AIS ก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยี 5G อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนวัtกรรม 3 Component Carrier หรือ 3CC เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมผลการทดสอบที่พิสูจน์ศักยภาพระดับโลก
TechOffside ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพจริงบนตึกสูง 56 ชั้นใจกลางเมืองย่านสาทร ผลปรากฏว่าความเร็วดาวน์โหลดทะลุเกือบ 1 Gbps ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเครือข่าย AIS 5G พร้อมแล้วสำหรับยุคดิจิทัลที่ต้องการความเร็วสูงสุด
รู้จักกับเทคโนโลยี 3CC คืออะไร?

3 Component Carrier (3CC) เป็นเทคโนโลยี Carrier Aggregation ขั้นสูงที่ เอไอเอส นำคลื่นความถี่ 5G สามย่านหลักมาผสานรวมกันแบบ seamless ประกอบด้วย 2,600 MHz (Mid-band), 700 MHz (Low-band) และ 2,100 MHz (Mid-band)
การรวมคลื่นสามย่านนี้สร้างประโยชน์เชิงเทคนิคที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ การเพิ่ม aggregate bandwidth ที่ใช้งานได้จริง การปรับปรุง spectral efficiency และการลด latency ในสภาวะ high traffic density ที่มีการใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมาก
ผลที่ได้คือความเร็วที่เพิ่มขึ้นกว่า 16% และที่สำคัญคือรองรับคนใช้งานได้มากขึ้นถึง 23% หมายความว่าแม้ในพื้นที่ที่คนเยอะ เช่น ห้างสรรพสินค้า คอนเสิร์ต ย่านธุรกิจ หรือสถานีรถไฟฟ้า ก็ยังได้ความเร็วเต็มๆ ไม่ต้องมาแย่งกันใช้เหมือนเดิม
สิ่งที่น่าสนใจคือ AIS เป็นเจ้าแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทำได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีของเราไม่ได้ตามใครแล้ว แต่กำลังนำหน้าไปเลย
สำหรับเทคโนโลยีในไทย ทาง AIS ได้เรียก 5G 3CC ในชื่อ “5G+” แสดงถึงการยกระดับประสิทธิภาพที่สูงกว่า 5G ธรรมดา โดยในการใช้งานบนสมาร์ตโฟนที่อัปเดตรองรับล่าสุด ให้สังเกตที่สัญลักษณ์เสาสัญญาณ 5G ด้านมุมบนของแถบเมนู จะเห็นเครื่องหมาย “+”
ผลการทดสอบ Performance ในสภาพแวดล้อมจริง

TechOffside เราได้มาเข้ารวมทดสอบบนพื้นที่จริง ที่ตึกสูง 56 ชั้น ใจกลางย่านสาทรในเวลาทำงาน ถือว่าเป็นการทดสอบที่ท้าทายมาก เพราะว่าในตึกสูงแบบนี้มักจะมีปัญหาเรื่องของสัญญาณ แต่ผลที่ได้ออกมาก็น่าทึ่งมากๆ
เพราะในการทดสอบนั้น เราความเร็วดาวน์โหลดได้เกือบ 1 Gbps ส่วนขาอัปโหลดได้มากกว่า 100Mbps หมายความว่าสามารถดาวน์โหลดหนัง HD ได้ในเวลาไม่กี่วินาที ส่งไฟล์งานขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ซ หรือเล่นเกมออนไลน์ได้แบบไหลลื่นไม่ต้องกลัวอาการ lag ใดๆ
ชูความแข็งแกร่งของ Network Infrastructure

ปัจจุบันเครือข่าย AIS 5G ไม่เพียงแต่นำเสนอนวัตกรรมใหม่ แต่ยังรักษามาตรฐานความเป็นเลิศในด้าน network coverage และ service quality ด้วยการครอบคลุม 5G Population Coverage ถึง 95% ทั่วประเทศ
ล่าสุด AIS ประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยได้รับการรับรองจากหน่วยงานวัดผล network performance ระดับโลกอย่าง OOKLA ด้วยการคว้ารางวัลถึง 6 รางวัล จากรายงาน Thailand Mobile Network Experience Report ประจำเดือนพฤษภาคม 2025
รางวัลเหล่านี้ครอบคลุมหลากหลายเมตริก ทั้ง download speed, upload speed, latency, availability และ consistency ซึ่งเป็นการยืนยันว่า AIS 5G มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในทุกมิติของการให้บริการ

AIS 5G+ เริ่มใช้งานได้ที่ไหนบ้าง?
AIS เริ่มเปิดให้บริการ 5G+ แล้วที่ ย่านสาทร ก่อนเป็นจุดแรก ซึ่งเป็นย่านธุรกิจหัวใจของกรุงเทพฯ ที่มีคนทำงานและใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด โดยมีแผนการขยายจะเน้นไปที่พื้นที่ที่มีคนใช้งาน 5G สูงก่อน ซึ่งในอนาคตจะขยายไปทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสเทคโนโลยีระดับโลกกันมากขึ้น
สำหรับการใช้งาน 5G 3CC ในปัจจุบันมี smartphone รุ่นใหม่ที่รองรับเทคโนโลยีนี้แล้วมากมายหลายแบรนด์ชั้นนำ การรองรับนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ ecosystem และการยอมรับในมาตรฐานสากล
ในตอนนี้สำหรับสมาร์ตโฟนที่มีการอัปเดตรองรับใช้งาน AIS 5G 3CC ได้แล้วมากกว่า 20 รุ่น
- Samsung Galaxy S24/S25 ทุกรุ่น และ Galaxy Z Flip6/Fold6
- OPPO Find N5, Find X8, Reno 13 Series
- vivo V40 5G, V50
- realme GT 7T
- HONOR 400 Pro, Magic 7 Pro
- IQOO 13, Neo 10, Z10 5G

หมายเหตุ : ณ วันที่เราได้ทดสอบสมาร์ตโฟนของ Samsung รุ่นที่รองรับสามารถใช้งานได้แล้ว แต่การแสดงผล 5G+ ที่ไอคอนยังต้องรอการอัปเดตเร็วๆ นี้
ไม่ใช่แค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้น แต่คือความพร้อมใช้งานเต็มประสิทธิภาพในพื้นที่ๆ ท้าทาย
AIS 5G+ ไม่ใช่แค่การพัฒนาตัวเลขความเร็วที่ดูดีเท่านั้น แต่เป็นการนำเอาทุกช่วงคลื่นความถี่ที่ AIS ถือครอง มาพัฒนาด้านเทคนิคให้ลูกค้าสามารถใช้งานมือถือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ไหนก็ได้ ดูหนังคุณภาพสูงแบบไม่สะดุด เล่นเกมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอินเทอร์เน็ตช้า
เป็นการตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องใช้งานหนักๆ เช่น นักธุรกิจที่ต้องเดินทางตลอดเวลา, content creator ที่ต้องพร้อมรับส่งข้อมูลหรือทำ Live ถ่ายทอดสด หรือจะเป็น นักเรียนนักศึกษาที่ต้องเรียนออนไลน์ เทคโนโลยีนี้จะมาช่วยปลดล็อคให้คุณไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป
ด้วยการที่ AIS นำเสนอเทคโนโลยีนี้เป็นครั้งแรกในภูมิภาค ก็เป็นการยืนยันว่าเครือข่ายในประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับอนาคตที่เทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
AIS 5G+ ไม่ใช่แค่การอัปเกรดเครือข่าย แต่เป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตจะไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไป
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok