มาแล้ว! ข่าวดีสำหรับแฟนหนังแอ็กชันสายลับที่รอคอยมานาน Disney+ Hotstar ประกาศเปิดให้สตรีมภาพยนตร์ Mission: Impossible ครบทั้ง 6 ภาค เริ่มตั้งแต่วันนี้ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษลดราคา 50% นาน 3 เดือนเต็ม
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเก่าที่อยากย้อนไปดูฉากแอ็กชันสุดคลาสสิก หรือคนที่พึ่งจะเริ่มรู้จักโลกของ Ethan Hunt แฟรนไชส์ระดับโลกที่มีอายุเกือบ 30 ปีนี้พร้อมให้คุณดำดิ่งสู่ภารกิจสายลับสุดระห่ำแบบมาราธอนแล้ว
ครบครันทุกภาค ตั้งแต่ปี 1996 จนถึง 2018
Disney+ Hotstar นำเสนอภาพยนตร์ Mission: Impossible ครบทั้ง 6 ภาค พร้อมให้เลือกดูทั้งแบบพากย์ไทยและซับไทย เริ่มตั้งแต่ภาคแรกในปี 1996 ที่แนะนำตัวละคร Ethan Hunt รับบทโดย Tom Cruise ไปจนถึงภาคล่าสุด Fallout ในปี 2018
แต่ละภาคมีเสน่ห์และความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ฉากแขวนตัวลงมาขโมยข้อมูลใน CIA ที่กลายเป็นไอคอนิคไปแล้ว ไปจนถึงฉากแอ็กชันสุดมันส์บนตึกสูงและการไล่ล่าด้วยรถจักรยานยนต์ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง
ภาคแรก: จุดเริ่มต้นของตำนาน (1996)
Mission: Impossible ภาคแรกเป็นจุดเริ่มต้นที่วางรากฐานให้กับทั้งแฟรนไชส์ เมื่อ Ethan Hunt ต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลังจากภารกิจผิดพลาด และอาจารย์ Jim Phelps ถูกสังหาร เขาจึงต้องรวมทีมกับ Luther Stickell และ Franz Krieger เพื่อบุกเข้า CIA และขโมยไฟล์ลับที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา
ฉากที่โด่งดังที่สุดคือการแขวนตัวลงมาขโมยข้อมูลจากห้องที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ซึ่งกลายเป็นฉากคลาสสิคที่ถูกเลียนแบบและอ้างอิงกันมาจนถึงทุกวันนี้
วิวัฒนาการของแอ็กชันในแต่ละภาค
ภาค 2 ในปี 2000 นำเสนอการต่อสู้กับไวรัสร้ายและอดีตเจ้าหน้าที่ IMF ผู้หันหลังให้กับองค์กร ขณะที่ภาค 3 ในปี 2006 แนะนำคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจที่สุด Owen Davian รับบทโดย Philip Seymour Hoffman ที่คุกคามทุกสิ่งที่ Hunt รัก
Ghost Protocol ภาค 4 ในปี 2011 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ IMF ถูกตัดขาดและทีมต้องปฏิบัติการนอกระบบ ฉากที่โดดเด่นที่สุดคือการปีนตึก Burj Khalifa ในดูไบ ที่ Tom Cruise แสดงด้วยตัวเองโดยไม่ใช้สตันท์แมน
ภาคล่าสุดที่ยกระดับแอ็กชันไปอีกขั้น
Rogue Nation ภาค 5 ในปี 2015 นำเสนอภัยคุกคามใหม่จาก “The Syndicate” พร้อมกับตัวละครใหม่ Ilsa Faust รับบทโดย Rebecca Ferguson ที่อาจเป็นทั้งพันธมิตรหรือศัตรู ขณะที่ภาคล่าสุด Fallout ในปี 2018 ถือเป็นจุดสุดยอดของแฟรนไชส์
ใน Fallout เราได้เห็นฉากการไล่ล่าด้วยรถจักรยานยนต์ที่ระทึกขวัญ การต่อสู้บนเฮลิคอปเตอร์ และฉากแอ็กชันที่ Tom Cruise ยังคงแสดงด้วยตัวเองแม้จะอายุเกือบ 60 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความเป็นมืออาชีพของเขา

โปรโมชันสุดคุ้ม ลดราคา 50% นาน 3 เดือน
นอกจากจะได้ดูหนังแอ็กชันสุดมันส์แล้ว Disney+ Hotstar ยังมีโปรโมชันพิเศษในเดือนมิถุนายนนี้ ลดราคา 50% สำหรับแพ็กเกจรายเดือน รับสิทธิ์ได้ต่อเนื่อง 3 เดือนเต็ม
แพ็กเกจ Basic ราคาปกติ 199 บาท ลดเหลือเพียง 99.50 บาทต่อเดือน ขณะที่แพ็กเกจ Premium ราคาปกติ 289 บาท ลดเหลือเพียง 144.50 บาทต่อเดือน โปรโมชันนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 2-26 มิถุนายน 2568 เวลา 23:59 น.
วิธีสมัครง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน
การสมัคร Disney+ Hotstar ทำได้ง่ายมาก เพียงเข้าไปที่ www.disneyplushotstar.com กดปุ่ม “สมัครเลย” จากนั้นเลือกเข้าสู่ระบบด้วยเบอร์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายไหนก็สมัครได้หมด
หลังจากสมัครเสร็จแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงคลังคอนเทนต์ระดับโลกจาก Disney, Pixar, Marvel, Star Wars, National Geographic และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ใช่แค่ Mission: Impossible เท่านั้น
สิ่งที่ทำให้ Mission: Impossible พิเศษ
สิ่งที่ทำให้แฟรนไชส์ Mission: Impossible โดดเด่นกว่าหนังแอ็กชันเรื่องอื่นๆ คือความทุ่มเทของ Tom Cruise ที่ยังคงแสดงฉากแอ็กชันด้วยตัวเองแม้จะอายุมากขึ้น การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนแต่เข้าใจง่าย และทีมงานที่มีเคมีกันดี
แต่ละภาคจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและเทคนิคการถ่ายทำใหม่ๆ ทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างและตื่นเต้นกว่าเดิมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กล้อง IMAX หรือการถ่ายทำในสถานที่จริงที่อันตราย
เตรียมตัวสำหรับภาคต่อไป
การที่ Disney+ Hotstar นำ Mission: Impossible ทั้ง 6 ภาคมาให้สตรีมในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีสำหรับแฟนเก่าที่อยากทบทวน และแฟนใหม่ที่อยากเข้าใจเรื่องราวตั้งแต่ต้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภาคต่อไปที่กำลังจะมา
ด้วยคุณภาพของภาพและเสียงที่คมชัด รวมถึงความสะดวกในการดูที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ การดู Mission: Impossible บน Disney+ Hotstar จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรักหนังแอ็กชัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาความบันเทิงในราคาที่คุ้มค่า โปรโมชันลดราคา 50% นาน 3 เดือนนี้ถือเป็นโอกาสทองที่ไม่ควรพลาด รีบสมัครก่อนที่โปรโมชันจะหมดเขตในวันที่ 26 มิถุนายนนี้
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
