ทรู มูฟ เอช ประสบความสำเร็จในการประมูลคลื่นความถี่ครั้งล่าสุด โดยคว้าใบอนุญาตคลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz ด้วยราคา 21,770 ล้านบาท และคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ด้วยราคา 4,654 ล้านบาท ทำให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น กลายเป็นผู้ให้บริการที่มีชุดคลื่นความถี่ครอบคลุมและครบที่สุดในประเทศไทย
ผลการประมูลครั้งนี้ทำให้ทรูมีคลื่นความถี่รวม 8 คลื่น ครอบคลุมทุกย่าน ตั้งแต่คลื่นความถี่ต่ำ-กลาง-สูง ซึ่งจะสามารถนำมาพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและยกระดับประสบการณ์การใช้บริการดิจิทัลของผู้ใช้งานทั่วประเทศ
นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการประมูลครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์การลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี 5G, AI และ IoT พร้อมทั้งส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
คลื่น 2300 MHz ที่ทรูได้มาจะสามารถให้บริการได้ทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อส่งมอบความเร็ว ความครอบคลุม และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถรวมกับคลื่นย่านอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ 5G ของคลื่น 2600 MHz ให้เต็มศักยภาพยิ่งขึ้น
สำหรับคลื่น 1500 MHz เป็นคลื่นใหม่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต มีจุดเด่นในการเสริมประสิทธิภาพเทคโนโลยี 5G และต่อยอดการใช้งาน 4G สามารถเพิ่มความจุของเครือข่ายและความครอบคลุมในการดาวน์โหลด รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่หนาแน่นและนอกเมือง
การได้มาซึ่งคลื่นความถี่ใหม่นี้ทำให้ทรูสามารถใช้เทคโนโลยี Carrier Aggregation รวมคลื่นหลายย่านเข้าด้วยกัน ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นแม้อยู่ในพื้นที่แออัด มีสัญญาณเสถียรและลดปัญหาเน็ตช้าในช่วงเวลาพีค
ปัจจุบัน ทรู คอร์ปอเรชั่น มีชุดคลื่นความถี่ครบ 8 คลื่น ประกอบด้วย คลื่นความถี่ต่ำ 700 MHz และ 900 MHz คลื่นความถี่กลาง 1500 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz และ 2600 MHz และคลื่นความถี่สูง 26 GHz ซึ่งทำให้สามารถให้บริการที่หลากหลายทั้ง 5G, 4G พร้อมรองรับ IoT และ AI ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
