A10 Networks ผู้นำด้านโซลูชันความปลอดภัยไซเบอร์ ประกาศเปิดตัวไฟร์วอลล์ AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อปกป้องระบบปัญญาประดิษฐ์และโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) จากภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ พร้อมจัดแสดงในงาน Interop Tokyo ระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2025
ไฟร์วอลล์ AI รุ่นใหม่นี้สามารถทำงานร่วมกับ API หรือ URL ที่เปิดให้เข้าถึงโมเดล LLM ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น LLM ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับองค์กรหรือโมเดลเชิงพาณิชย์ เช่น OpenAI หรือ Anthropic โดยสร้างบนสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมสำหรับการทำงานบน Edge พร้อมฮาร์ดแวร์ที่รองรับ GPU
เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้องค์กรสามารถป้องกัน ตรวจจับ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามระดับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการโจมตีแบบ prompt injection และการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ ผ่านการตรวจสอบข้อมูลคำร้องขอและการตอบสนองในระดับ prompt
A10 ยังเสริมความสามารถด้านประสิทธิภาพด้วยระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าที่ช่วยตรวจจับปัญหาด้านประสิทธิภาพของเครือข่าย สามารถระบุภาวะคอขวดหรือข้อจำกัดของความจุที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้น ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินการเชิงรุกก่อนที่ปัญหาจะส่งผลกระทบต่อระบบโดยรวม
ฟีเจอร์การคาดการณ์ประสิทธิภาพนี้ทำงานบนอุปกรณ์ A10 ที่ขับเคลื่อนด้วย GPU ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้รวดเร็วและตรวจจับความผิดปกติได้ก่อนเวลา รวมถึงการลดภาระของงานที่ใช้การประมวลผลสูง เช่น การถอดรหัส TLS/SSL การแคช และการเพิ่มประสิทธิภาพของการส่งผ่านข้อมูล
มิสเตอร์ ดรูพัด ทริเวดี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ A10 Networks กล่าวว่า “องค์กรต่างๆ กำลังเร่งติดตั้งและฝึกโมเดล AI และ LLM ไม่ว่าจะเป็นระบบภายในหรือบนคลาวด์อย่างรวดเร็ว ความสามารถใหม่ๆ จำเป็นต้องพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายหลัก 3 ประการ ได้แก่ ลดความหน่วงเวลา ความปลอดภัย และความซับซ้อนของการดำเนินงาน ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการรักษาความปลอดภัยและส่งมอบแอปพลิเคชัน เรากำลังขยายศักยภาพของเราเพื่อรองรับความต้องการเหล่านี้”
การจัดแสดงในงาน Interop Tokyo 2025 ภายใต้หัวข้อ “AI Steps into Reality” จะเป็นโอกาสสำคัญในการสาธิตความสามารถของเทคโนโลยีใหม่นี้ต่อผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และผู้ประกอบการทั่วโลก
A10 Networks ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 มีสำนักงานใหญ่ในเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบภายในองค์กร คลาวด์แบบไฮบริด และเอดจ์คลาวด์แก่ลูกค้ากว่า 7,000 รายทั่วโลก
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok