Apple เปิดตัว watchOS 26 ในงาน WWDC 2025 นำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ ที่มุ่งเน้นด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย และการโต้ตอบที่ชาญฉลาด เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Apple Watch ให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้รอยต่อ
การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการทำให้ Apple Watch เป็นมากกว่าแค่อุปกรณ์บอกเวลา แต่เป็นเพื่อนคู่ใจที่คอยดูแลสุขภาพและอำนวยความสะดวกในทุกกิจกรรมของคุณ
นวัตกรรมการออกกำลังกาย เพื่อนคู่ใจอัจฉริยะเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
watchOS 26 นำเสนอการปรับปรุงที่สำคัญเพื่อยกระดับประสบการณ์การออกกำลังกายให้เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือ Workout Buddy เป็นคุณสมบัติใหม่ที่ให้แรงจูงใจส่วนบุคคลที่สามารถฟังได้ โดยใช้เสียงที่สร้างขึ้นแบบไดนามิกจากข้อมูลเสียงของผู้ฝึกสอน Apple Fitness+ เพื่อให้พลังงาน สไตล์ และโทนเสียงที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายของคุณ
คุณสมบัตินี้ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ตามข้อมูลการออกกำลังกาย ประวัติการออกกำลังกาย ความเร็ว Activity Rings และ Training Load พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อถึงเป้าหมายสำคัญ ที่สำคัญคือ ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกประมวลผลอย่างเป็นส่วนตัวด้วย Apple Intelligence บน iPhone ของคุณ
แอป Workout เองก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยการจัดวางที่เน้นปุ่มสี่มุม เพื่อการเข้าถึงคุณสมบัติอย่างรวดเร็ว เช่น Pacer, Race Route, Custom Workout และ Workout Buddy ผู้ใช้ยังสามารถเลือกเพลย์ลิสต์หรือพอดแคสต์ที่ฟังเป็นประจำระหว่างออกกำลังกายได้ภายในแอปโดยตรง
ลองจินตนาการถึงการมีโค้ชส่วนตัวที่คอยให้กำลังใจและปรับแผนการออกกำลังกายให้เข้ากับคุณแบบเรียลไทม์ นี่คือสิ่งที่ Workout Buddy มอบให้คุณได้อย่างแท้จริง
การโต้ตอบที่ใช้งานง่าย ข้อมูลที่มองเห็นได้รวดเร็วและการควบคุมแบบแฮนด์ฟรี
watchOS 26 มุ่งเน้นไปที่การโต้ตอบที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เพื่อให้คุณสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย แม้ในขณะที่มือไม่ว่าง
มีการเพิ่มท่าทาง Wrist Flick ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของมือแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปิดการแจ้งเตือน ปิดเสียงสายเรียกเข้า และปิดเสียงจับเวลาได้ง่ายๆ เพียงแค่หมุนข้อมือออกไป เป็นท่าคำสั่งที่ใช้งานง่าย ในเวลาที่คุณไม่สะดวกที่จะใช้นิ้วแตะที่หน้าจอ อย่างเช่นกำลังทำกิจกรรมหรือถือของอยู่ในมือ
Smart Stack ก็ได้รับการปรับปรุงด้วยอัลกอริทึมการคาดการณ์ที่ได้รับการปรับปรุง โดยผสานรวมข้อมูลบนอุปกรณ์และแนวโน้มจากกิจวัตรประจำวัน เพื่อให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ทันที เช่น การแนะนำการออกกำลังกายเมื่อคุณเข้ายิม หรือคำแนะนำ Backtrack เมื่อคุณอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ Smart Stack ยังได้รับรูปลักษณ์ใหม่ด้วยการออกแบบ Liquid Glass ที่สวยงามอีกด้วย
นอกจากนี้ watchOS 26 ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติ การปรับระดับเสียงแจ้งเตือนอัตโนมัติ ซึ่งจะปรับระดับเสียงของสายเรียกเข้า การแจ้งเตือน และ Siri ตามเสียงรบกวนรอบข้าง ตัวอย่างเช่น เสียงจะเงียบลงเมื่อคุณอยู่ในที่ประชุมหรือห้องสมุด ทำให้คุณไม่พลาดการแจ้งเตือนสำคัญโดยไม่รบกวนผู้อื่น
การสื่อสารและประโยชน์ใช้สอย เชื่อมต่อทุกที่ทุกเวลาบนข้อมือ
watchOS 26 ยังขยายขีดความสามารถในการสื่อสารและประโยชน์ใช้สอยบนข้อมือของคุณ ทำให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
Live Translation ซึ่งขับเคลื่อนโดย Apple Intelligence ได้ถูกนำมาใช้ในแอป Messages บน Apple Watch คุณสมบัตินี้ช่วยให้การสนทนาถูกแปลเป็นภาษาที่คุณต้องการได้โดยอัตโนมัติบนข้อมือของคุณ ทำให้การสื่อสารข้ามภาษาเป็นไปอย่างง่ายดาย
แอป Notes ซึ่งก่อนหน้านี้มีเฉพาะบน iPhone ตอนนี้พร้อมใช้งานบน Apple Watch แล้ว ผู้ใช้สามารถสร้างบันทึกใหม่หรือดูบันทึกที่มีอยู่ได้โดยตรงบนข้อมือ พร้อมการผสานรวมกับ Siri เพื่อให้คุณสามารถบอก Siri ให้เริ่มบันทึกใหม่ได้ในขณะที่คุณกำลังเดินทาง
คุณสมบัติ Call Screening และ Hold Assist จาก iOS ก็ถูกขยายมายัง Apple Watch ด้วย Call Screening จะช่วยคัดกรองหมายเลขที่ไม่รู้จักโดยอัตโนมัติ โดยจะแจ้งให้คุณทราบชื่อและเหตุผลของผู้โทร ก่อนที่คุณจะตัดสินใจรับสาย ส่วน Hold Assist จะแจ้งเตือนคุณให้กลับไปรับสายเมื่อมีตัวแทนสดพร้อมให้บริการ ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาฟังเพลงรอสาย
ในแอป Messages ยังมี Smart Actions ที่จะแนะนำการดำเนินการตามบริบทของข้อความ เช่น หากเพื่อนขอตำแหน่งของคุณ แอป Find My อาจปรากฏขึ้นเพื่อให้คุณแชร์ตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว และ Smart Replies ก็ฉลาดขึ้นด้วยโมเดลภาษาบนอุปกรณ์ที่ให้การตอบกลับที่แม่นยำและเกี่ยวข้องกับบทสนทนา นอกจากนี้ คุณสมบัติ Live Listen Transcription ยังช่วยให้คุณสามารถอ่านคำบรรยายสดบน iPhone โดยใช้เสียงที่ตรวจสอบโดย Apple Watch ได้อีกด้วย
การออกแบบ Liquid Glass รูปลักษณ์ใหม่เพื่อประสบการณ์ที่สอดคล้อง
watchOS 26 มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ด้วย “Liquid Glass” ซึ่งนำรูปลักษณ์ที่สดใหม่แต่คุ้นเคยมาสู่ Apple Watch การออกแบบนี้ขยายไปถึง Smart Stack, ศูนย์ควบคุม (พร้อมไอคอนโปร่งแสง), การควบคุมแอปที่อัปเดต และหน้าปัดนาฬิกา สิ่งนี้สร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกันมากขึ้นทั่วทั้งแอปและอุปกรณ์ Apple ของคุณ ทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับความเข้ากันได้ watchOS 26 สามารถใช้งานได้กับ iPhone 11 หรือรุ่นที่ใหม่กว่า (หรือ iPhone SE รุ่นที่สองหรือใหม่กว่า) ที่ใช้ iOS 26 และรองรับ Apple Watch รุ่นต่างๆ ได้แก่ Apple Watch SE (รุ่นที่ 2), Apple Watch Series 6 ถึง Series 10, Apple Watch Ultra และ Apple Watch Ultra 2 อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติ Apple Intelligence ขั้นสูงบางอย่างบน Apple Watch จะทำงานบน Apple Watch Series 9, Series 10 และ Ultra 2 เท่านั้น
นักพัฒนาสามารถเข้าถึง watchOS 26 ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2025 ผ่าน Apple Developer Program ส่วน Public Betas สำหรับผู้ใช้ทั่วไปจะพร้อมใช้งานในเดือนกรกฎาคม และ Apple มีแผนที่จะเปิดตัว watchOS 26 อย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมักจะเป็นช่วงหลังงานเปิดตัว iPhone ประจำปีในเดือนกันยายน ผู้ใช้งาน Apple Watch ในประเทศไทยจึงสามารถเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเดตครั้งใหญ่ที่จะทำให้ข้อมือของคุณฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
