AIS ร่วมกับ ซัมซุง และ bolttech เปิดตัวบริการดูแลสมาร์ตโฟนรูปแบบใหม่ AIS Care+ with Samsung Care Services ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มอบการดูแลแบบครบวงจรด้วยสิทธิพิเศษเปลี่ยนหน้าจอฟรี ซ่อมไม่จำกัดครั้ง และเปลี่ยนเครื่องได้ถึง 2 ครั้งต่อปี ตอบโจทย์ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนที่ต้องการความอุ่นใจตั้งแต่วันแรกที่ซื้อ
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากการผนึกกำลังระหว่าง 3 องค์กรชั้นนำ ได้แก่ AIS ผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะ 5G ของไทย ซัมซุง ผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนระดับโลก และ bolttech บริษัทผู้นำด้านอินชัวร์เทคระดับโลก เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลสมาร์ตโฟนในประเทศไทย
บริการ AIS Care+ with Samsung Care Services ครอบคลุมความเสียหายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตก แตก พัง หรือสูญหาย โดยมีสิทธิประโยชน์หลักดังนี้ เปลี่ยนหน้าจอฟรี 1 ครั้งต่อปี บริการซ่อมเครื่องไม่จำกัดจำนวนครั้งและไม่จำกัดมูลค่าการเคลมตลอดอายุสัญญา เปลี่ยนเครื่อง (Switch) ได้สูงสุด 2 ครั้งต่อปี และขอรับเครื่องทดแทน (Replace) 1 ครั้งต่อปี
นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจค้าปลีก AIS เผยว่า การเปิดตัวบริการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่แตกต่างและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัล นอกเหนือจากการให้บริการเครือข่ายคุณภาพแล้ว AIS ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายแบบครบวงจร
นายสิทธิโชค นพชินบุตร ประธานองค์กรธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ AIS ในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการดูแลสมาร์ตโฟนในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้ชาวไทยมั่นใจในทุกการใช้งาน
ส่วน นายอีสป อัน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โบลท์เทค (ประเทศไทย) มองว่า บริการนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในกลยุทธ์ที่นำโดยพันธมิตรในตลาด และจะสานต่อความร่วมมือเพื่อมอบคุณค่าที่มากขึ้นแก่ฐานลูกค้า
ลูกค้าที่ซื้อสมาร์ตโฟน ซัมซุง กับ AIS สามารถสมัครใช้บริการได้ที่ AIS Shop, Telewiz, AIS Buddy ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือร้านค้าที่ร่วมรายการ และรับบริการได้ที่ Samsung Authorized Service Center ทั่วประเทศ โดยบริการจะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ https://www.ais.th/consumers/promotions/service/ais-care-samsung-care และแอปพลิเคชันไลน์ @AISCarePlus
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
