นินเทนโด เริ่มใช้มาตรการเข้มงวดกับผู้เล่นที่พยายามแฮค Nintendo Switch 2 โดยระบบตรวจจับใหม่สามารถจับผู้ใช้ที่นำอุปกรณ์แฮค (ตลับแฟลช) จากรุ่นเก่ามาใช้ได้ทันที โดยจะทำการแบนไม่ให้ออนไลน์และไม่สามารถแก้ไขได้
หลังจาก Nintendo Switch 2 เปิดตัวไปไม่กี่สัปดาห์ กลุ่มแฮคเกอร์ต่างตั้งคำถามว่าเครื่องใหม่จะมีช่องโหว่เหมือนรุ่นแรกหรือไม่ เนื่องจาก Nintendo Switch รุ่นแรกมีการเจาะระบบและดัดแปลงให้เล่นเกมก้อปปี้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้
ผู้ใช้หลายคนในโซเชียลมีเดียเริ่มแชร์ภาพและเล่าประสบการณ์การพยายามดัดแปลง Nintendo Switch 2 แต่กลายเป็นว่าพวกเขาโดนแบนและจำกัดการใช้งานออนไลน์ ทำให้ไม่สามารถเข้า eShop หรือเล่นเกมออนไลน์อย่าง Mario Kart ได้
ผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งเขียนไว้ในกระทู้เกี่ยวกับการถูกแบนว่า ต้องเป็นเพราะระบบตรวจจับใหม่ที่ Nintendo มีแน่ และเขารู้สึกโง่มากที่ไปออนไลน์ด้วย และระบุว่าเขาใช้ ตลับแฟลช รุ่นเก่าที่เคยใช้กับ Nintendo Switch รุ่นแรก
เพราะความอยากรู้อยากเห็นและอยากลองของ จึงได้เสียบเข้า Nintendo Switch 2 เพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้ใช้คนหนึ่งอ้างว่า ตลับแฟลชของเขาไม่สามารถโหลดผ่านหน้าจอไตเติ้ลได้หลังจากพยายามดาวน์โหลดอัปเดต ล่าสุดเขาได้อัปเดตว่าเครื่องของเขาดูเหมือนจะถูกแบนทั้งเครื่อง และเขาได้ลองติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Nintendo แต่ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถทำอะไรได้

ข่าวเรื่องมาตรการแบนใหม่ของ Nintendo รอบนี้ถือว่ารวดเร็วและรัดกุมตั้งแต่วันแรกที่วางขายเครื่องรุ่นใหม่ แต่กลุ่มแฮคเกอร์จำนวนไม่น้อยก็ยังพยายามที่จะเจาะระบบ มีผู้สร้างตลับแฟลชรายหนึ่งประกาศว่า กำลังปรับปรุงให้ผลิตภัณฑ์ของเขาสามารถใช้กับ Nintendo Switch 2 ให้ได้
พร้อมกันนี้ยังมีการโต้เถียงกันในชุมชน Reddit ว่า ถ้าเอาบัญชีที่เคยถูกแบนใน Switch รุ่นแรกมาล้อกอินบน Nintendo Switch 2 จะโดนแบนซ้ำในเครื่องใหม่นี้ด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทาง Nintendo ยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวหรือออกความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้
ข้อมูลจาก : Polygon
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
