คุณเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกโดดเดี่ยวและอยากหนีไปที่ไหนสักแห่งไหม? Disney and Pixar’s Elio เอลิโอ คือเรื่องราวที่จะพาเราไปสัมผัสกับการผจญภัยสุดพิเศษของเด็กชายตัวเล็กๆ ที่มีความฝันแปลกประหลาด
ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องใหม่จากสตูดิโอผู้สร้าง Inside Out 2 นำเสนอเรื่องราวของ เอลิโอ เด็กชายขี้เหงาที่มีคำขอสุดแปลก เขาอยากให้ต่างดาวลักพาตัวไป! และเมื่อคำขอนั้นกลายเป็นจริง การผจญภัยที่เหนือจินตนาการจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการค้นพบมิตรภาพใหม่ที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

งานภาพอลังการสะกดสายตา
หากใครเคยแปลกใจกับความงดงามของจักรวาลผ่านกล้องโทรทรรศน์ Elio เอลิโอ จะทำให้คุณตกตะลึงไปอีกขั้น ฉากอวกาศและ Communiverse ในเรื่องนี้สร้างสรรค์ขึ้นอย่างอลังการจนสะกดสายตา
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือแรงบันดาลใจในการออกแบบ Communiverse มาจากภาพถ่ายมาโครผ่านกล้องจุลทรรศน์ของวัสดุต่างๆ ทำให้เราได้เห็นจักรวาลในมุมมองที่แตกต่างจากสิ่งที่เคยคาดหวัง เป็นการสร้างภาพจำให้กับจักรวาลในแบบที่สดใหม่และไม่เหมือนใคร
ทีมผู้สร้างใช้เทคนิคการสร้างภาพที่ล้ำสมัย ผสมผสานกับจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด จนได้ผลลัพธ์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปยังจักรวาลจริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเสน่ห์ของแอนิเมชัน Pixar ที่คุ้นเคยและอบอุ่น

เล่าเรื่องอวกาศ มิตรภาพ และครอบครัว ได้น่าประทับใจ
การเล่าเรื่องใน Elio เอลิโอ ไม่ใช่แค่การนำเสนอการผจญภัยในอวกาศธรรมดาๆ แต่เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความตื่นเต้นของการเดินทางสู่ดวงดาวอื่น กับความอบอุ่นของมิตรภาพที่แท้จริง
สิ่งที่โดดเด่นคือการที่ภาพยนตร์สามารถถ่ายทอดเรื่องราวซับซ้อนให้เข้าใจง่าย โดยแฝงแง่มุมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวเข้าไปด้วยอย่างลงตัว การเดินทางของ เอลิโอ ไม่ใช่แค่การไปพบเพื่อนใหม่ แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะเข้าใจตัวเองและค้นหาที่ที่เขาเป็นของอยู่
การันตีคุณภาพด้วยคะแนนใน Rotten Tomatoes ที่นักวิจารณ์ให้ถึง 84% พร้อมได้มะเขือเทศสดมาครอง ส่วนผู้ชมทั่วไปก็ให้คะแนน Popcornmeter สูงถึง 91% ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2568 แสดงให้เห็นว่าทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมต่างชื่นชอบเรื่องราวนี้
งานภาพอลังการสะกดสายตา
จุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของ Elio เอลิโอ คือฉากอวกาศและ Communiverse ที่ออกแบบมาอย่างสวยงามสะกดสายตา ที่มาของความสวยงามนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบบังเอิญ
แรงบันดาลใจในการออกแบบ Communiverse มาจากภาพถ่ายมาโครผ่านกล้องจุลทรรศน์ของวัสดุต่างๆ ทำให้ได้ภาพจักรวาลที่แตกต่างจากสิ่งที่ผู้ชมเคยคาดหวัง เป็นการสร้างสรรค์ที่แหวกแนวและสดใหม่อย่างแท้จริง
ทีมผู้สร้างคาดว่านี่จะเป็นการสร้างภาพจำให้กับจักรวาลในมุมมองที่สดใหม่ และผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ทุกฉากในอวกาศล้วนสวยงามจนทำให้ผู้ชมตกหลุมรักไปกับความงดงามของจักรวาลแห่งนี้

พาสำรวจมุมโดดเดี่ยวที่ใคร ๆ ก็สัมผัสได้
หัวใจสำคัญของ Elio เอลิโอ อยู่ที่การถ่ายทอดความรู้สึกโดดเดี่ยวและความเหงาของเด็กที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก การเล่าเรื่องในส่วนนี้ลึกซึ้งและเข้าถึงอารมณ์จนหลายคนน้ำตาคลอในหลายฉาก
สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้พิเศษคือการที่ผู้ชมสามารถเอาตัวเองเข้าไปแทนได้ เพราะความรู้สึกโดดเดี่ยวและการค้นหาที่ของเราในโลกนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนเคยผ่านมา นี่คือเสน่ห์ของแอนิเมชันจาก Pixar ที่ยังคงสัมผัสได้ในเรื่องนี้
“น้องกลอร์ดอน” น่ารักจนตกหลุมรัก
นอกจากหนุ่มน้อยขี้เหงา เอลิโอ แล้ว อีกหนึ่งตัวละครที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักคือ กลอร์ดอน เพื่อนคนแรกของ เอลิโอ ที่มาในรูปลักษณ์ของหนอนน้อยเด้งดึ๋ง
กลอร์ดอน มีนิสัยน่ารัก เข้ากับคนง่าย และมีจิตใจที่เปี่ยมเมตตา ทำให้กลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่คนดูรัก แต่ภายใต้รูปลักษณ์สุดคิ้วท์นั้น แท้จริงเขาคือทายาทของ Grigon ขุนศึกแห่งดาว Hylurg ที่จะต้องขึ้นดำรงตำแหน่งเคียงข้างผู้เป็นพ่อ
ถ้าอยากรู้ว่าสุดท้าย กลอร์ดอน จะกลายเป็นขุนศึกผู้ห้าวหาญได้หรือไม่ ต้องไปติดตามในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!

“ช่องทางอวกาศ มิตรภาพ และครอบครัว”
เรื่องราวของ กลอร์ดอน ยิ่งทำให้เห็นความซับซ้อนของตัวละครแต่ละตัว โดยแต่ละตัวมีเบื้องหลังและความลึกของตัวเองที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจและรักได้
นอกจากนั้น เอลิโอ ยังเป็นเรื่องที่มีข้อความแฝงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว การยอมรับตัวเองที่แท้จริง และการหาที่ของเราในโลกใบนี้ ซึ่งเป็นธีมที่ Pixar ถนัดและทำได้ดีเสมอมา
พาสำรวจมุมโดดเดี่ยวที่สัมผัสได้
การเล่าเรื่องของ Elio เอลิโอ ถ่ายทอดความเหงาและความรู้สึกโดดเดี่ยวของเด็กที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักได้อย่างลึกซึ้ง เข้าถึงอารมณ์จนหลายคนน้ำตาคลอในหลายฉาก เพราะอินไปกับเรื่องราวที่ “เราก็เคยเจอ”
นี่คือเสน่ห์ของแอนิเมชันจาก Pixar ที่ยังคงสัมผัสได้ในเรื่องนี้ การสร้างตัวละครที่ผู้ชมสามารถเอาตัวเองเข้าไปแทนได้ และการเล่าเรื่องที่แตะถึงประสบการณ์ชีวิตจริงของทุกคน
ทีมงานที่แข็งแกร่งนำโดย Madeline Sharafian (ผู้กำกับ “Burrow” จากซีรีส์ Sparkshort), Domee Shi (ผู้กำกับ “Bao” และ “Turning Red”) และ Adrian Molina (ผู้เขียนบทและผู้ร่วมกำกับ “Coco”) ร่วมสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้
สำหรับเวอร์ชั่นพากย์ไทย นอกจากทีมพากย์มืออาชีพแล้ว ยังได้ โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล มาร่วมพากย์เสียงเป็นตัวละครรับเชิญด้วย ทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
