ใครที่เปิดธุรกิจเล็กๆ หรือทำงานในออฟฟิศขนาดเล็ก คงเจอปัญหาเดิมๆ กันอยู่ คือ เครื่องพิมพ์กินหมึกแพง บางครั้งค่าหมึกแพงกว่าตัวเครื่องเสียอีก! วันนี้ TechOffside มี รีวิว Canon MAXIFY GX2070 เครื่องพิมพ์ 4-in-1 ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
จริงๆ แล้วตลาดเครื่องพิมพ์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กมีทางเลือกไม่มาก เพราะเครื่องราคาประหยัดก็พิมพ์ได้ช้า ส่วนเครื่องที่พิมพ์เร็วก็แพง แต่ Canon MAXIFY GX2070 สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยระบบ MegaTank ที่เติมหมึกเองได้ง่าย พร้อมความประหยัดในการพิมพ์ต่อแผ่นที่คำนวนแล้วคุ้มสำหรับงานออฟฟิศที่มีการพิมพ์เอกสารทุกวัน
ระบบ MegaTank หัวใจสำคัญของการประหยัด
คุณเคยคิดไหมว่า การเติมหมึกเครื่องพิมพ์จะง่ายได้ขนาดไหน ระบบ MegaTank ของ Canon MAXIFY GX7070 นั้นออกแบบมาให้ใครก็สามารถเติมหมึกได้ง่ายแบบที่ใครๆ ก็ทำเองได้ และลืมเรื่องเวลาที่หมึกหมดแล้วตั้งเปลี่ยนตลับ ไปได้เลย เพราะ GX7070 ใช้ระบบหมึกแทงค์ที่ออกแบบมาจากโรงงาน ไม่ต้องไปเสี่ยงให้ร้านข้างนอกดัดแปลงแล้วติดตั้งเอง
แคนนอนคิดตั้งแต่การออกแบบให้ขวดหมึกแต่ละสีมีหัวเติมพิเศษ ที่พอดีกับช่องเติมแต่ละสีเท่านั้น หมายความว่าคุณจะเผลอเติมผิดสีไม่ได้แน่นอน! แถมยังมีระบบ Auto-Stop ที่จะหยุดการเติมอัตโนมัติเมื่อหมึกเต็ม ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะหรือเติมล้น การออกแบบแบบนี้แสดงให้เห็นว่า Canon เข้าใจปัญหาการใช้หมึกแทงค์แบบเก่าๆ และออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานง่ายที่สุด
ตัวเลขที่ Canon อ้างอิงเกี่ยวกับอัตราสิ้นเปลืองของหมึกในการพิมพ์ หมึกเต็มแท้งค์จะพิมพ์ได้สูงสุดถึง 4,500 หน้าในโหมดประหยัด ทั้งการพิมพ์ขาวดำและสี ลองคิดดูว่า ถ้าพิมพ์วันละ 50 หน้า ซึ่งถือว่าเยอะแล้วสำหรับออฟฟิศขนาดเล็ก หมึกขาวดำจะใช้ได้นานถึง 150 วัน หรือประมาณ 5 เดือน!
เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์แบบตลับหมึกทั่วไป ซึ่งมักจะพิมพ์ได้แค่ 200-400 หน้าต่อตลับ และราคาตลับหมึกดีๆ อยู่ที่ 800-1,500 บาท จะเห็นได้ว่า ระบบ MegaTank ประหยัดได้อย่างมาก นี่จึงทำให้ระบบ MegaTank เป็นตัวช่วยประหยัดค่าพิมพ์ในสำนักงานได้อย่างมหาศาล
ประสิทธิภาพการทำงาน 4-in-1 ปริ้นท์เร็วทันใจ
การออกแบบ Canon MAXIFY GX2070 ไม่ได้เน้นแค่ประหยัด แต่ยังคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงานด้วย ความเร็วในการพิมพ์ของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 15 หน้าต่อนาทีสำหรับขาวดำ และ 10 หน้าต่อนาทีสำหรับสี ตัวเลขนี้อาจไม่ใช่เลขที่เร็วที่สุดในตลาด แต่สำหรับธุรกิจทั่วไปก็ถือว่าเร็วเพียงพอแล้ว
ตัวถาดใส่กระดาษใส่ได้สูงสุด 250 แผ่น รวมถึงตัวถาดกระดาษมีความใสช่วยให้มองเห็นระดับกระดาษที่เหลือได้ง่าย ไม่ต้องเปิดดูทุกครั้ง สำหรับฟีเจอร์สแกน มีตัวป้อนเอกสารอัตโนมัติความจุ 35 แผ่น และสามารถสแกนสองด้านได้
คุณภาพงานพิมพ์ระดับมืออาชีพ
หลายคนอาจคิดว่าเครื่องพิมพ์ที่เน้นประหยัดจะคุณภาพไม่ดี แต่ Canon MAXIFY GX2070 พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง
GX2070 ใช้หมึกเม็ดสีความหนาแน่นสูง หรือที่เรียกว่า High-Density Pigment Inks ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ข้อความที่ได้จะคมชัดเหมาะสำหรับเอกสารทางธุรกิจ สีสันก็สดใสสวยงาม ที่สำคัญคือหมึกประเภทนี้มีคุณสมบัติกันน้ำ ทำให้เอกสารไม่เลอะเมื่อเปียกน้ำ และยังทนทานต่อการซีดจาง ไม่จางแม้ใช้ปากกาไฮไลท์
นอกจากนี้ Canon ยังเน้นคุณภาพงานพิมพ์สีของ GX2070 ให้คมชัดเทียบเท่ากับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ซึ่งเมื่อลองใช้งานจริง เอกสารที่พิมพ์ออกมา ข้อความคมชัด ไม่มีรอยเลอะ หรือสีซึมออกนอกขอบ งานสีก็ออกมาสวยงาม เหมาะสำหรับการนำเสนองานหรือส่งให้ลูกค้า
พร้อมกันนี้จุดเด่นที่สำคัญคือความทนทานของหมึก Pigment เอกสารที่พิมพ์ไว้หลายเดือนยังคงคุณภาพเดิม ไม่ซีดจาง ถือว่าสำคัญมากสำหรับงานเอกสารที่ต้องเก็บไว้นาน เช่น สัญญา ใบเสนอราคา หรือเอกสารอ้างอิง เพราะถ้าหากใช้หมึกพิมพ์ราคาถูกที่ไม่มีคุณภาพ หมึกที่พิมพ์ก็จะซีดจางเลือนหายได้
ความสะดวกในการใช้งาน
ยุคนี้เครื่องพิมพ์ไม่ใช่แค่เครื่องพิมพ์แล้ว ต้องเป็นศูนย์กลางการทำงานที่เชื่อมต่อกับทุกอุปกรณ์ Canon MAXIFY GX2070 เข้าใจเรื่องนี้ดี จึงมาพร้อมการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
ในส่วนของการเชื่อมต่อแบบดั้งเดิม มี USB 2.0 สำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์โดยตรง และ LAN แบบสายสำหรับเครือข่ายออฟฟิศ สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย ก็รองรับทั้ง Wi-Fi ปกติและ Wi-Fi Direct สำหรับเชื่อมต่อโดยตรงไม่ผ่านเราเตอร์
ที่น่าสนใจคือ รองรับการพิมพ์ผ่านมือถือที่ครบครัน มีแอป Canon PRINT ที่เป็นแอปหลักของ Canon, AirPrint สำหรับ iPhone และ iPad, Mopria ที่เป็นมาตรฐานสำหรับ Android, และ Canon Print Service ที่ออกแบบมาสำหรับ Android โดยเฉพาะ การที่รองรับหลายระบบแบบนี้หมายความว่าไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการอะไร ก็สามารถพิมพ์งานได้สะดวก
การสั่งงานสามารถทำผ่าน Touchscreen Display ขนาด 2.7 นิ้ว ที่ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นมาก สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้โดยตรงบนหน้าจอ ไม่ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์เสมอไป การออกแบบ UI ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ทำให้แม้คนที่ไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีก็สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น
นอกจากการพิมพ์แล้ว GX2070 ยังมีความสามารถในการสแกนที่หลากหลาย สามารถสแกนแล้วส่งอีเมลทันที สแกนไปเก็บในโฟลเดอร์เครือข่ายเพื่อบันทึกไปที่เซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้การแปลงเอกสารกระดาษเป็นดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่น เหมาะสำหรับออฟฟิศที่กำลังเปลี่ยนเป็น paperless
ในเรื่องการดูแลรักษา ตัวเครื่องยังออกแบบให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนฟองน้ำซับหมึกเองได้ โดยปกติเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทจะมีฟองน้ำซับหมึกเป็นชิ้นส่วนที่ต้องให้ช่างเปลี่ยน แต่ GX2070 ออกแบบให้ผู้ใช้เปลี่ยน ชิ้นส่วน MC-G05 ได้เอง ช่วยประหยัดทั้งค่าแรง และไม่ต้องเสียเวลารอให้ทีมเทคนิคมาจัดการ
วัสดุในการพิมพ์ GX2070 ไม่ได้จำกัดแค่กระดาษ A4 ธรรมดา แต่รองรับสื่อสิ่งพิมพ์หลากหลาย เช่น กระดาษสติกเกอร์ กระดาษแบนเนอร์ ซองจดหมายแบบมีหน้าต่าง ฉลาก และกระดาษแม่เหล็ก ความสามารถนี้เปิดโอกาสให้ธุรกิจเล็กสร้างสื่อการตลาดเองได้ เช่น ป้ายหน้าร้าน ป้าย ณ จุดขาย หรือสติกเกอร์สินค้า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างงานภายนอก
รีวิว Canon MAXIFY GX2070 เหมาะสำหรับใคร? ธุรกิจแบบไหนถึงจะใช้คุ้ม?
หลังจากทำความรู้จักกับฟีเจอร์ต่างๆ แล้ว มาดูกันว่า Canon MAXIFY GX2070 ประสิทธิภาพนั้นเหมาะสำหรับใคร
กลุ่มเป้าหมายหลักคือ สำนักงานขนาดเล็กที่มีพนักงาน 3-10 คน เช่น ออฟฟิศบัญชี สำนักงานกฎหมาย บริษัท Smes เพราะข้อดีสำหรับกลุ่มนี้คือ ตัวเครื่องประหยัดพื้นที่ด้วยฟังก์ชัน 4-in-1 พร้อมทั้งยังประหยัดต้นทุน และไม่ต้องจ้างคนดูแลเครื่องพิมพ์โดยเฉพาะ
อีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจคือ ธุรกิจที่ต้องพิมพ์เอกสารปริมาณมาก อย่างเช่น โรงเรียนกวดวิชาที่ต้องพิมพ์ข้อสอบและเอกสารประกอบการสอน คลินิกที่ต้องพิมพ์ใบสั่งยาและเอกสารผู้ป่วย หรือแม้แต่ร้านถ่ายเอกสาร สำหรับกลุ่มนี้ ระบบ MegaTank จะช่วยประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างมาก
สรุปข้อดีและสิ่งที่ควรรู้
ข้อดีที่โดดเด่นที่สุดคือ ระบบ MegaTank ประหยัดต้นทุนการพิมพ์ได้จริง เมื่อเทียบกับค่าหมึกแบบตลับแล้วถูกกว่าหลายเท่าอย่างชัดเจน แถมยังใช้งานครบครันในเครื่องเดียวก็เป็นอีกจุดเด่น การมีฟังก์ชัน 4-in-1 ช่วยประหยัดพื้นที่และลดความยุ่งยาก ไม่ต้องมีเครื่องหลายเครื่อง
คุณภาพงานพิมพ์ก็ไม่ผิดหวัง คมชัด สีสวย เหมาะสำหรับงานธุรกิจ การใช้งานก็ง่าย การติดตั้งและใช้งานไม่ซับซ้อน การเติมหมึกง่ายมาก การเชื่อมต่อที่หลากหลายก็รองรับครบครัน ทั้งแบบมีสายและไร้สาย และใช้งานผ่านเครือข่ายก็เหมาะสำหรับออฟฟิศที่ทุกเครื่องสามารถสั่งปริ้นท์ได้อย่างสะดวก
ในส่วนของข้อจำกัดที่ควรรู้ก็คือ ความเร็วที่ยังไม่ใช่จุดเด่น ถึงแม้จะเร็วพอใช้ แต่ถ้าเทียบกับเครื่องเลเซอร์ในราคาใกล้เคียง กันก็ยังช้ากว่า ขนาดค่อนข้างใหญ่เนื่องจากมีฟังก์ชันครบครัน ทำให้ขนาดเครื่องใหญ่กว่าเครื่องพิมพ์ธรรมดา รวมถึงการพิมพ์ภาพถ่ายยังไม่โดดเด่นนัก ถึงแม้จะพิมพ์สีได้สวย แต่สำหรับภาพถ่ายคุณภาพสูง ยังเทียบกับเครื่องพิมพ์ภาพยังไม่ได้
เรามองว่าถ้าคุณจำเป็นที่จะต้องพิมพ์เอกสารต่อวันเป็นจำนวนมาก ระดับเกิน 50 แผ่นต่อวัน ควรพิจารณาเลือกเป็นเครื่องรุ่นอื่นหรือเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ที่จะมีความเร็วมากกว่า
ในเรื่องของความคุ้มค่า ด้วยราคา 9,520 บาท Canon MAXIFY GX2070 อยู่ในระดับเริ่มต้นของตลาดเครื่องพิมพ์ธุรกิจ แต่เมื่อคิดถึงต้นทุนรวม ก็ถือว่าให้ความคุ้มค่าอย่างเห็นได้ชัด
ลองสมมติคำนวนใช้งาน 2 ปี พิมพ์เดือนละ 300 หน้า แบ่งเป็นขาวดำ 250 หน้า และสี 50 หน้า คิดราคาค่าเครื่องบวกกับหมึกใช้ 2 ปีประมาณ รวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 16,000 บาท เฉลี่ยต้นทุนต่อแผ่นอยู่ที่ 2 บาทกว่าๆ ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเลย
คำแนะนำการตัดสินใจเลือกรุ่นนี้คือ ควรซื้อถ้าพิมพ์เอกสารมากกว่า 100 หน้าต่อเดือน และต้องการความครบครันในเครื่องเดียว ให้ความสำคัญกับต้นทุนระยะยาว และมีพื้นที่จำกัดในออฟฟิศ แต่ถ้าพิมพ์น้อยกว่า 100 หน้าต่อเดือน เราอาจแนะนำพิจารณาเครื่องรุ่นเล็กลงมาเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และถ้าหากมีการพิมพ์ในปริมาณที่มากกว่า ก็แนะนำเลือกรุ่นที่ประสิทธิภาพสูงกว่าอย่าง GX7070 ที่เร็วและแทงค์จุหมึกได้มากกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกเครื่องพิมพ์ไม่ควรดูแค่ราคาตัวเครื่อง แต่ต้องคิดถึงต้นทุนรวมตลอดอายุการใช้งาน และ Canon MAXIFY GX2070 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสำหรับรับมืองานพิมพ์ในสำนักงานที่ครบครันและมีต้นทุนในการใช้งานระยะยาวที่คุ้มค่า
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
