YouTube Auto-Dubbing

YouTube เปิดฟีเจอร์ Auto-Dubbing แปลงเสียงเป็นภาษาอื่น ให้ครีเอเตอร์ทุกคนใช้ได้แล้ว

YouTube ประกาศขยายการเข้าถึงฟีเจอร์ Auto-Dubbing ให้ครีเอเตอร์ทั่วโลกถึง 80 ล้านคน พร้อมเปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่หลายตัว รวมถึง Dream Screen และ Inspiration Tab ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างคอนเทนต์

การอัปเดตครั้งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาแพลตฟอร์มของ YouTube เพื่อรองรับความต้องการของครีเอเตอร์ในยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการแก้ปัญหาอุปสรรคด้านภาษาและการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ

Auto-Dubbing ทะลุขีดจำกัด เปิดให้ 80 ล้านครีเอเตอร์ใช้งาน

ฟีเจอร์ Auto-Dubbing ที่เคยจำกัดเฉพาะสมาชิก YouTube Partner Program (YPP) ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตอนนี้ขยายการให้บริการครอบคลุมครีเอเตอร์ที่ยืนยันตัวตนแล้วทุกคนทั่วโลก ซึ่งมีจำนวนถึง 80 ล้านคน

เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยแปลเสียงจากวิดีโอต้นฉบับเป็นภาษาอื่นๆ อัตโนมัติ ทำให้ครีเอเตอร์สามารถเข้าถึงผู้ชมต่างประเทศได้โดยไม่ต้องบันทึกเสียงใหม่ ระบบจะเลือกภาษาที่เหมาะสมให้ผู้ชมตามความชอบและประวัติการรับชมของแต่ละคน

นอกจากการขยายกลุ่มผู้ใช้แล้ว YouTube ยังเพิ่มจำนวนภาษาที่รองรับจาก 9 ภาษาเป็น 20 ภาษา ซึ่งรวมถึงภาษาสเปน โปรตุเกส เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ฮินดี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ดัตช์ เกาหลี มาลายาลัม โปแลนด์ โรมาเนีย รัสเซีย ทมิฬ เตลูกู ตุรกี ยูเครน และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ภาษาไทยยังไม่อยู่ในรายการภาษาที่รองรับในครั้งนี้

Inspiration Tab ขับเคลื่อนด้วย AI เข้าสู่ยุโรป

Inspiration Tab

YouTube เปิดตัว Inspiration Tab ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดจากแท็บ “Research” เดิม โดยเพิ่มความสามารถของ AI เข้ามาช่วยแนะนำเนื้อหา

ฟีเจอร์นี้วิเคราะห์ความสนใจของผู้ชมและพฤติกรรมการรับชมเพื่อแนะนำไอเดียคอนเทนต์ที่เข้ากับช่องของครีเอเตอร์แต่ละคน ที่น่าสนใจคือส่วน “Brainstorm” ที่ช่วยสร้างแนวคิดใหม่ๆ ให้ครีเอเตอร์ได้ทดลอง

การขยายฟีเจอร์นี้ไปยังตลาดยุโรปแสดงให้เห็นว่า YouTube ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องมือ AI ที่ช่วยลดภาระการคิดเนื้อหาของครีเอเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่หลายคนเผชิญอยู่

Dream Screen สร้างภาพ-วิดีโอด้วย AI เปิดในอังกฤษ

Dream Screen

ผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรสามารถเข้าถึง Dream Screen ได้แล้ว หลังจากที่ฟีเจอร์นี้เปิดให้ผู้ใช้ที่คัดเลือกทดลองใช้ตั้งแต่มิถุนายน 2024 เครื่องมือนี้ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างภาพและวิดีโอจากข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์

Dream Screen เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันด้านเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ด้วย AI ที่กำลังเดือดในตลาดโซเชียลมีเดีย ซึ่งแพลตฟอร์มต่างๆ พยายามนำเสนอฟีเจอร์ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

YouTube ระบุว่ากำลังวางแผนขยาย Dream Screen ไปยังประเทศอื่นๆ ในเร็วๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการปฏิวัติวิธีการสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม

เครื่องมือ Sync to Beat เปิดให้ทุกคนใช้

Sync to Beat

ฟีเจอร์ Beat-Matching หรือ “Sync to Beat” ที่เคยจำกัดเฉพาะตลาดบางประเทศ ตอนนี้เปิดให้ครีเอเตอร์ทุกคนเข้าถึงได้แล้ว เครื่องมือนี้ช่วยจับจังหวะระหว่างเสียงและภาพในวิดีโอ Shorts ให้เข้ากันอัตโนมัติ

การทำงานของ Sync to Beat ค่อนข้างง่าย ครีเอเตอร์เพียงเลือกภาพและคลิปวิดีโอหลายๆ ตัวจากแกลเลอรี่ เลือกเพลง แล้วระบบจะจัดเรียงคลิปให้เข้ากับจังหวะเพลงโดยอัตโนมัติ ครีเอเตอร์ยังสามารถดูตัวอย่างและแก้ไขเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์ครีเอเตอร์ที่ต้องการสร้างคอนเทนต์ที่ดูเป็นมืออาชีพแต่ไม่มีทักษะการตัดต่อขั้นสูง โดยเฉพาะในยุคที่วิดีโอสั้นกลายเป็นเทรนด์หลักของการบริโภคคอนเทนต์

ผลกระทบต่อตลาดครีเอเตอร์ไทย

การอัปเดตครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อครีเอเตอร์ไทยในแง่บวกและลบ ในด้านบวก ครีเอเตอร์ไทยที่ต้องการขยายฐานผู้ชมไปยังต่างประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Auto-Dubbing ได้ โดยสร้างเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษแล้วให้ระบบแปลเป็นภาษาอื่นๆ ที่รองรับ ขณะที่เครื่องมือ AI ต่างๆ จะช่วยลดต้นทุนและเวลาในการผลิตคอนเทนต์

อย่างไรก็ตาม การที่ภาษาไทยยังไม่ได้รับการรองรับใน Auto-Dubbing ทำให้ครีเอเตอร์ไทยที่สร้างเนื้อหาภาษาไทยยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำคัญในการแข่งขันกับครีเอเตอร์จากประเทศที่ภาษาของตนได้รับการรองรับแล้ว

ข้อมูลจาก: Social Media Today

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.