ถ้าคุณหิว “ตลาดพลู” ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน วันนี้เราจะพกเอา Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition ไปเดินเที่ยวย่านฝั่งธนฯ ที่ยังคงความคลาสสิกของอดีต แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น แถมเรามีจุดหมายลับๆ ที่ทุกคนต้องแวะไปเช็คอินกัน
แน่นอนว่าทริปนี้ไม่ได้มีแค่การไปกินของอร่อย หรือถ่ายรูปเก๋ๆ เพียงอย่างเดียว แต่พิเศษกว่าด้วย Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition ที่จะมาช่วยเก็บบรรยากาศและทำภารกิจสนุกๆ ครั้งนี้ตลอดทั้งวัน
ก่อนที่จะเริ่มเดินทางไป เรามารู้จักคู่หูของเราวันนี้กันก่อน
Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition กับดีไซน์ที่สะท้อนตัวตน


สำหรับชาวอากาเซ่ เชื่อเลยว่าน่าจะกรี้ดกันตั้งแต่ตัวกล่อง เพราะมาในดีไซน์ที่สวยเริ่ด กับโทนสีทองที่ดูแฟชัน และมีลายเซ็นของ แบมแบม อยู่กลางกล่อง โดยที่เป็นแจ็คเก็ตหุ้มตัวกล่องของสมาร์ทโฟนอีกที เอาไว้ให้คุณเก็บสะสมเข้าคอลเลคชันได้อย่างสวยงาม


ตัวเครื่องนั้นมาในสีใหม่อย่าง สีทองที่มีความหรูหรา และให้ผิวสัมผัสเวลาจับถือที่เรียบเนียน มีลูกเล่นความโค้งมนที่สวยงาม และที่สำคัญที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่น ก็คือ ที่ฝาหลังของเครื่อง มี “ลายเซ็น แบมแบม” สลักเอาไว้อย่างชัดเจนอยู่ด้วย
ลายเซ็นนี้ไม่ได้เป็นแค่ลวดลายประดับตกแต่ง แต่เป็นเครื่องยืนยันในความเป็นอากาเซ่ตัวจริง เพราะว่า Redmi Note 14 Pro 5G รุ่นนี้มีวางจำหน่ายในไทยเพียงแค่ 1,000 เครื่องเท่านั้น นี่จึงเป็นความพิเศษที่ไม่ว่าคุณจะหยิบขึ้นมาใช้งาน หรือแค่วางไว้บนโต๊ะะ ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร
และนอกจากนี้ สำหรับคนที่ชอบเครื่องโทนสีทอง ยังมี Redmi Note 14 สีใหม่ Sand Gold ออกมาพร้อมกันอีกรุ่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยโทนสีทองอ่อนที่ดูอบอุ่นและหรูหรา เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความสวยงามแบบเรียบหรู
ออกเดินทางไปตลาดพลู

เอาล่ะ เราเตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปหาประสบการณ์พิเศษครั้งนี้กันแล้ว สำหรับ ตลาดพลู ถือว่าเป็นสถานที่ในกรุงเทพฯ ที่เดินทางไม่ไกล ที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด แนะนำเป็นรถไฟฟ้า BTS หรือจะเดินทางด้วยรถเมล์ประจำทางก็ให้บรรยากาศชิล ก็สามารถมาได้หลายสาย

หากต้องการความสะดวกสุด เรียกรถแท็กซี่ หรือ Grab มาลงได้ เลือกจุดเป็นสถานีรถไฟตลาดพลู หรือใครขับรถยนต์ส่วนตัวมาก็ได้ โดยจะมีที่จอดรถอยู่แถวๆ ใต้สะพานตลาดพลู
อันที่จริงแล้ว ย่านนี้มีร้านอาหารเปิดขายกันตั้งแต่เช้าไปจนถึงค่ำ มาตอนไหนก็มีร้านให้เลือกทานกัน แต่ถ้าให้แนะนำจะเป็นช่วงบ่ายถึงเย็น คือ 14:00-18:00 น. การมาช่วงเวลานี้ยังมีข้อดีอีกอย่างคือ แสงธรรมชาติยังสวยงาม เหมาะกับการทดสอบกล้อง 200MP ของ Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition ในสภาพแสงที่หลากหลาย
เริ่มต้นจุดแรก จิบกาแฟถ่ายรูปคาเฟ่ชิลๆ ที่ Masonia Tree & Coffee Cafe

จุดแรกของทริปนี้ เราขอเสนอร้านกาแฟขนาดกำลังน่ารัก ภายในตกแต่งแบบย้อนยุคให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากความวุ่นวายของเมืองกรุง



กาแฟที่ร้านนี้มีหลายเมนู และมีความ specialty ที่ให้คอกาแฟได้เลือกเมล็ดหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงยังมีขนมเบเกอรี่อร่อยๆ ให้เลือกด้วย

ร้านสวยๆ แบบนี้ กาแฟหอมขนมอร่อย ก็เหมาะสำหรับการถ่ายรูปอาหารเป็นอย่างมาก ด้วยกล้อง 200MP ของ Redmi Note 14 Pro 5G ทำให้เราประทับใจในการถ่ายภาพที่แม้ว่าจะอยู่ในอาคารก็ยังเก็บแสงได้สวยเป็นธรรมชาติ และยังได้รายละเอียดของภาพที่คมชัดดีมาก


แต่ที่ทำให้ภาพถ่ายระดับมืออาชีพไม่ใช่แค่ความละเอียดสูงเพียงอย่างเดียว ฟีเจอร์ AI Image Enhancement ที่แค่เล็งแล้วกดชัตเตอร์ AI ก็จะช่วยแต่งภาพอาหารให้ดูสวยงามน่ากินโดยอัตโนมัติ รวมถึงฟีเจอร์ AI Bokeh ช่วยสร้างเอฟเฟ็กต์เบลอพื้นหลังที่นุ่มนวล ทำให้อาหารและเครื่องดื่มโดดเด่นขึ้นมาเป็นตัวเอกของภาพ ขณะที่บรรยากาศของคาเฟ่ยังคงเป็นพื้นหลังที่สวยงาม ไม่แย่งความเด่นจากอาหาร

เชื่อว่าหลายครั้งที่เราถ่ายภาพมาแล้ว อยากจะครอปภาพเพื่อเปลี่ยนขนาดหรือจัดวางองค์ประกอบภาพ แต่ว่าภาพที่ถ่ายมาขอบภาพไม่พอ เราแก้ปัญหาได้ด้วย AI Image Expansion ที่เลื่อนขยายพื้นที่ครอปออกมารอบข้างแล้ว AI จะทำการสร้างภาพยืดออกมา ให้เราเอาไปหมุนปรับได้ เป็นฟีเจอร์ที่สะดวกและมีประโยชน์มากๆ

ขนมเค้กร้านนี้ที่เราลองสั่งมากิน ว่าแต่เป็นเค้กอะไรนะ? ก็ต้องลองใช้ฟีเจอร์ Circle to Search แค่วงรูปภาพบนหน้าจอก็จะทำการค้นหาข้อมูลบน Google ทันที อยากรู้อะไรก็ค้นข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 😉
แวะ Lynx Coffee อีกร้านกาแฟ ตลาดพลู ที่ไม่อยากให้พลาด

เดินจาก Masonia Tree & Coffee Cafe มาทางตลาดพลู ขอแวะร้านกาแฟอีกร้านที่บรรยากาศต่างกัน ที่เป็นร้านโทนสีขาวเรียบๆ ดูโมเดิร์นสบายตา เรียกว่าคนละบรรยากาศจากร้านแรก แต่ว่าร้านนี้มีกาแฟหลายเมนูให้เลือก เครื่องดื่มให้ความสดชื่น มีให้เลือกหลากหลาย รวมถึงขนม เค้ก และเบเกอรี่ก็มีหลายเมนูด้วยเช่นกัน
เจอร้านแสงสวยแบบนี้ ก็ต้องลองถ่ายภาพบุคคลด้วย Portrait Mode ที่ทำได้ถูกใจสาวๆ แน่นอน ตัวกล้องสามารถแยกแยะระหว่างตัวคนกับพื้นหลังได้อย่างแม่นยำ แม้ในสภาพแสงที่ไม่สมบูรณ์แบบ ภาพที่ได้มีความคมชัดที่ใบหน้า ขณะที่พื้นหลังเบลออย่างนุ่มนวล อย่างหลอดดูดน้ำที่สมาร์ตโฟนบางรุ่นแยกไม่ได้จับเบลอหาย แต่กับรุ่นนี้แยกมิติของวัตถุกับฉากหลังได้อย่างแม่นยำ


ฟีเจอร์ AI Beauty ทำงานอย่างชาญฉลาด ปรับปรุงรายละเอียดใบหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การแต่งหน้าดิจิทัลที่ดูเทียม แต่เป็นการเสริมความงามที่มีอยู่แล้วให้โดดเด่นขึ้นมา
ที่น่าทึ่งที่สุดคือฟีเจอร์ AI Ultra-Clear Portrait ที่ช่วยให้ภาพบุคคลคมชัดเป็นธรรมชาติ แม้เมื่อถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยหรือมือสั่น ภาพยังคงออกมาคมชัดและสวยงาม
ขนมเบื้องญวน สุอาภา รสชาติต้นตำรับ


เติมคาเฟอีนจนเต็มอิ่มกันแล้ว ได้เวลาหาของอร่อยกินกันต่อ กับ “ขนมเบื้องญวน” สำหรับร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ขายที่ตลาดพลูมาหลายสิบปี อยู่ใต้สะพานตลาดพลู การถ่ายรูปกับร้านนี้ ให้ได้อารมณ์ของสตรีทฟู้ด กล้อง 200MP ที่สามารถซูมแล้วยังคงความคมชัดได้ ทำให้เราสามารถยืนห่างจากคุณป้าที่กำลังทอดขนมเบื้องญวนร้อนๆ แบบไม่ต้องกลัวว่าน้ำมันจะกระเด็นใส่ แล้วได้มิติที่สวยมากขึ้น ยิ่งใช้โหมด AI Bokeh ปรับเบลอฉากหลังให้อาหารมีความชัดมากขึ้นก็ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นมากขึ้น ได้ภาพที่ดูน่ากินและเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ
ตามหาภาพวาด BamBam ที่เกิดจากความรักของอากาเซ่

หลายคนอาจจะแปลกใจอยู่บ้างว่า ย่านชุมชนเก่าอย่างตลาดพลู จะมีภาพวาดของแบมแบมอยู่ด้วยเหรอ? เราออกไปเดินตามหาจุดนี้กัน โดยจะอยู่ใกล้ๆ กับจุดกลับรถใต้สะพานตลาดพลูฝั่งที่มาจากเดอะมอลล์ท่าพระ เลยร้าน “ฉอเล้ง หมี่กระเฉด” มานิดนึง (ร้านนี้อาหารอร่อยเช่นกัน อย่าพลาด)
เราได้ยินที่มาของภาพวาดแบมแบมตรงจุดนี้มาว่า เป็นการวาดบนประตูหน้าบ้านของตึก ซึ่งเจ้าของตึกนี้ก็เป็นแฟนคลับของแบมแบม โดยที่จะมีการวาดภาพใหม่เปลี่ยนทุกๆ ปี เพื่อเป็นการช่วยโปรโมตและแสดงความรักต่อศิลปินที่ชื่นชอบ และต้องบอกว่าแบมแบมก็เคยมาเยือนที่นี่ด้วยแล้วเหมือนกัน จุดนี้จึงเป็นเหมือนการแสดงถึงความผูกกันระหว่างศิลปินกับแฟนคลับอย่างแท้จริง

พอมาถึงจริงๆ เห็นครั้งแรกก็ตกใจไม่น้อย เพราะในใจเราคิดว่าจะเป็นภาพวาดเล็กๆ แต่เป็นภาพขนาดเท่าประตูชัตเตอร์ของตึกขนาด 3 คูหา ดูใหญ่อลังการที่จะถ่ายเฉพาะภาพอย่างเดียวหรือจะถ่ายเซลฟี่คู่กับภาพก็ได้ ทำให้เชื่อเลยว่าพลังความรักของแฟนคลับแบมแบมนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ


จุดนี้ถ้าต้องการถ่ายรูป มีข้อจำกัดอยู่บ้างคือ ตัวตึกอยู่ติดกับถนนและฟุตบาธค่อนข้างแคบและอาจจะมีวัตถุอะไรบังอยู่บ้าง แต่ด้วยกล้องของ Redmi Note 14 Pro 5G ก็มี AI หลายตัวมาช่วยแก้ไขให้ได้

อย่างเช่น AI Erase Pro ช่วยแก้ปัญหาสิ่งรบกวนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในสภาพแวดล้อมจริง เช่น ป้ายต่างๆ สายไฟ หรือแม้แต่คนที่เดินผ่านไปมาขณะถ่ายภาพ ฟีเจอร์นี้ลบสิ่งรบกวนเหล่านี้ออกไปได้อย่างไร้รอยต่อ ให้จุดเด่นในภาพสวยงามสมบูรณ์ไม่มีอะไรมาเกะกะหรือถึงความสนใจ
สำหรับแฟนคลับของแบมแบม เชื่อว่าน่าจะฟินกับจุดนี้ ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันได้เต็มอิ่ม แต่ก็อย่ารบกวนคนที่เดินผ่าน เจ้าของบ้าน และอย่างที่บอกไปว่าจุดนี้ติดกับถนน เวลาถ่ายให้ระวังรถด้วย ถ้าจะถ่ายมุมกว้างแล้วต้องข้ามถนนมาก็ดูรถให้ดีก่อนด้วย
สถานีรถไฟตลาดพลู โลเกชั่นยุคเก่า

แลนด์มาร์กสำคัญของย่านนี้ ก็คือสถานีรถไฟตลาดพลู (ที่ไม่ใช่สถานีรถไฟฟ้า BTS นะ) เป็นสถานีระหว่างเส้นทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ที่จะมีรถไฟวิ่งผ่านชั่วโมงละ 2 ขบวน

ในวันที่เราไปทริปนี้ บรรยากาศดูจะไม่ค่อยเป็นใจเพราะเหมือนวิปริตแปรปรวนท้องฟ้าเหมือนฝนจะตก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะ Redmi Note 14 Pro 5G มีฟีเจอร์ AI Sky เปลี่ยนท้องฟ้าที่ไร้สีสัน เมฆตุ่นๆ ให้กลายท้องฟ้าที่สดใสในแบบที่เราต้องการ ให้เลือกได้หลายแบบ และฟีเจอร์นี้ยังแยกแยะขอบเขตระหว่างท้องฟ้ากับอาคาร เสาไฟฟ้า หรือแม้แต่ใบไม้ได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ดูเนียนเป็นธรรมชาติ

โลเกชันนี้เหมาะทั้งการถ่ายวิวกว้างๆ แบบสตรีท หรือจะถ่าย Portrait ให้ฉากหลังเป็นสถานีรถไฟ หรือตอนที่รถไฟกำลังวิ่งเทียบชานชาลาก็ให้อารมณ์ในการเล่าเรื่องเราที่น่าสนใจ

ถ้าอยากถ่ายพอร์ตเทรตให้สวยไม่เหมือนใคร กับฟีเจอร์ AI Bokeh นอกจากทำฉากหลังเบลอแล้ว ยังเลือกรูปแบบดวงโบเก้ได้หลายแบบที่ทั้งสวยและแปลกตา เปลี่ยนอารมณ์ในฉากหลังให้มีความนุ่มละมุนพร้อมช่วยขับให้นางแบบดูโดดเด่นมากขึ้น
ปิดท้าย ติดของอร่อยก่อนกลับ ขนมเบื้อง สรินทร์ทิพย์

ของอร่อยขึ้นชื่ออีกอย่างของตลาดพลู ก็คือ ขนมเบื้อง สรินทร์ทิพย์ เป็นร้านเก่าแก่ในย่านนี้ที่มีเอกลักษณ์คือ ขนมเบื้องชิ้นโต แป้งกรุบกรอบ และยังมีขนมเบื้องใส่ไข่ให้ความหอมมันไม่เหมือนใคร พร้อมใส่ที่อัดแน่นเต็มชิ้น มีให้เลือกทั้งรสเค็มและรสหวาน ถ้าไม่รู้จะเลือกรสไหนเราแนะนำให้สั่งทั้ง 2 รสเลย
การถ่ายภาพอาหารในระหว่างการปรุงก็เป็นมุมมองเล่าเรื่องที่น่าสนใจชวนติดตาม กล้อง 200MP ของ Redmi Note 14 Pro 5G ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างครบถ้วนชัดเจน เพราะเราไม่จำเป็นต้องเอามือถือเข้าไปส่องใกล้ๆ ซึ่งจะเป็นการรบกวนร้านค้าที่กำลังทำอาหาร แต่กดซูมเข้าไปก็ยังได้ความคมชัด



Street Photography ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

ย่านตลาดพลู สำหรับผมแล้วเป็นที่ๆ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสตรีทที่น่าสนใจ เพราะเป็นย่านที่คนไม่ได้พลุกพล่านมาก มีร้านค้าและวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่เล่าเรื่องราวได้ตั้งแต่อดีต และมีโลเกชันถ่ายรูปที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ย่านตลาด ร้านค้า ยังมีสถานีรถไฟ งานอาร์ตเพนต์กำแพง ร้านกาแฟคาเฟ่มู้ดดีๆ และยังมีมุมดีๆ อย่างริมคลองที่จะมองเห็นพระประธานหลวงพ่อวัดปากน้ำองค์ขนาดยักษ์ (แต่ว่าตอนนี้กำลังบูรณะอยู่) ถือว่ามาที่นี่วันเดียว ก็เก็บบรรยากาศที่น่าประทับใจได้เยอะมาก

และยิ่งได้พกเอา Redmi Note 14 Pro 5G เป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีสำหรับ Street Photography เพราะกล้อง เปิดใช้งานได้รวดเร็ว ถ่ายภาพได้คมชัด และยังมี AI ช่วยทั้งการถ่ายและปรับแต่งภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยที่สุด และโหมด AI Ultra-Clear Portrait ก็เก็บภาพผู้คนได้อย่างมีชีวิตชีวา รวมถึงจะพาแฟนพาเพื่อนไป ก็มีมุมถ่ายเก๋ๆ ให้เลือกเต็มไปหมด
รวมถึงกล้องยังมีการเลือกเลนส์ได้หลายระยะ ทั้งมุมกว้าง มุมปกติ หรือซูม ก็เก็บภาพได้คมชัด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ และยังเปิดมุมมองของภาพให้อิสระมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
และหัวใจสำคัญในการพกสมาร์ตโฟนมาออกทริปก็คือ ใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเตอรี่ และ Redmi Note 14 Pro 5G ก็ไว้ใจได้หายห่วง ด้วยแบตเตอรี่ 5110mAh ที่ชาร์จมาเต็ม เดินถ่ายภาพถ่ายคลิปตั้งแต่บ่ายถึงเย็น ปรากฎว่าแบตเตอรี่ลดไปแค่ 40% เท่านั้น
ปิดท้ายวันด้วย AI Video รวมคลิปทำ Short Video แบบง่ายสุด

หลังจากที่เดินเก็บภาพและวิดีโอมาตลอดทั้งวัน แล้วอยากจะทำคลิปแชร์อวดเพื่อนๆ ก็ไม่ต้องรอไปนั่งทำที่บ้านหรือเข้าโปรแกรมตัดต่อให้เสียเวลา
Redmi Note 14 Pro 5G มีฟีเจอร์ดีๆ อย่าง AI Video เพียงแค่เลือกคลิปหรือภาพถ่ายที่ต้องการ แล้วเขียนสั่งด้วย Prompt ที่เราต้องการสื่อถึงวิดีโอที่จะให้สร้าง ระบบจะทำการวิเคราะห์วางตำแหน่งของภาพและคลิปในสัดส่วนที่เลือกเอาไว้ได้ทั้งแนวตั้งหรือแนวนอน และยังเลือกธีมให้เหมาะกับคลิปที่ตัดมา
รอไม่นานก็จะได้คลิปสั้นความยาว 10-15 วินาทีพร้อมเพลงประกอบเสร็จสรรพแบบไม่ต้องทำอะไร คุณก็พร้อมเอาคลิปไปแชร์บนโซเชียลได้แล้ว
สรุปความประทับใจ กับ Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition

การมาเที่ยวตลาดพลู พร้อมกับ Redmi Note 14 Pro 5G วันนี้ ได้ความรู้สึกที่สนุกและเติมเต็มในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องความเพลิดเพลินกับย่านชุมชนเก่าที่มีเอกลักษณ์ ของอร่อยที่มีให้เลือกหลากหลายจนคิดว่ามาวันเดียวคงไม่พอต้องมาซ้ำอีกหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นร้านขนมไทย, ข้าวหมูแดง, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ, บะหมี่ตงเล้ง รวมถึงของขึ้นชื่ออย่างขนมกุยช่าย และอื่นๆ อีกมากมาย

ที่สำคัญกับตัวสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ ที่ประสิทธิภาพเรื่องกล้องและการถ่ายภาพทำได้น่าประทับใจ ช่วยเก็บโมเมนต์ต่างๆ ได้อย่างที่ต้องการ พรอ้มทั้งมี AI หลากหลายแบบสำหรับช่วยทั้งการปรับแต่งโหมดกล้องให้เหมาะสม หรือช่วยในการตกแต่งภาพให้สมบูรณ์ลงตัวยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าฉลาดตั้งแต่เริ่มถ่ายไปจนถึงก่อนโพสต์ ที่สำคัญฟีเจอร์ทุกตัวออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย กดแค่ไม่กี่ครั้งก็ทำงานปรับแต่งให้เสร็จสรรพทันที

และความพิเศษสุดในทริปนี้ คือการนำเอา Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition สมาร์ตโฟนรุ่นผลิตจำนวนจำกัดแค่ 1,000 เครื่องในไทย และมีลายเซนต์ของแบมแบมสลักอยู่ด้านหลังเครื่อง มาถ่ายภาพแบมแบมที่ตึกย่านตลาดพลู เป็นเหมือนการเชื่อมโยงความรักของ “อากาเซ่” ที่มีต่อ “แบมแบม” อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นแฟน BamBam หรือ GOT7 เราไม่อยากให้คุณพลาด Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition รุ่นนี้เลยจริงๆ เพราะนอกจากความพิเศษที่มีออกมาจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย นี่ยังเป็นสมาร์ตโฟนที่ดีไซน์สวย น้ำหนักเบาถือจับถนัดมือ ประสิทธิภาพที่ดีไใช้งานลื่นไหล และที่สำคัญกล้อง 200MP ที่เก็บภาพได้คมชัด ทำงานร่วมกับ AI อัจฉริยะได้อย่างเต็มรูปแบบ
มาเที่ยวตลาดพลู พร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่ดีใน Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition ก็ช่วยให้วันหยุดธรรมดาเป็นช่วงเวลาพิเศษ เก็บความทรงจำ บรรยากาศ ไปสร้างเป็นคอนเทนต์ดีๆ ได้อย่างที่จินตนาการ จากนี้ในทุกทริปที่คุณไปจะได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างน่าประทับใจอย่างไม่เหมือนเดิม
Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 10,990 บาท (จากราคาปกติ 11,990 บาท) ที่ Xiaomi Store เท่านั้น
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ในระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 รับฟรีหูฟัง Redmi Buds 6, กระเป๋า XFF Sport Bag, ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และประกันหน้าจอแตก (เปลี่ยน 1 ครั้ง ภายใน 6 เดือน) มูลค่ารวม 12,780 บาท

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok