Apple เปิดตัวฟีเจอร์ สุขภาพการได้ยิน แบบครบวงจร (Hearing Aid) บน AirPods Pro 2 พร้อมให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยใช้งานได้แล้ว ด้วยความสามารถใหม่ที่ทำให้หูฟังกลายเป็นอุปกรณ์ช่วยฟังระดับคลินิกโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
ฟีเจอร์ใหม่นี้มาพร้อมระบบทดสอบการได้ยินที่ทำเองได้ที่บ้าน เทคโนโลยีการลดเสียงดังขั้นสูง และโปรไฟล์การฟังเฉพาะบุคคลที่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การฟังสำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ผู้ใช้งานในไทยสามารถเข้าถึงฟีเจอร์เหล่านี้ได้ผ่านการอัปเดตอัตโนมัติ
ระบบทดสอบการได้ยินระดับคลินิกที่ทำเองได้ที่บ้าน
Apple พัฒนาระบบทดสอบการได้ยินที่อิงจากวิธีมาตรฐานทางการแพทย์ที่เรียกว่า pure-tone audiometry ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสมรรถภาพการได้ยินด้วยเสียงบริสุทธ์ที่ใช้ในคลินิก ผู้ใช้สามารถทำแบบทดสอบนี้ได้สะดวกจากที่บ้านโดยใช้ AirPods Pro และ iPhone หรือ iPad ที่รองรับ
การทดสอบใช้เวลาเพียงประมาณ 5 นาทีเท่านั้น โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ด้านเสียงขั้นสูงพร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ เมื่อผู้ใช้ทำแบบทดสอบเสร็จ ระบบจะแสดงสรุปผลที่เข้าใจง่าย ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขระดับการสูญเสียการได้ยินของหูแต่ละข้าง การจำแนกประเภท และคำแนะนำที่เหมาะสม
ผลลัพธ์ของการทดสอบรวมถึงภาพกราฟเสียงจะจัดเก็บไว้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในแอปสุขภาพ ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อใช้ประกอบการปรึกษาอย่างมีข้อมูลยิ่งขึ้นได้ การทดสอบการได้ยินนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากองค์ความรู้ในการศึกษาด้านการได้ยินของ Apple โดยอิงจากข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
AirPods Pro 2 กลายเป็นอุปกรณ์ช่วยฟังระดับคลินิก
หนึ่งในความสามารถที่โดดเด่นที่สุดคือการทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ช่วยฟังสำหรับผู้ที่มีภาวะสูญเสียการได้ยินในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยไม่ต้องพบแพทย์หรือมีใบสั่งยา ด้วยโปรไฟล์การฟังเฉพาะบุคคลที่ได้จากการทดสอบการได้ยิน AirPods Pro 2 จะเปลี่ยนให้กลายเป็นอุปกรณ์ช่วยฟังระดับคลินิก
หลังจากตั้งค่าแล้ว ระบบจะปรับเสียงแบบไดนามิกให้เหมาะกับผู้ใช้โดยอัตโนมัติและช่วยขยายเสียงรอบตัวแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการสนทนาได้ดีขึ้น และเชื่อมต่อกับผู้คนรวมถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้อย่างไม่สะดุด ด้วยคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมของ AirPods Pro โปรไฟล์การฟังเฉพาะบุคคลของผู้ใช้จะถูกนำไปใช้กับเสียงเพลง ภาพยนตร์ เกม และการโทรบนทุกอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ
คุณสมบัติอุปกรณ์ช่วยฟังนี้ได้ผ่านการทดสอบทางคลินิก ซึ่งประเมินประสิทธิภาพที่ผู้ใช้รับรู้ได้และการตั้งค่าแบบปรับแต่งได้ โดยเปรียบเทียบกับการตั้งค่าที่ดำเนินการโดยนักโสตสัมผัสวิทยา ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ช่วยฟังด้วยกราฟเสียงที่จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพการได้ยินอีกด้วย
เทคโนโลยีการลดเสียงดังขั้นสูงป้องกันการเสื่อมของการได้ยิน
จากผลการศึกษาด้านการได้ยินของ Apple ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสาธารณะแบบเสมือนจริงในระยะยาวที่จัดทำร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกน และ องค์การอนามัยโลก พบว่าหนึ่งในสามของผู้คนต้องเผชิญกับเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมในระดับดังเป็นประจำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการได้ยินได้
สถานการณ์เหล่านี้รวมถึงกิจกรรมทั่วไป เช่น การนั่งรถไฟใต้ดินในระหว่างเดินทาง ตัดหญ้าที่บ้าน เข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยลดการสัมผัสกับเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมโดยไม่ลดทอนคุณภาพเสียงที่ผู้ใช้กำลังฟัง AirPods Pro 2 จึงมาพร้อมคุณสมบัติการลดเสียงดัง
จุกหูฟังจะช่วยลดเสียงรบกวนแบบพาสซีฟ ขณะที่ชิป H2 จะช่วยลดเสียงดังแบบแอ็คทีฟได้ถึง 48,000 ครั้งต่อวินาที คุณสมบัติการลดเสียงดังนี้จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในโหมดฟังเสียงภายนอกและโหมดเสียงที่ปรับตามสภาพแวดล้อม ซึ่งสามารถช่วยลดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่มีเสียงดังหลากหลายรูปแบบ
ด้วยอัลกอริทึมมัลติแบรนด์แบบใหม่ที่มีช่วงไดนามิกสูง เสียงในกิจกรรมสดอย่างคอนเสิร์ตจะยังคงฟังเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
ประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม
โปรไฟล์การฟังเฉพาะบุคคลไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะผู้ที่มีภาวะสูญเสียการได้ยินเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่มีภาวะสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ก็ยังได้รับประโยชน์จากการปรับเสียงในย่านความถี่เฉพาะได้เช่นเดียวกัน เพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุด Apple ยังเปิดตัวผู้ช่วยสื่อ (Media Assist) ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่ช่วยขยายเสียงบางส่วนของบทสนทนาในระหว่างการโทร หรือเสียงเครื่องดนตรีในเพลงประกอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
คุณสมบัติเหล่านี้เป็นการต่อยอดจากเครื่องมือดูแลสุขภาพการได้ยินที่ Apple มีให้กับผู้ใช้อยู่แล้วในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ในแอปเสียงรบกวน ผู้ใช้ Apple Watch สามารถเปิดการแจ้งเตือนได้เมื่อระดับเสียงรอบข้างอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพการได้ยิน ผู้ใช้สามารถตั้งค่าจำกัดระดับเสียงของหูฟังได้บน iPhone โดยเปิดคุณสมบัติการลดเสียงดัง แล้วเลื่อนแถบควบคุมไปยังระดับเดซิเบลที่ต้องการ
ความท้าทายในการดูแลสุขภาพการได้ยินทั่วโลก
งานวิจัยระดับโลกพบว่าภาวะสูญเสียการได้ยินมักไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ข้อมูลจากการศึกษาด้านการได้ยินของ Apple พบว่า 75% ของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะสูญเสียการได้ยินยังไม่ได้รับความช่วยเหลือหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นในการสนับสนุนการได้ยินของตนเอง
ภาวะสูญเสียการได้ยินมักเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเผชิญกับภาวะนี้อยู่ การเปิดตัวฟีเจอร์สุขภาพการได้ยินบน AirPods Pro 2 จึงเป็นก้าวสำคัญในการทำให้การดูแลสุขภาพการได้ยินเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้แล้วในขณะนี้
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
