LG Electronics เปิดตัวจอมอนิเตอร์ LG UltraFine 40WT95UF ขนาด 40 นิ้ว ที่เป็นจอมอนิเตอร์รุ่นแรกของโลกที่รองรับเทคโนโลยี Thunderbolt 5 ในความละเอียด 5K2K (5,120 x 2,160 พิกเซล) ด้วยอัตราส่วนหน้าจอแบบ 21:9 เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจที่ต้องจัดการข้อมูลจำนวนมาก
ทางแอลจีระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้ออกแบบมาเป็นโซลูชันระดับพรีเมียมสำหรับอุตสาหกรรมการเงินและไอที โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องจัดการงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและต้องการความแม่นยำสูง เช่น นักวิเคราะห์ทางการเงิน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านระบบบูรณาการ
จอขนาด 40 นิ้วพร้อมอัตราส่วน 21:9 ช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดของจอแสดงผลแบบมาตรฐานเมื่อต้องจัดการข้อมูลจำนวนมากหรือใช้งานแอปพลิเคชันหลายตัวพร้อมกัน ด้วยพื้นที่หน้าจอที่กว้างขวางและความละเอียดสูง ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น
LG UltraFine 40WT95UF มาพร้อมกับฟีเจอร์ Picture-in-Picture และ Picture-by-Picture ที่ให้ประโยชน์ในการทำงานหลายหน้าต่างเหมือนการใช้จอคู่ แต่ไม่เสียพื้นที่โต๊ะทำงานมาก นักวิเคราะห์ทางการเงินสามารถดูชุดข้อมูลขนาดใหญ่ แดชบอร์ดแอปพลิเคชัน และกราฟตลาดได้พร้อมกัน ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีสามารถใช้พื้นที่หน้าจอกว้างในการตรวจสอบโค้ดยาวๆ จัดการไทม์ไลน์การออกแบบที่ซับซ้อน และวิเคราะห์เนื้อหาอย่างละเอียด
พาเนลหน้าจอใช้เทคโนโลยี IPS Black ของ LG ที่ให้คุณภาพความคมชัด ความแม่นยำของสี และการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล ด้วยความเร็ว Refresh Rate 120Hz และรองรับ AMD FreeSync Premium ทำให้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ทางการเงินแบบเรียลไทม์ รวมถึงงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเขียนโปรแกรม การออกแบบกราฟิก และการผลิตคอนเทนต์

ในฐานะจอมอนิเตอร์ Thunderbolt 5 รุ่นแรกของโลกในระดับความละเอียด 5K2K จอนี้สามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 80Gbps เชื่อมต่ออุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และชาร์จแล็ปท็อปได้ผ่านสายเคเบิลเส้นเดียว โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แยก
ด้านการเชื่อมต่อ จอมอนิเตอร์นี้มาพร้อมกับพอร์ตที่หลากหลาย ประกอบด้วย USB-C, USB-A, HDMI, DisplayPort 2.1 และ RJ45 ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานเหมือนมี USB Hub ในตัว นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ daisy-chaining ที่ช่วยลดความยุ่งเหยิงของสายเคเบิล ทำให้พื้นที่ทำงานสะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น
ข้อมูลจาก : LG Newsroom
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
