PowerShot V1 วางจำหน่ายอยู่ที่ 31,990 บาท ถือว่าอยู่ในระดับพรีเมียมสำหรับกล้องคอมแพค เมื่อพิจารณาคุณสมบัติที่ได้รับ – เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่, ระบบระบายความร้อน, ระบบ AF ขั้นสูง, และความสามารถวิดีโอระดับมืออาชีพ – ราคานี้มีความสมเหตุสมผล
โดยรวมแล้ว Canon PowerShot V1 เป็นกล้องที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มเฉพาะอย่างชัดเจน และทำหน้าที่นั้นได้ดีเยี่ยม สำหรับ Vlogger ที่ต้องการเครื่องมือที่เชื่อถือได้และใช้งานง่าย นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
