Trip.com ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก เปิดบ้านให้สื่อมวลชนเยี่ยมชม ศูนย์บริการ ลูกค้าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและความมุ่งมั่นในการให้บริการที่ตอบโจทย์นักเดินทางชาวไทย
การจัดงานพิเศษครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฉลอง Trip.com Group Customer Service Day ครั้งที่ 8 โดยเปิดโอกาสให้ได้เห็นเบื้องหลังการทำงานของระบบบริการลูกค้าระดับโลกที่ดูแลนักเดินทางหลายล้านคนทั่วโลก ซึ่ง Trip.com Group มีพนักงานบริการลูกค้าประมาณ 16,000 คน ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงไม่วันหยุด และมีอัตราการตอบกลับลูกค้า 95% ภายใน 20 วินาที
ศูนย์บริการลูกค้า Trip.com ประเทศไทยเริ่มก่อตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 ด้วยทีมงานเพียง 13 คน ที่ให้บริการเฉพาะการจองตั๋วเครื่องบิน ปัจจุบันได้ขยายเป็นทีมงานกว่า 100 คน ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Trip.com ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถเช่า รถไฟ และบัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก แสดงถึงอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจถึง 650% ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี
คุณวนิดา ไกรสุข ผู้จัดการฝ่ายบริการอาวุโสของ Trip.com Thailand เผยว่า “เราเชื่อว่าการเดินทางที่ดีต้องมีคนที่เข้าใจและพร้อมช่วยเหลือตลอดเวลา ทีมเราเป็นคนไทย 100% เข้าใจภาษา วัฒนธรรม และนิสัยคนไทย เรารู้ว่าลูกค้ากังวลเรื่องอะไร เราไม่ได้แค่ตอบคำถาม แต่เรารับฟังด้วยใจ เข้าใจสถานการณ์ และหาทางออกที่เหมาะกับคนไทยจริงๆ”
คุณวนิดา อธิบายถึง 4 จุดแข็งของศูนย์บริการลูกค้าไทยว่า ประการแรก เข้าใจวัฒนธรรมไทย รู้จักเทศกาล และพฤติกรรมการเดินทางของคนไทย ประการที่สอง บริการ 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด ไม่ว่าจะตี 2 หรือลูกค้าอยู่ต่างประเทศ ประการที่สาม ดูแลครบจบในที่เดียว ตั้งแต่เที่ยวบิน โรงแรม ไปจนถึงกิจกรรมต่างๆ และสุดท้าย รับฟังความคิดเห็นลูกค้าและนำไปปรับปรุงระบบจริง
ผลการดำเนินงานของศูนย์บริการลูกค้า Trip.com Thailand ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจของลูกค้าในระดับสูง โดยได้คะแนน Google App Rating และ iOS App Rating อยู่ที่ 4.8 และคะแนน Trustpilot Rating อยู่ที่ 4.4
สำหรับแผนอนาคต Trip.com Thailand ยังคงยึดมั่นในแนวทางที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมขยายทีมงานเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพัฒนาเครื่องมือช่วยเหลือ AI ขั้นสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยไม่สูญเสียจุดเด่นของความอุ่นใจด้วยการให้บริการด้วยบุคคล
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
