สวัสดีครับ วันนี้ TechOffside มี รีวิว Sonos Ace หูฟังแบบ Full-Size รุ่นแรกของ Sonos ที่เราคุ้นเคยในฐานะแบรนด์ลำโพงไร้สายและซาวด์บาร์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากว่า 20 ปี การที่ก้าวเข้ามาสู่ตลาดหูฟังต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
Sonos Ace นั้นเปิดตัวและวางจำหน่ายมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2024 ที่ล่าสุดเพิ่งมีการอัปเดตใหญ่เพิ่มประสิทธิภาพและฟีเจอร์การใช้งานใหม่ และก่อนหน้านี้เราเพิ่งได้ลองทดสอบตัวซาวด์บาร์ Sonos Arc Ultra ไป ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อให้ประสบการณ์เสียงในการชมภาพยนตร์ที่ดียิ่งขึ้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะ รีวิว เจ้าหูฟังตัวนี้
Sonos ถือว่าเป็นแบรนด์ที่จริงจังเรื่องของเสียงและประสบการณ์ผู้ใช้อย่างมาก การที่กระโดดเข้ามาในตลาดหูฟังนั้นจึงไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ เพราะพวกเขาไม่ได้สร้าง Sonos Ace มาเพื่อเป็นแค่อุปกรณ์ฟังเพลง แต่ต้องการให้เข้ามาเป็นส่วนขยายของระบบโฮมเธียร์เตอร์ของ Sonos จึงเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด
หูฟัง Sonos Ace เน้นประสบการณ์ Spatial Audio สำหรับดูหนัง ซีรีส์ และฟีเจอร์ TV Audio Swap ที่ให้เราสลับเสียงจากลำโพง Sonos มาที่หูฟังได้แค่กดปุ่มเดียว
TechOffside เราได้ทดสอบลองใช้งาน Sonos Ace มาได้หลายสัปดาห์ ทั้งการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน ที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน รวมไปถึงการใช้งานฟีเจอร์เด่นทั้งการฟังเพลงและดูหนัง เพื่อให้คุณได้ข้อมูลที่ครบถ้วนว่าหูฟังรุ่นนี้จะคุ้มค่ากับราคาที่คุ้มค่ามั้ย และเหมาะกับใครบ้าง? มาเจาะลึกดูกันในแต่ละส่วนไปพร้อมๆ กัน
Unbox แกะกล่อง



Sonos ให้ความรู้สึกที่ดีกับตัวผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ตัวแพ็กเกจ ที่มีความใส่ใจทั้งการออกแบบและเลือกวัสดุ ที่ใช้กระดาษน้ำตาลที่ไม่มีการเคลือบเงา และพิมพ์ด้วยหมึกที่ใช้สีน้อย จึงนำไปรีไซเคิลได้ง่าย
Sonos Ace มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ (Matte Black) และตัวที่เราได้มาทดสอบ รีวิว กับ สีครีม (Soft White) ที่ดูสว่างตา สวยงาม ดูหรูหรา แต่อาจจะต้องระวังเรื่องการดูแลรักษา ถ้าใครอยากได้เข้มๆ ดูเรียบร้อย และไม่ต้องห่วงเรื่องคราวสกปรกในการใช้ระหว่างวัน เราแนะนำให้เลือกสีดำ

ภายในกล่องจะมีตัวหูฟังที่เก็บเอาไว้อยู่ในเคส ที่เป็นวัสดุที่จับแล้วไม่แข็งกระด้าง แต่ดูแล้วก็กังวลไม่น้อยเรื่องที่อาจจะเปื้อนเลอะและเก็บฝุ่นได้ เนื่องจากเป็นแบบผ้าขน โดยเฉพาะในสีขาวนั้น เราก็แอบกลัวว่าเคสนั้นจะเลอะได้ง่ายแน่ๆ

ตัวเคสเปิดออกได้ด้วยการรูดซิปรอบด้านข้าง โดยขนาดของเคสส่วนตัวดูแลมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร สำหรับผู้หญิงถ้าใส่กระเป๋าถือหรือสะพายอาจจะลำบาก แต่ถ้าใส่กระเป๋าแบบ Tote หรือเป้สะพายหลังก็ยังใส่ได้อยู่



ในแพ็กเกจนั้น จะมีตัวเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้นเพื่อเชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับแอป Sonos และมีสายมาให้ 2 เส้น เป็นสาย USB-C to USB-C สำหรับเสียบชาร์จและสมาร์ตโฟน และ USB-C to 3.5mm สำหรับเสียบกับเครื่องเสียงหรืออุปกรณ์ที่มีช่องแจ็ค 3.5 มิลลิเมตร ที่ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อเพิ่มเติม พร้อมให้ใช้ได้เลย
สัมผัสแรกที่สวยงาม
มาดูกันที่ตัวของหูฟัง Sonos Ace ใช้ อลูมิเนียมแอโนไดซ์ สำหรับโครงหลัก ทำให้ดูโมเดิร์นและเรียบหรู ส่วนของ headband และ ear cushions ใช้หนังเทียม vegan leather ที่นุ่มมาก สัมผัสคล้ายหนังแท้ แต่มีความทนทาน
ตัวหูฟังเลื่อนปรับขนาดโดยที่จะโชว์ให้เห็นโครงสร้างอลูมิเนียม ช่วยให้เห็นความพรีเมียมของวัสดุ แต่ว่าการออกแบบตัวหูฟังไม่สามารถพับตัว ear cups เพื่อให้หูฟังมีขนาดเล็กในเวลาที่เก็บใส่เคส ทำได้แค่เพียงบิด 90 องศาให้มีความแบนราบมากขึ้น
การออกแบบ ผมค่อนข้างชื่นชอบในความเรียบง่าย เพราะตัวหูฟังแทบจะไม่มีเส้นสายอะไรเลย จะมีตัดเป็นสีเงินในส่วนลำโพงภายนอกกับปุ่ม Content เท่านั้น การเชื่อมต่อในส่วนต่างๆ ก็แทบจะไม่มีรอยต่อให้เห็น และปุ่มกดก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แน่นหนา ให้สัมผัสในเวลาที่กด
ลูกเล่นการออกแบบที่ชาญฉลาด

สิ่งที่ชอบมากคือ การระบุหูขวา-ซ้าย Sonos ที่จะมีตัวอักษร L/R อยู่ที่ด้านในของหูฟัง และสีด้านในทั้ง 2 ข้างจะต่างกัน โดยหูข้างขวาด้านในจะเป็นสีเขียวอ่อน ทำให้มองเห็นความต่างได้ใช้ และมีเพิ่มรายละเอียดที่ โลโก้บนหูขวา ที่มีความนูน ทำให้เวลาสวมในที่มืดๆ หรือรีบๆ ก็สัมผัสได้ทันทีว่าข้างไหนเป็นข้างไหน


Ear cushions แบบแม่เหล็ก เป็นอีกจุดที่ชอบมาก ถอดออกง่าย ใส่กลับเข้าไปก็แค่เอาไปแปะ แม่เหล็กจะดูดติดเอง ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย และถ้าใช้ไปนานๆ แล้วก็เปลี่ยนใหม่ได้ไม่ยุ่งยาก ต่างจากหูฟังหลายรุ่นที่ตัว ear cushions ติดแน่นมาก ถอดออกยากมาก

ปุ่มควบคุม วางตำแหน่งได้ดีมาก ปุ่มเปิด-ปิด อยู่ด้านซ้าย ปุ่ม ANC และปุ่ม Content Key สำหรับ TV Audio Swap และควบคุมการเล่นทั้งหมด อยู่ด้านขวา การออกแบบให้มีปุ่มกดน้อยมาก ทำให้กดควบคุมได้ง่ายไม่สับสนในการใช้งาน
ความสบายในการสวมใส่
ดูกันที่น้ำหนักของ Sonos Ace นั้น อยู่ที่ 312 กรัม ถ้าเทียบกับหูฟัง over-ear ระดับนี้ ถือว่าอยู่ตรงกลางระหว่าง Sony WH-1000XM6 ที่ 254 กรัมและ Apple AirPods Max ที่หนักถึง 384 กรัม

ในการสวมใส่นั้น ครั้งแรกรู้สึกว่าสบาย ด้วยสัมผัสของตัว headband ที่ด้านนอกเป็นพลาสติกแต่ด้านในเป็นวัสดุหุ้มหนัง vegan ที่นุ่มหนา มีการกระจายน้ำหนักได้ดี ใส่แล้วไม่รู้สึกว่าถูกบีบหรือกดทับในจุดไหนจุดหนึ่งเป็นพิเศษ ส่วน Ear cushions หุ้มใบหูได้ทั้งหมดโดยไม่ทับใบหู
สำหรับการใช้งาน 1-2 ชั่วโมง ไม่มีปัญหาเลย สบายมาก ไม่เมื่อยหู ไม่เจ็บศีรษะ ไม่รู้สึกร้อนเกินไป แต่ถ้าใช้งานนาน 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป ก็เริ่มรู้สึกเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณด้านบนของศีรษะที่ headband แต่ก็ยังพอทนได้ ไม่ได้รุนแรงมาก
โครงสร้างที่หมุนได้ 90 องศา และปรับเลื่อนขยายขนาดได้กว้างขึ้น ทำให้สวมใส่ได้ทั้งคนที่ศีรษะเล็กและใหญ่อย่างมั่นคง ไม่หลวมโยกไปมา
แต่มีจุดสังเกตเล็กน้อยสำหรับบางคนที่สวมใส่แว่นตา จากที่ได้ทดลองกับแว่นที่มีขาหนาหรือแว่นกรอบขนาดใหญ่ ด้วยตัว ear cushions ของ Sonos Ace ค่อนข้างแน่น เมื่อสวมแล้วจะกดทับขาแว่น ทำให้ขาแว่นกดใส่กบหู เมื่อสวมนานๆ อาจจะรู้สึกบีบทับและเจ็บได้ แต่ถ้าเป็นแว่นขาเล็กนั้นไม่มีปัญหา
ทดสอบเสียงในการดูภาพยนตร์

หากถามว่า Sonos Ace เก่งเรื่องอะไรมากที่สุด เรายกให้ในเรื่องของ การดูหนังและซีรีส์ หลังจากใช้งานมาสักพัก รวมถึงการอัปเดตใหม่ล่าสุดเมื่อ 13 มิถุนายน 2025 ยิ่งทำให้รู้สึกว่าได้ประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจมาก
อัปเดตใหม่: TrueCinema เปลี่ยนเกมส์เสียงภาพยนตร์
การอัปเดตครั้งใหญ่ล่าสุดของ Sonos Ace นำเสนอเทคโนโลยี TrueCinema ที่เป็นเหมือนการอัปเกรดใหญ่ให้กับการดูหนัง ระบบจะวิเคราะห์พื้นที่รอบตัวเรา แล้วปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เพื่อจำลองทิศทางและเสียงโดยรอบให้เหมือนจริงมากที่สุด
หลังจากที่อัปเดตไป ผลลัพธ์ที่ได้คือ เสียงมีมิติกว้างขึ้น ลึกขึ้น และสมจริงขึ้น เสียงในการดูภาพยนตร์และซีรีย์ให้ความรู้สึกที่โอบล้อมมากขึ้นแบบที่รู้สึกได้ เป็นสิ่งที่เสริมอรรถรสในการชมความบันเทิงให้สุนทรีย์มากกว่าเดิม
สำหรับ TrueCinema บน Sonos Ace จะต้องใช้งานร่วมกับซาวด์บาร์ของ Sonos ที่รองรับด้วย
Dolby Atmos และ Spatial Audio
เมื่อเราดูหนังหรือซีรีย์จาก Netflix, Disney+, Apple TV+ หรือ Prime Video ที่รองรับ Dolby Atmos เสียงจะมีความลึกและระดับที่ชัดเจน
บทสนทนาชัดมาก นี่เป็นสิ่งที่ประทับใจมากที่สุด โดยเฉพาะหนังฮอลลีวูดที่เสียงเอฟเฟกต์ดังมาก แต่เสียงพูดกลับไม่ชัด Sonos Ace จัดการเรื่องนี้ได้ดีมาก เสียงพูดของนักแสดงชัดเจนเสมอ ไม่ถูกเสียงดนตรีหรือเสียงระเบิดกลบ
Head-tracking ที่ตอนแรกเราอาจจะไม่รู้สึกว่าจำเป็น แต่พอมาใช้ในการดูหนังดูซีรีย์แล้วมีประโยชน์มาก เมื่อเราหันหัวไปซ้าย-ขวา เสียงจะหมุนตามในทิศทางตรงข้าม ทำให้รู้สึกเหมือนเสียงอยู่ตรงหน้าจอเสมอ ไม่ใช่ตามหัวเราไปทุกที่ รวมถึงในเวลาที่เล่นเกมก็ให้บรรยากาศที่ดีด้วยเช่นกัน
ย่าน Bass ควบคุมได้ดี เสียงแรงและเสียงเบสไม่ดังเกินไป เวลาดูหนัง Action ที่มีเสียงระเบิดหรือเสียงเครื่องยนต์ รู้สึกมีพลัง แต่ไม่ปวดหู ให้สมดุลที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
TV Audio Swap

ฟีเจอร์ TV Audio Swap เป็นสิ่งที่ทำให้ Sonos Ace พิเศษกว่าหูฟังรุ่นอื่นๆ และการอัปเดตล่าสุดทำให้มันดีขึ้นมาก โดยเฉพาะการรองรับสองคนพร้อมกัน
วิธีการใช้งานง่ายมาก เมื่อเราดูทีวีผ่าน Soundbar ของ Sonos ในรุ่น Arc, Arc Ultra, Beam และ Ray แค่กดปุ่ม Content Key ที่หูฟังค้างไว้ 3 วินาที เสียงจากลำโพงจะสลับมาที่หูฟังทันที พร้อมกับ Spatial Audio และ TrueCinema เต็มรูปแบบ
การใช้งานสองคนพร้อมกัน นี่คือฟีเจอร์ใหม่ที่เจ๋งมาก! ถ้าเรามีหูฟัง Sonos Ace สองตัว สามารถดูหนังเรื่องเดียวกันได้พร้อมกัน โดยไม่รบกวนคนอื่นในบ้าน (รวมไปถึงเพื่อนบ้าน) เหมาะมากสำหรับคู่รักที่อยากดูหนังดึกๆ หรือพ่อแม่ที่อยากดูหนังหลังจากลูกหลับแล้ว
จากประสบการณ์การใช้งานจริง การเปลี่ยนจากลำโพงมาหูฟังทำได้ไวมาก ไม่ถึง 3 วินาที และเสียงไม่ขาดตอน ไม่มี delay ที่รบกวน แถมคุณภาพเสียงยังได้มิติที่คมชัดดีกว่าที่ลำโพง เพราะได้ Spatial Audio อย่างครบถ้วน
แต่การใช้ฟีเจอร์ TV Audio Swap จะส่งผลต่ออายุการใช้แบตเตอรี่ที่ลดลงมาก จากปกติที่ใช้ได้นานสุด 30 ชั่วโมง จะเหลือแค่ประมาณ 10-12 ชั่วโมง เนื่องจากต้องเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และประมวลผล Spatial Audio อยู่ตลอด
ส่วนตัวผมค่อนข้างประทับใจกับ Sonos Ace ในการใช้งานร่วมกับซาวด์บาร์ของ Sonos เพื่อดูหนังดูซีรีย์ที่รองรับ Dolby Atmos มากๆ เพราะมันได้ประสบการณ์เสียงที่โอบล้อมมีมิติอย่างชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดชุดโฮมเธียเตอร์ให้ครบเซ็ต ที่นอกจากซาวด์บาร์แล้วจะต้องมี Sub อีก 1 ตัว และลำโพงเซอร์ราวด์ซ้ายขวาอีก 2 ตัว
แค่คุณมีแค่ซาวด์บาร์ของ Sonos และหูฟัง Sonos Ace ก็ได้ประสบการณ์เสียงรอบทิศทางได้แล้ว เหมาะสำหรับคนที่อาจจะยังไม่พร้อมลงทุนเครื่องเสียงครบชุด รวมถึงคนที่อยู่อาศัยในบ้านหรือคอนโดที่ไม่เอื้ออำนวยให้จัดระบบเสียงที่กระหึ่มบึ้มบั่มจัดเต็มได้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ
ทดสอบเสียงด้านการฟังเพลง

พอมาถึงเรื่องการฟังเพลง Sonos Ace ถือว่าเป็นหูฟังที่ดีด้วยจุดเด่นที่รองรับมาตรฐาน Hi-Res Audio ได้ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น aptX Adaptive, aptX Losslessรวมไปถึงสามารถเล่นเพลงคุณภาพสูงผ่าน USB-C หรือ สาย 3.5mm ได้ ถ้าเรามีไฟล์เพลง FLAC หรือใช้บริการอย่าง Apple Music Lossless หรือ Tidal Hi-Fi จะได้เสียงที่รายละเอียดมากขึ้นชัดเจน
คาแรคเตอร์เสียง
Sonos Ace ใช้ไดร์เวอร์คัสตอมขนาด 40mm ให้เสียงแน่นและมีน้ำหนัก รู้สึกมั่นคง ไม่ใช่เสียงที่บางหรือแหลมจนฟังเหนื่อย เวลาฟังเพลง Rock, Hip-hop หรือ Electronic ให้ความรู้สึกที่น่าพอใจ
เสียงเบสควบคุมได้ดี ไม่ดังเกินไป ไม่บูมจนกลบเสียงย่านกลาง แต่ก็มีพลังพอที่จะทำให้เพลงฟังสนุก โดยเฉพาะเพลงที่มี bassline ชัดๆ จะรู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจน
เสียงร้องชัดเจน ทำได้ดีเหมือนกับตอนดูหนัง เสียงร้องของนักร้องค่อนข้างชัดเจน ไม่ถูกเครื่องดนตรีกลบ ฟังเพลง Vocal หรือ Ballad ก็รู้สึกใกล้ชิดดี
แต่ก็มีจุดที่เรารู้สึกขัดใจอยู่บ่าง กับเวทีเสียงที่รู้สึกแคบไปหน่อย ทำให้เวลาฟังเพลงที่มีเครื่องดนตรีหลายชิ้นแล้วรู้สึกว่าเหมือนนักดนตรีทุกคนยืนรวมกระจุกใกล้กันในที่เล็กๆ ส่งผลให้เวลาฟังเพลงที่มีองคประกอบเสียงซับซ้อน อย่างเช่น Jazz หรือ Classic ที่มีทั้งเปียโน กลอง เบส และแซ็กโซโฟน การแยกแยะเครื่องดนตรีแต่ละอย่างทำได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

ฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการฟังเพลง
คุณสามารถปรับแต่ง Sonos Ace ได้หลายอย่างผ่านแอป Sons ที่มีทั้งในระบบ iOS และ Android ที่มีให้เลือกปรับ EQ ได้ แต่ปรับได้แค่ Bass และ Trebble ในระดับพื้นฐาน ไม่มีแบบปรับละเอียด ก็ถือว่าพอให้คุณปรับจูนโทนของเสียงได้ไม่มากนัก

มีให้ Loudness/Dynamic Normalization ช่วยให้เสียงเพลงมีระดับเสียงที่สม่ำเสมอ ไม่ต้องปรับเสียงบ่อย เหมาะกับการฟัง playlist ที่มีเพลงหลายแนว
ในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย รองรับ Multipoint Connection เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน ช่วยให้คุณสลับฟังเพลงจากมือถือ 2 เครื่อง หรือระหว่างมือถือกับแล็ปท็อปได้อย่างสะดวก ไม่ต้องกดเชื่อมต่อสลับไปมาบ่อยๆ
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) และ Aware Mode

มาดูกันเรื่อง ANC (Active Noise Cancellation) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หูฟังพรีเมียมทุกตัวต้องมี และเป็นจุดที่ Sonos Ace ทำได้ดีทีเดียว แม้จะไม่ได้เป็นอันดับ 1 ในตลาด แต่ก็น่าพอใจมากสำหรับการใช้งานประจำวัน
ANC ที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้
ประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนของ Sonos Ace โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก สามารถจัดการกับเสียงรบกวนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงแอร์ เสียงพัดลม เสียงรถไฟฟ้า หรือเสียงพึมพำของคนรอบข้าง ลดลงได้ประมาณ 80-85% ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับการใช้งานในออฟฟิศ ที่บ้าน หรือขณะเดินทาง
สามารถจัดการเสียงในย่านความถี่ต่ำได้ดีเยี่ยม เสียงเครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า หรือเสียงพื้นหลังที่แน่นๆ จะหายไปเกือบหมด ทำให้เราสามารถโฟกัสกับการฟังเพลงหรือดูหนังได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเวลาที่บ้านมีเสียงรบกวนจากข้างนอก ส่วนเสียงย่านกลางทำได้ดีพอใช้ กับเสียงคนพูด เสียงทีวี สามารถลดลงได้พอสมควร แต่ไม่หายไปหมด
อัปเดต Adaptive ANC 2.0
กับอัปเดตล่าสุดของ Sonos Ace ได้เพิ่ม Adaptive ANC 2.0 ที่เป็นการปรับปรุงสำคัญ ตัวระบบจะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงรอบหู เช่น เมื่อเราใส่แว่นตา สวมหมวก หรือมีผมที่หนาปกคลุมหู การทำงานของ ANC จะปรับให้เหมาะสม ผลลัพธ์คือเสียงรบกวนลดลงได้มากขึ้น และไม่มีเสียงแปลกๆ ที่เกิดจากการรั่วของอากาศ
แต่ว่า ANC ของ Sonos Ace ก็มีข้อจำกัดที่ขัดใจผมอยุ่บ้าง นั่นคือ ไม่สามารถปรับระดับได้ โดยในแอป Sonos มีให้เลือกเพียงแค่ เปิด, ปิด และ Aware Mode เท่านั้น ตัว ANC ไม่สามารถเลือกปรับความแรงได้แบบหูฟังของแบรนด์อื่น
เพราะในบางครั้งเราก็ไม่ได้อยากได้การตัดเสียงแบบ 100% เราอาจจะอยากได้แค่ครึ่งนึงหรือปรับให้น้อยกว่านั้น เพื่อให้ยังได้เสียงบางอย่างได้ อย่างเช่นเวลาทำงานที่ออฟฟิศ อยากลดเสียงแอร์แต่ยังอยากได้ยินเพื่อนร่วมงานเรียก หรือเวลาดูหนังที่บ้าน อยากลดเสียงรบกวนแต่ยังอยากได้ยินถ้าใครมาเคาะประตู เทียบกับคู่แข่งแล้ว บางแบรนด์มีแถบเลื่อนให้ปรับได้หลายระดับ
Aware Mode
Aware Mode (หรือที่บางแบรนด์เรียกว่า Transparency Mode) คือการเปิดให้ได้ยินเสียงภายนอกผ่านไมโครโฟนของหูฟัง เพื่อให้เรารับรู้สภาพแวดล้อมได้ขณะฟังเพลง
จากที่ผมได้ทดลองใช้ รู้สึกว่า Aware Mode ของ Sonos Ace นั้นปล่อยเสียงเข้ามามาก ในระดับที่ว่าเหมือนเราไม่ได้สวมหูฟังอยู่ นั่นก็คือถ้าฟังเพลงอยู่บางครั้งเสียงข้างนอกก็เข้ามาตีกับเพลงที่เราฟังจนเกินไป
และเหมือนกับ ANC ก็คือ Aware Mode ไม่สามารถปรับได้ มีแค่เปิดหรือปิดเท่านั้น ไม่มีให้เลือกแบบปิดเสียงรบกวนแต่เปิดให้เสียงคนพูดเข้ามา หรือเลือกระดับเสียงภายนอกที่เข้ามา ซึ่งแบรนด์อื่นสามารถทำได้

ทดสอบลองใช้งานจริง
การตัดเสียงรบกวนนั้น ระบบการทำการตรวจจับและโฟกัสได้ดี กับเสียงแอร์ เสียงจ่อกแจ่กจอแจบนท้องถนนหรือในรถไฟฟ้า เสียงถูกตัดหายไปเกือบหมด
ใช้งานในการเดินทาง การตัดเสียงจะเหลือเสียงของคนพูดหรือเสียงประกาศบนรถไฟฟ้าที่พอมีลอดเข้ามาได้บ้าง ทำให้การเดินทางมีความปลอดภัยมากขึ้น
ผมมีโอกาสได้ลองใช้ในการเดินทางบนเครื่องบิน ถือว่าน่าพอใจมาก ที่ ANC ตัดเสียงเครื่องยนต์ได้ดีมาก ทำให้สามารถหลับพักผ่อนได้สนิทมากขึ้น แต่ก็ยังพอได้ยินเสียงประกาศบนเครื่องได้อยู่
แบตเตอรี่และการใช้งาน

ตามสเปกที่ Sonos แจ้งไว้ แบตเตอรี่ชาร็จเต็มสามารถใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีมาก เทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่าดีที่สุด จากที่ทดสอบใช้ฟังเพลงผ่าน Bluetooth พร้อมเปิด ANC แบตเตอรี่จะได้ใช้งานได้ประมาณ 28-29 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เป็น TV Audio Swap จะลดลงมาเหลือประมาณ 10-12 ชั่วโมง
ที่น่าสนใจคือมีระบบชาร์จเร็วฉุกเฉินในเวลาที่แบตเตอรี่หมด เราเสียบชาร์จแค่ 3 นาที ก็จะได้เวลาใช้งานอีก 3 ชั่วโมง พอดูหนังเรื่องหนึ่งเต็มๆ หรือฟังเพลงได้ทั้งวัน และการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มจะใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมงซึ่งเร็วกว่าหูฟังแบรนด์อื่นที่ต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง
การใช้งานแบบสายและไร้สาย
USB-C แบบ analog และ digital Sonos Ace รองรับการส่งเสียงผ่าน USB-C ได้สองแบบ คือแบบ analog (เหมือนหูฟังธรรมดา) และแบบ digital (ประมวลผลเสียงในหูฟัง) ทำให้ได้เสียงที่คุณภาพสูงและไม่มี delay เลย
การใช้สาย USB-C จะให้เสียงที่ดีกว่า Bluetooth และไม่มีปัญหาเรื่อง lag ซึ่งสำคัญมากเวลาเล่นเกมหรือดูวิดีโอเหมาะกับการต่อคอมพิวเตอร์ เวลาทำงาน เล่นเกม หรือดูหนังจากคอมฯ และเมื่อต่อสาย เราจะได้เสียง Hi-Res ความละเอียดสูงสุดที่หูฟังรองรับ โดยไม่มีการบีบอัด ทำให้เสียงมีรายละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าฟังไฟล์ FLAC หรือใช้บริการอย่าง Apple Music Lossless
ส่วนการเชื่อมต่อผ่านสาย 3.5mm ที่มีแถมมาให้พร้อมในกล่อง ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก่าๆ เช่น เครื่องเล่นเพลง, เครื่องเสียงรถ หรืออุปกรณ์เสียงบางรุ่น คุณภาพเสียงที่ได้จะดีกว่า Bluetooth แต่ไม่ดีเท่ากับ USB-C


Sonos Ace เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth รองรับ aptX ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ให้เสียงที่คมชัดสำหรับการฟังเพลงทั่วไป ผมลองฟังกับ iPhone ผ่าน Apple Music ก็คือฟังเพลง Spatial Audio หรือ Dolby Atmos แบบไร้สายได้ ให้มิติเสียงที่ดี ดนตรีแยกตำแหน่งชัดและเวลาเสียงที่เคลื่อนที่ก็วิ่งรอบหัวได้แบบสมจริง แต่ถ้าใช้แบบเสียบสายจะได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
ไมโครโฟนและการโทร
ตามสเปคแล้ว จะประกอบด้วยไมโครโฟนทั้งหมด 6 ตัวสำหรับการตัดเสียงรบกวน และมีไมโครโฟนแบบ beamforming อีก 2 ตัวสำหรับเสียง
ในการทดสอบไมโครโฟนของ Sonos Ace ให้เสียงพูดที่ค่อนข้างชัดเจน ตัดเสียงรบกวนรอบข้างไปได้เยอะ คนที่โทรมาจะได้ยินเสียงเราชัด แต่โทนเสียงอาจจะแห้งและไม่ค่อยเป็นธรรมชาติมากนัก จึงเหมาะสำหรับใช้ในการสนทนามากกว่าใช้การบันทึกเสียง ถือว่าทำได้อยู่ในระดับที่ดีพอใช้

สรุป รีวิว Sonos Ace ลองแล้วชอบแค่ไหน? เหมาะกับใคร?
หลังจากใช้งาน Sonos Ace มาระยะหนึ่ง รู้สึกว่านี่เป็นหูฟังแบบครอบหู Full-size ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก เป็นหูฟังที่โฟกัสไปที่สิ่งที่ตัวเองเก่ง และทำได้ดีมาก โดยเฉพาะเรื่องการดูหนังและฟีเจอร์ TV Audio Swap ที่ไม่มีหูฟังรุ่นไหนทำได้ การอัปเดต TrueCinema ล่าสุดยิ่งทำให้ประสบการณ์การดูหนังดีขึ้นไปอีก
Sonos Ace เราแนะนำให้คุณซื้อเลยถ้าคุณเป็นเจ้าของซาวด์บาร์ของ Sonos อยู่แล้ว (หรือมีโครงการจะซื้อ) เพราะจะได้ประโยชน์สูงสุดจากฟีเจอร์ TV Audio Swap คนรักโฮมเธียเตอร์ที่ชอบดูหนัง ซีรีส์ เป็นหลัก และจะได้ประสบการณ์ Dolby Atmos ที่ยอดเยี่ยม และคนที่ต้องการหูฟังสำหรับใช้งานนานๆ เพราะแบตเตอรี่ 30 ชั่วโมงกับการชาร์จเร็วช่วยได้มาก
ในเรื่องของการฟังเพลงโดยรวมถือว่าทำได้ในระดับที่ค่อนข้างดี รองรับคุณภาพเสียงในระดับ Hi-res ได้ทั้งแบบไร้สายและมีสาย แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแนวที่ต้องการเวทีเสียงกว้างๆ ซึ่งอันนี้แล้วแต่คนที่ชอบ
เราแนะนำให้คุณไปทดสอบลองดูว่าจะเหมาะหรือไม่กับสไตล์เพลงของคุณ แต่ถ้าคุณเป็นแนว Pop, hip-hop, R&B, EDM หรือแนวเน้นเสียงร้อง น่าจะชอบกับหูฟังตัวนี้ แต่ถ้าสายคลาสิก, Jazz หรือต้องการในการปรับแต่ง EQ ที่ละเอียดก็อาจจะรู้สึกอึดอัดพอสมควร
ANC และ Aware Mode ทำได้ดีแต่มีข้อจำกัดในการปรับแต่งที่ทำได้น้อย จึงขาดความยืดหยุ่นพอสมควรในการใช้งานในบางสถานการณ์ ซึ่งถ้าแก้ไขจุดนี้จะดีมากๆ
หน้าตาการออกแบบ ถือว่าดูดีเท่หล่อพรีเมียม สวมใส่ค่อนข้างสบายด้วยน้ำหนักที่ไม่เบาหรือนักจนเกินไป แต่อาจจะติดอยู่บ้างถ้าคุณสวมแว่นที่มีขนาดใหญ่ ตัววัสดุมีโชว์ความเป็นโลหะที่ดูสวยงาม และปุ่มกดบังคับที่มีไม่มาก วางตำแหน่งกดง่ายไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะปุ่ม Content ออกมาให้ใช้งานครบครันในปุ่มเดียวอย่างง่ายดาย
โดยรวมแล้ว Sonos Ace เป็นหูฟัง Over Ear กลุ่มพรีเมียมอีกรุ่นที่น่าสนใจ หน้าตาดูดีสวมแล้วเท่คูล วางจำหน่ายในราคาอย่างเป็นทางการ 17,900 บาท ผ่านผู้จัดจำหน่าย TC Acoustic และเว็บไซต์ sonosthailand.com โดยจะได้รับการรับประกัน 2 ปี พร้อมเพิ่มอีก 3 เดือนเมื่อลงทะเบียนสินค้า ช่องทางซื้อที่แนะนำคือ Lazada, JD Central, Power Buy หรือ Central Department Store ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งต่างๆ มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาเหลือประมาณ ฿14,900-15,900 ซึ่งทำให้คุ้มค่ามากขึ้น
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok