รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker นวัตกรรมเสียงไร้รอยต่อสำหรับชีวิตยุคใหม่

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker คู่หูที่ให้ประสบการณ์เชื่อมต่อเสียงเพลงแบบไร้รอยต่อได้ตลอดทั้งวัน ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ด้วยคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ

Sony LinkBuds Series ออกแบบมาเพื่อตอบสนองคนยุคนี้ ที่มีแนวคิดหลักคือการสร้างประสบการณ์การฟังแบบไร้รอยต่อตลอดทั้งวัน คุณสามารถออกไปนอกบ้านพร้อมใส่หูฟัง และเมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณก็ยังสามารถ stay tune กับคอนเทนต์เดิมผ่านลำโพงได้ทันทีโดยไม่ต้องกดอะไรเลย

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

วันนี้เราจะมาพูดถึงสองผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในตระกูล LinkBuds นั่นคือ LinkBuds Fit หูฟังไร้สายสำหรับคนรักการออกกำลังกายที่ใส่สบายได้ทั้งวัน และ LinkBuds Speaker ลำโพงพกพาที่สามารถทำงานร่วมกับหูฟังได้อย่างลงตัว ด้วยฟีเจอร์ Auto Switch ที่เป็นดั่งหัวใจของระบบนิเวศ LinkBuds

แล้วสองอุปกรณ์นี้จะทำให้ชีวิตประจำวันของคุณลื่นไหลแค่ไหน? มีข้อดีข้อด้อยอย่างไร? และคุ้มค่ากับราคาหรือไม่? มาดูกัน!

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

รีวิว Sony LinkBuds Fit หูฟังแบบ in-ear สวมใส่สบาย

เมื่อพูดถึงหูฟังสำหรับผู้รักการออกกำลังกาย ความสบายและความมั่นคงคือปัจจัยสำคัญ LinkBuds Fit ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ระบบเสียงคุณภาพสูง และฟีเจอร์อัจฉริยะต่างๆ ที่ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งตัวยง หรือแค่คนที่ต้องการหูฟังที่ใส่สบายได้ทั้งวัน หูฟังรุ่นนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าที่คิด มาดูกัน!

แพ็กเกจของ LinkBuds Fit มาตามคอนเซ็ปต์รักษ์โลกของ Sony ที่ใช้วัสดุเป็นกระดาษรีไซเคิลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและนำไปย่อยสลายได้ง่าย ภายในกล่องนอกจากตัวหูฟังที่มาอยู่ในตลับชาร์จแล้ว จะมีตัวสายชาร์จแบบสั้นหัวชาร์จ USB-A to USB-C และซิลิโคนหูฟังที่มีให้เลือกเปลี่ยนได้อีก 3 ขนาด เพื่อให้เหมาะกับหูของเรามากที่สุด

การออกแบบและความสบาย

LinkBuds Fit ถือเป็นการปฏิวัติการออกแบบหูฟังในซีรีส์ LinkBuds ของ Sony อย่างแท้จริง จุดเด่นอยู่ที่ Air Fitting Supporters หรือส่วนเสริมด้านข้างที่ออกแบบมาพิเศษคล้ายปีกขนาดเล็ก ที่ช่วยล็อคหูฟังให้อยู่ในตำแหน่งโดยไม่ทิ้งรอยกดทับหรือความอึดอัด ต่างจากหูฟังทั่วไปที่มักสร้างแรงกดภายในหู

ทุกครั้งที่ผมสวม LinkBuds Fit รู้สึกได้ถึงความแตกต่างทันที วัสดุซิลิโคนที่นุ่มและโปร่งเบา ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างเบาสบายตลอดทั้งวัน แม้คุณจะเคลื่อนไหวแบบเข้มข้นแค่ไหน หูฟังก็ไม่หลุดเลื่อน ลองนึกภาพคุณกำลังวิ่ง 10 กิโลเมตร หรือเล่นเวท—หูฟังคู่นี้ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมแม้มีเหงื่อชุ่มก็ตาม ด้วยมาตรฐาน IPX4 ที่ช่วยปกป้องจากเหงื่อและละอองน้ำ

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

นอกจากนี้ LinkBuds Fit ยังมีน้ำหนักเพียง 4.9 กรัมต่อข้าง ทำให้บางครั้งแทบลืมว่ากำลังสวมหูฟังอยู่ เคสชาร์จมีดีไซน์เรียบหรูด้วยลายหินอ่อนที่ดูพรีเมียม ขนาดกะทัดรัดพอดีกับกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเล็กๆ ได้สบาย

แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า จุ่มน้ำโดยตรงไม่ได้นะครับ ระดับ IPX4 นั้นป้องกันเฉพาะละอองน้ำเท่านั้น ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการว่ายน้ำ

คุณสมบัติเด่นที่ครบครัน

Sony LinkBuds Fit มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะที่จะทำให้การใช้งานประจำวันของคุณสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด:

  • ระบบตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) – ใช้ชิป Integrated Processor V2 ตัวเดียวกับใน WF-1000XM5 รุ่นเรือธงของ Sony ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้โดยไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฟังในพื้นที่พลุกพล่านอย่างยิม หรือบนรถไฟฟ้า
  • Speak-to-Chat – ฟีเจอร์อัจฉริยะที่จะหยุดเพลงโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มพูดคุยกับใครสักคน และจะกลับมาเล่นเพลงต่อเมื่อการสนทนาจบลง ไม่ต้องถอดหูฟังหรือกดปุ่มใดๆ เพิ่มเติม สะดวกมากเวลาสั่งกาแฟหรือทักทายเพื่อนที่เจอระหว่างวิ่ง
  • Head Gesture – ควบคุมการรับสายและวางสายด้วยการพยักหน้าหรือส่ายหน้า เป็นฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา และใช้งานได้จริง แม้มือของคุณจะเปียกหรือไม่สะดวก
  • Instant Pause & Play – เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่ฉลาด จะหยุดเพลงทันทีเมื่อคุณถอดหูฟัง และเล่นต่อเมื่อสวมกลับเข้าไป
  • Adaptive Sound Control – หูฟังจะปรับการตั้งค่าเสียงตามสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของคุณโดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อคุณอยู่ในสถานที่พลุกพล่าน หูฟังจะเพิ่มระดับการตัดเสียงรบกวน หรือเมื่อคุณกำลังเดินบนถนน จะเปิดโหมด Ambient Sound ให้ได้ยินเสียงรถยนต์เพื่อความปลอดภัย
  • Multipoint Connection – เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกัน เช่น โทรศัพท์และแล็ปท็อป สลับการใช้งานได้อย่างราบรื่น
รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

แบตเตอรี่และการชาร์จ

นอกจากความสบายและฟีเจอร์ที่เต็มเปี่ยมแล้ว LinkBuds Fit ยังมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยาวนานน่าประทับใจ ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้เวลาการใช้งานถึง 5.5 ชั่วโมง ในตัวหูฟัง และเมื่อรวมกับการชาร์จจากเคสจะได้เวลาใช้งานรวมทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าคุณจะเดินทางไกลหรือมีประชุมต่อเนื่อง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด ที่น่าประทับใจไปกว่านั้นคือฟีเจอร์ ชาร์จเร็ว ที่ใช้เวลาเพียง 5 นาที ให้เวลาการใช้งานถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับคนที่มักลืมชาร์จหูฟังแล้วต้องรีบออกจากบ้าน เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน 

ต้องยอมรับว่าแม้ LinkBuds Fit อาจจะไม่ใช่แชมป์ด้านแบตเตอรี่ แต่ประสิทธิภาพโดยรวมก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน และความสามารถในการชาร์จเร็วก็ชดเชยข้อด้อยนี้ได้อย่างลงตัว

คุณภาพเสียงที่สมดุล

ด้านคุณภาพเสียง LinkBuds Fit ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการนำเทคโนโลยีจาก WF-1000XM5 รุ่นเรือธงมาปรับใช้ ทำให้ได้เสียงเบสที่หนักแน่นแต่ไม่บดบังรายละเอียดของเสียงกลางและเสียงแหลม มอบไดนามิกเรนจ์ที่กว้างซึ่งรองรับทุกแนวเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเพลงร็อค เพลงคลาสสิก หรือแนวอิเล็กทรอนิกส์ จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือคุณภาพเสียงโทรศัพท์ที่ชัดเจนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยลดเสียงรบกวนภายนอก ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของคุณชัดเจนเหมือนคุยกันในห้องเงียบๆ 

สำหรับคนที่ชอบปรับแต่งเสียงตามความชอบส่วนตัว Sony Sound Connect app มีฟีเจอร์ Equalizer ให้ปรับแต่งเสียงได้ 5 ย่านความถี่ เพื่อให้คุณได้เสียงตามแบบที่ต้องการ เรียกได้ว่า LinkBuds Fit เป็นหูฟังที่มอบประสบการณ์การฟังที่มีคุณภาพสูงและยืดหยุ่นในทุกสถานการณ์

การปรับแต่งตามสไตล์ส่วนตัว

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ LinkBuds Fit โดดเด่นในตลาดคือความสามารถในการปรับแต่งตามสไตล์ส่วนตัว โดยมีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ สีเขียว สีขาว สีดำ และสีม่วง ทำให้คุณสามารถเลือกได้ตามความชอบหรือให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อเคสซิลิโคนครอบเคสชาร์จและเคสซิลิโคนครอบหูฟังเพิ่มเติมได้ในราคา 990 บาท และ 490 บาท ตามลำดับ ที่น่าสนใจคือสีเคสของ LinkBuds Fit มีให้เลือกถึง 5 สี ทำให้คุณสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ตามใจชอบ สร้างลุคที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความสามารถในการปรับแต่งนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเป็นตัวเองสูง ไม่เหมือนใคร และต้องการบ่งบอกตัวตนผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

รีวิว Sony LinkBuds Speaker: ลำโพงอัจฉริยะเชื่อมต่อการฟังแบบไร้รอยต่อ

ในขณะที่หูฟังเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการฟังเพลงขณะเดินทาง แต่เมื่อกลับถึงบ้านหรืออยู่ในห้องทำงาน เราต้องการลำโพงที่ให้เสียงกว้างกว่า สมจริงกว่า และแชร์กับผู้อื่นได้ Sony LinkBuds Speaker คือคำตอบสำหรับความต้องการนี้ ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูทันสมัย การเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อกับหูฟัง LinkBuds และคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ลำโพงนี้พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคุณ

การออกแบบและการใช้งาน

Sony LinkBuds Speaker มาพร้อมดีไซน์มินิมอลที่ดูสวยงามลงตัวในทุกมุมของบ้าน รูปทรงทันสมัยคล้ายทรงกระบอกที่มีขนาดพอดีมือ สูงประมาณกระป๋องเครื่องดื่มทั่วไปแต่มีความหนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้พกพาสะดวกหรือวางบนโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ หรือแม้แต่ใส่กระเป๋าเป้ได้โดยไม่เปลืองพื้นที่มากนัก น้ำหนักที่ 520 กรัมอาจจะไม่ได้เบาที่สุดในกลุ่มลำโพงพกพา แต่ให้ความรู้สึกแข็งแรงและมีคุณภาพเมื่อจับ

วัสดุภายนอกเป็นผ้าเมชถักทอแน่นหุ้มรอบตัวลำโพง ให้สัมผัสที่นุ่มและดูพรีเมียม มีให้เลือกสองสีคือดำและขาว โดยสีขาวนั้นสวยงามแต่อาจเปื้อนง่ายหากใช้งานภายนอกบ่อยๆ ด้านบนสุดมีปุ่มควบคุมหลักสี่ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มปรับเสียงบวกลบ ปุ่มเล่น/หยุด และปุ่ม Quick Access สำหรับเข้าถึงแอปสตรีมมิ่งโปรดได้ทันที ด้านหลังมีปุ่มเปิดปิดขนาดเล็กและพอร์ต USB-C ที่มีฝาปิดป้องกัน

นอกจากนี้ยังมาพร้อมแท่นชาร์จไร้สายในกล่องเพื่อการชาร์จที่สะดวกรวดเร็ว โดยตัวแทนจะมีลวดลายคล้ายกลับหินอ่อน ที่จริงๆ ตัวพลาสติกเป็นวัสดุรีไซเคิลทำให้มีลวดลายที่ไม่เหมือนกัน

ในการชาร์จถ้าอยู่ในบ้านเราแค่วางตัวลำโพงไว้ที่แท่นชาร์จและถ้าต้องการเอาไปใช้นอกบ้านก็หยิบออกไปได้เลย และถ้าจะชาร์จก็จะมีพอร์ต USB-C อยู่ที่ด้านหลังของลำโพงด้วย

ที่สำคัญ LinkBuds Speaker มีมาตรฐาน IPX4 กันน้ำกระเซ็นได้ เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในบ้านและพกพาออกไปใช้ข้างนอกได้บ้าง แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานริมสระว่ายน้ำหรือชายหาด เพราะไม่ได้ป้องกันฝุ่นหรือการจุ่มน้ำ จึงต้องระวังในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นมากๆ

คุณสมบัติเด่นที่น่าประทับใจ

จุดเด่นที่สุดของ LinkBuds Speaker คือฟีเจอร์ Auto Switch ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานร่วมกับหูฟัง LinkBuds Series ได้อย่างไร้รอยต่อ เมื่อคุณกำลังฟังเพลงผ่านลำโพงแล้วต้องออกไปข้างนอก เพียงแค่หยิบหูฟัง LinkBuds ที่รองรับออกจากเคสชาร์จ เพลงจะหยุดเล่นที่ลำโพงและเริ่มเล่นต่อที่หูฟังโดยอัตโนมัติ และเมื่อคุณกลับมาบ้านและเก็บหูฟังลงในเคสชาร์จ เพลงก็จะกลับมาเล่นต่อที่ลำโพงทันที โดยไม่ต้องกดเปลี่ยนอุปกรณ์ผ่านมือถือให้ยุ่งยาก

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Quick Access ที่ให้คุณเข้าถึงแอปสตรีมมิ่งเพลงโปรดได้ด้วยการกดปุ่มเดียวบนลำโพง รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Spotify, Amazon Music และ Endel ช่วยให้เปิดเพลงได้รวดเร็วโดยไม่ต้องเปิดมือถือ

ฟีเจอร์ Auto Play ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยสามารถตั้งค่าให้ลำโพงเล่นเพลงตามกิจวัตรประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็น Get Ready Routine ที่เล่นเพลงปลุกอารมณ์ตอนเช้า หรือ Bed Time Routine ที่เล่นเพลงผ่อนคลายก่อนนอน ซึ่งตั้งเวลาได้ตามต้องการผ่านแอป Sony Sound Connect ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฟังเพลงตามช่วงเวลาต่างๆ ของวัน

ที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือความสามารถในการรับสายโทรศัพท์ผ่านลำโพงได้ ด้วยไมโครโฟนที่ออกแบบมาพิเศษและเทคโนโลยีลดเสียงสะท้อน ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของคุณชัดเจนแม้คุณจะอยู่ห่างจากลำโพงพอสมควร

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม

LinkBuds Speaker ให้เสียงที่น่าประทับใจมากสำหรับลำโพงขนาดนี้ ด้วยระบบลำโพงแบบสองทาง ประกอบด้วยทวีตเตอร์ขนาด 16 มม. และไดรเวอร์เสียงกลางและเบสขนาด 48×56 มม. ทำงานร่วมกับพาสซีฟเรดิเอเตอร์เพื่อให้เสียงเบสที่หนักแน่นมากขึ้น การแยกเสียงอยู่ในระดับดีแม้จะไม่กว้างมากเท่าลำโพงขนาดใหญ่

จุดเด่นของลำโพงนี้คือเสียงกลางที่มีรายละเอียดดีเยี่ยม ทำให้เสียงร้องและเครื่องดนตรีโดดเด่นชัดเจน และด้วยเทคโนโลยี Sound Diffusion Processor ของ Sony ทำให้เสียงกระจายออกไปรอบทิศทางแทนที่จะพุ่งไปในทิศทางเดียว คุณจึงได้ยินเสียงคุณภาพเดียวกันไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงไหนในห้อง

สิ่งที่น่าชื่นชมอีกประการคือความสามารถในการปรับแต่งเสียงผ่าน Equalizer แบบ 5 แบนด์ในแอป Sound Connect และโหมด Clear Bass สำหรับเพิ่มพลังเสียงต่ำ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันอย่าง JBL Flip 6 หรือ Charge 5 ลำโพง LinkBuds Speaker อาจจะให้พลังเสียงเบสและไดนามิกที่น้อยกว่าเล็กน้อย แต่ชดเชยด้วยความละเอียดและความสมดุลของเสียงที่ดีกว่า

แบตเตอรี่ยาวนานเกินความคาดหมาย

ประสิทธิภาพด้านแบตเตอรี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ LinkBuds Speaker ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้เวลาการใช้งานยาวนานถึง 25 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน ที่ให้เวลาการใช้งานเพียง 12-20 ชั่วโมง  ทำให้ LinkBuds Speaker เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่หรือเดินทางไกลที่อาจไม่มีที่ชาร์จ

การชาร์จทำได้ผ่านพอร์ต USB-C ที่ด้านหลังของลำโพง หรือวางบนแท่นชาร์จไร้สายที่มาพร้อมกับสินค้า ซึ่งช่วยให้ชาร์จได้เร็วและสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานที่บ้านหรือที่ทำงาน จากการทดสอบ ลำโพงนี้สามารถให้เสียงในระดับความดังปานกลางได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จซ้ำ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญเมื่อต้องใช้งานในพื้นที่ที่เข้าถึงไฟฟ้าได้ยาก

ฟีเจอร์เพิ่มเติมที่น่าสนใจ

นอกจากฟีเจอร์หลักที่กล่าวมาแล้ว LinkBuds Speaker ยังมีฟีเจอร์เสริมที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น Stereo Pairing ที่ให้คุณเชื่อมต่อลำโพงสองตัวเข้าด้วยกันเพื่อให้เสียงแบบสเตอริโอที่กว้างและสมจริงมากขึ้น ทำให้การฟังเพลงหรือดูหนังมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

Multipoint Connection ช่วยให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันได้ เช่น สมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ทำให้สลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้ง

การเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 5.2 ที่ให้การเชื่อมต่อเสถียรและเร็วกว่ารุ่นก่อนๆ แต่รองรับเฉพาะ codec แบบ SBC และ AAC เท่านั้น ไม่มี LDAC ที่มักจะพบในหูฟังระดับสูงของ Sony ซึ่งอาจเป็นข้อเสียเล็กน้อยสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงไร้สายที่ดีที่สุด

ตัวลำโพงมีการออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานจริง เช่น มีห่วงสำหรับคล้องที่แข็งแรงสำหรับการพกพา และการปรับการตั้งค่าต่างๆ สามารถทำได้ผ่านแอป Sound Connect ที่ใช้งานง่ายมากขึ้นในเวอร์ชันล่าสุด ทำให้การปรับแต่งต่างๆ เป็นเรื่องสะดวกแม้สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

Auto Switch – จุดเด่นของระบบนิเวศ LinkBuds

ฟีเจอร์ Auto Switch คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ในตระกูล LinkBuds มีความพิเศษกว่าอุปกรณ์เสียงทั่วไปในท้องตลาด ด้วยแนวคิดการสร้างประสบการณ์การฟังแบบไร้รอยต่อตลอดทั้งวัน Sony ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้การสลับเสียงระหว่างหูฟังและลำโพงเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ราวกับอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้

คอนเซ็ปต์และการทำงาน

Auto Switch ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่เราทุกคนเคยเจอ นั่นคือความยุ่งยากในการสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เสียงต่างๆ ลองนึกภาพว่าคุณกำลังฟังพอดแคสต์เพลินๆ ผ่านลำโพง LinkBuds Speaker ในบ้าน แต่ถึงเวลาต้องออกไปข้างนอก ปกติคุณต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดหยุดเพลงที่ลำโพง เปลี่ยนการเชื่อมต่อไปที่หูฟัง และกดเล่นใหม่ซึ่งเสียเวลาและไม่สะดวก

แต่กับ Auto Switch ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อคุณหยิบหูฟัง LinkBuds ที่รองรับออกจากเคสและสวมใส่ เพลงหรือคอนเทนต์ที่กำลังเล่นบนลำโพงจะหยุดทันที และเริ่มเล่นต่อบนหูฟังตรงจุดเดิมโดยอัตโนมัติ ไม่มีการสะดุดหรือต้องกดอะไรเพิ่มเติม และเมื่อคุณกลับมาถึงบ้านและนำหูฟังเก็บลงในเคสชาร์จ เพลงก็จะกลับไปเล่นที่ลำโพงทันที ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงของคุณต่อเนื่องไม่ขาดตอน

ระบบนี้ทำงานผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยตรงระหว่างอุปกรณ์ทั้งสอง โดยที่โทรศัพท์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลและควบคุมการสลับการเชื่อมต่อ ทำให้ไม่ต้องเปิดโทรศัพท์เพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์เสียงอีกต่อไป

การตั้งค่าและการใช้งาน

การตั้งค่า Auto Switch ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่มีขั้นตอนที่ต้องทำตามลำดับเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างสมบูรณ์ โดยเริ่มจาก:

  1. อัปเดตซอฟต์แวร์ – สิ่งแรกที่ต้องทำคือการอัปเดตซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์ทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด โดยเฉพาะแอป Sony Sound Connect บนสมาร์ทโฟนของคุณ มิฉะนั้นอาจจะหาฟังก์ชัน Auto Switch ไม่เจอ
  2. เริ่มจากลำโพง – การตั้งค่าต้องเริ่มจากการเชื่อมต่อ LinkBuds Speaker กับสมาร์ทโฟนก่อน จากนั้นเปิดแอป Sound Connect และเข้าไปที่ Device settings > System > Settings ในเมนู Auto Switch แล้วทำตามขั้นตอนในแอป หลังจากเสร็จขั้นตอนนี้ให้ปิดลำโพงก่อน
  3. เพิ่มหูฟัง – เชื่อมต่อหูฟัง LinkBuds ที่รองรับ (ไม่ว่าจะเป็น LinkBuds Fit, LinkBuds Open, LinkBuds S, WF-1000XM5 หรือ WH-1000XM5) กับสมาร์ทโฟน และทำขั้นตอนการตั้งค่าเช่นเดียวกัน เพียงแต่ครั้งนี้คุณจะเห็นตัวเลือก “Link with LinkBuds Speaker” ที่สามารถเลือกได้
  4. ทดสอบการทำงาน – หลังจากตั้งค่าเสร็จสิ้น ให้ทดลองใช้งานโดยเล่นเพลงจากลำโพง แล้วหยิบหูฟังออกจากเคสและสวมใส่ เพลงควรจะสลับไปเล่นที่หูฟังโดยอัตโนมัติ และเมื่อเก็บหูฟังลงเคส เพลงควรจะกลับไปเล่นที่ลำโพงอีกครั้ง

การใช้งาน Auto Switch เป็นเรื่องง่ายมากหลังจากตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ใช้งานหูฟังและลำโพงตามปกติ ระบบจะจัดการการสลับเสียงให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการกดปุ่มหรือเปลี่ยนการตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติม

อุปกรณ์ที่รองรับ

ไม่ใช่ทุกอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ Auto Switch ได้ Sony ได้จำกัดความเข้ากันได้เฉพาะกับผลิตภัณฑ์บางรุ่นเท่านั้น โดยหูฟังที่รองรับ ได้แก่:

  • LinkBuds Fit
  • LinkBuds Open
  • LinkBuds S
  • WF-1000XM5 (หูฟังเอียร์บัด)
  • WH-1000XM5 (หูฟังครอบหู)

ในส่วนของสมาร์ทโฟนที่รองรับ มีทั้งในระบบ iOS และ Android โดยรุ่นที่รองรับ ได้แก่:

  • iPhone รุ่น 13 ขึ้นไป (รวมถึง iPhone 13, 13 Pro, 13 Pro Max, 14, 14 Pro, 14 Pro Max, 15, 15 Pro, 15 Pro Max)
  • iPad รุ่นใหม่ เช่น iPad Air, iPad Pro 5, iPad Pro 11 inch (3rd Gen), iPad (9th Gen), iPad mini 6
  • Sony Xperia หลายรุ่น เช่น Xperia 1 V, Xperia 5 V, Xperia 10 V, Xperia 1 IV, Xperia 5 IV และรุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น
รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

ประสบการณ์การใช้งานในชีวิตจริง

จากการทดลองใช้งาน Auto Switch ในชีวิตประจำวัน พบว่าฟีเจอร์นี้ทำงานได้อย่างน่าประทับใจ การสลับระหว่างหูฟังและลำโพงเป็นไปอย่างราบรื่นเกือบทุกครั้ง มีความล่าช้าเพียงเล็กน้อย (ประมาณ 1-2 วินาที) ซึ่งแทบไม่รู้สึกรำคาญในการใช้งานจริง

ความสะดวกที่ได้รับนั้นเห็นได้ชัดเจนในหลายสถานการณ์ เช่น ขณะกำลังฟังข่าวตอนเช้าผ่านลำโพงแล้วต้องรีบออกไปทำงาน หรือเมื่อกลับถึงบ้านพร้อมความเหนื่อยล้าและไม่ต้องการกดปุ่มใดๆ เพิ่มเติม เพียงแค่ถอดหูฟังเก็บและเพลงก็จะดังต่อที่ลำโพงทันที

อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนใช้งาน นั่นคือ ระบบจะทำงานได้ดีเมื่ออุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ภายในระยะ Bluetooth ที่เหมาะสม (ประมาณ 10 เมตร) หากลำโพงอยู่ไกลเกินไป หรือมีกำแพงหนาหรือสิ่งกีดขวางมากเกินไป อาจทำให้การเชื่อมต่อไม่เสถียรได้

ความสามารถที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือการจำตำแหน่งเพลงที่กำลังเล่นได้อย่างแม่นยำ ทำให้ไม่พลาดเนื้อหาสำคัญในพอดแคสต์หรือหนังสือเสียงที่กำลังฟังอยู่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ชอบฟังคอนเทนต์ยาวๆ

ประสบการณ์การใช้งานฟีเจอร์ Auto Switch โดยรวมถือว่าเกินความคาดหมาย และเป็นก้าวสำคัญของ Sony ในการสร้างระบบนิเวศเครื่องเสียงที่ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นทิศทางที่น่าจับตามองในอนาคตของวงการเครื่องเสียงพกพา

ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นอกเหนือจากฟีเจอร์ Auto Switch ที่โดดเด่นแล้ว ระบบนิเวศของ Sony LinkBuds Series ยังมีฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจและช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

Quick Access: การเข้าถึงเพลงโปรดด้วยปุ่มเดียว

Quick Access เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเข้าถึงแอปสตรีมมิ่งเพลงโปรดทำได้อย่างรวดเร็วเพียงกดปุ่มเดียวบน LinkBuds Speaker โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอป ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายในการฟังเพลง

การทำงานของ Quick Access นั้นเรียบง่าย เมื่อคุณกดปุ่ม Quick Access บนลำโพง แอปที่ตั้งค่าไว้จะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติและเริ่มเล่นเพลยลิสต์ที่คุณเลือกไว้ทันที ปัจจุบันรองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Spotify, Amazon Music และ Endel แต่อาจมีการเพิ่มบริการอื่นๆ ในอนาคต

การตั้งค่า Quick Access ทำได้ง่ายผ่านแอป Sony Sound Connect โดยเข้าไปที่การตั้งค่าของ LinkBuds Speaker และเลือกแอปที่ต้องการและเพลยลิสต์หรือเอลบั้มที่ชื่นชอบ ฟีเจอร์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มักฟังเพลงประจำในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน เช่น เพลงออกกำลังกาย เพลงทำงาน หรือเพลงผ่อนคลาย

Auto Play: เพลงตามกิจวัตรประจำวัน

Auto Play คือฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยให้ LinkBuds Speaker เล่นเพลงตามกิจวัตรประจำวันได้โดยอัตโนมัติ โดยแบ่งออกเป็นสองโหมดหลัก:

Get Ready Routine เป็นโหมดที่ออกแบบมาสำหรับช่วงเช้า โดยลำโพงจะเปิดเองตามเวลาที่ตั้งไว้และเล่นเพลงที่คุณเลือก เพื่อปลุกอารมณ์และสร้างพลังให้กับวันใหม่ ลองนึกภาพว่าคุณตื่นนอนพร้อมกับเพลงโปรดที่ค่อยๆ ดังขึ้นแทนเสียงนาฬิกาปลุกที่น่ารำคาญ

Bed Time Routine เป็นโหมดสำหรับช่วงก่อนนอน โดยลำโพงจะเล่นเพลงผ่อนคลายตามเวลาที่ตั้งไว้ และจะปิดเองโดยอัตโนมัติหลังจากเล่นไปได้ระยะเวลาหนึ่งตามที่กำหนด ช่วยให้คุณผ่อนคลายและเข้าสู่การนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ

การตั้งค่าทั้งสองโหมดนี้ทำได้ผ่านแอป Sound Connect ในส่วนของ Auto Play โดยสามารถเลือกวัน เวลา เพลง และระดับความดังได้ตามต้องการ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ลำโพงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ทำงานสอดคล้องกับกิจวัตรของคุณอย่างแท้จริง เพิ่มความสะดวกสบายและลดการพึ่งพาโทรศัพท์มือถือ

Personalize Your Own Style: ปรับแต่งตามสไตล์ส่วนตัว

Sony เข้าใจดีว่าอุปกรณ์เครื่องเสียงไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ใช้งาน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสไตล์และบุคลิกภาพของผู้ใช้ด้วย ด้วยเหตุนี้ LinkBuds Series จึงมาพร้อมกับความสามารถในการปรับแต่งรูปลักษณ์ตามสไตล์ส่วนตัว

สำหรับหูฟัง LinkBuds Fit และ LinkBuds Open มีให้เลือกหลากหลายสี และยังสามารถเลือกซื้อเคสซิลิโคนครอบเคสชาร์จและเคสซิลิโคนครอบหูฟังเพิ่มเติมได้ในราคา 990 บาท และ 490 บาท ตามลำดับ โดยมีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีชมพู สีเขียวอ่อน สีฟ้าอ่อน สีม่วงอ่อน และสีดำ

ข้อควรระวังคือ เคสซิลิโคนเหล่านี้ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรุ่นนั้นๆ เท่านั้น ไม่สามารถใช้ร่วมกันระหว่างรุ่นได้ เช่น เคสของ LinkBuds Fit ไม่สามารถใช้กับ LinkBuds Open ได้ ดังนั้นควรตรวจสอบความเข้ากันได้ก่อนการสั่งซื้อ

ความสามารถในการปรับแต่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงออกถึงตัวตนและสไตล์ส่วนตัวผ่านอุปกรณ์เครื่องเสียงได้ สอดคล้องกับเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองผ่านสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

การทำงานร่วมกับแอป Sony Sound Connect

ศูนย์กลางของการจัดการทุกฟีเจอร์ของ LinkBuds Series คือแอป Sony Sound Connect ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ใช้งานง่ายและสวยงามมากขึ้น สนับสนุนทั้งอุปกรณ์ Android และ iOS

แอปนี้ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับตั้งค่าฟีเจอร์พื้นฐานเท่านั้น แต่ยังรวมฟีเจอร์ขั้นสูงต่างๆ เช่น:

  1. การปรับแต่งเสียงด้วย Equalizer แบบ 5 แบนด์: ให้คุณปรับแต่งเสียงได้ตามความชอบส่วนตัว ไม่ว่าจะชอบเสียงเบสหนักๆ หรือเสียงกลางที่ชัดเจน
  2. การตั้งค่า Auto Switch: ศูนย์กลางในการจับคู่และตั้งค่าการทำงานร่วมกันระหว่างหูฟังและลำโพง
  3. การจัดการหลายอุปกรณ์: ควบคุมการตั้งค่าของอุปกรณ์ LinkBuds ทั้งหมดของคุณจากที่เดียว
  4. การอัปเดตเฟิร์มแวร์: ตรวจสอบและติดตั้งอัปเดตเฟิร์มแวร์ล่าสุดเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่และปรับปรุงประสิทธิภาพ

แอป Sound Connect เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของระบบนิเวศ LinkBuds เพราะทำให้การจัดการอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นเรื่องง่าย แม้จะมีฟีเจอร์มากมาย แต่การออกแบบอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและเป็นระเบียบช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและไม่สับสน

ยิ่งไปกว่านั้น แอปนี้ยังอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Sony ในการพัฒนาระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงอย่างต่อเนื่อง

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

สรุป รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

สำหรับ รีวิว ครั้งนี้ กับ LinkBuds Fit รู้สึกได้ถึงความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใส่สบายตลอดทั้งวันด้วยนวัตกรรม Air Fitting Supporters ทำให้มั่นใจได้ว่าหูฟังจะไม่หลุดแม้ขณะออกกำลังกายเข้มข้น มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนคุณภาพสูงด้วยชิปประมวลผลตัวเดียวกับรุ่นเรือธง และฟีเจอร์อัจฉริยะอย่าง Speak-to-Chat และ Head Gesture ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานประจำวัน คุณภาพเสียงอยู่ในระดับดีมากพอที่จะทำให้ผู้ใช้ได้อรรถรสในการฟังเพลงทุกแนว

ส่วน LinkBuds Speaker มีจุดเด่นที่การออกแบบที่เรียบหรูเข้ากับทุกมุมบ้าน เสียงคุณภาพดีกับระบบลำโพงสองทางและเทคโนโลยี Sound Diffusion ที่ช่วยกระจายเสียงรอบทิศทาง แบตเตอรี่ 25 ชั่วโมงที่อยู่เหนือคู่แข่งในระดับเดียวกัน ฟีเจอร์ Quick Access และ Auto Play ที่ช่วยให้การใช้งานเป็นเรื่องง่าย

และสิ่งที่ทำให้ทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้พิเศษกว่าแบรนด์อื่นคือฟีเจอร์ Auto Switch ที่ช่วยให้การสลับเสียงระหว่างหูฟังและลำโพงเป็นไปอย่างไร้รอยต่อโดยอัตโนมัติ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและประสบการณ์การฟังแบบต่อเนื่องตลอดวัน

ข้อจำกัดที่ควรพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ทั้งสองก็มีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อ

สำหรับ LinkBuds Fit แบตเตอรี่ 5.5 ชั่วโมงอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันอย่าง Bose QuietComfort Earbuds ที่ให้เวลาการใช้งานมากกว่า ระดับกันน้ำ IPX4 ก็ยังไม่สามารถป้องกันการจุ่มน้ำได้ ทำให้ไม่เหมาะกับกีฬาทางน้ำ และความรู้สึกของปุ่มสัมผัสที่อาจตอบสนองช้าในบางครั้ง

ส่วน LinkBuds Speaker อาจให้พลังเสียงเบสและไดนามิกที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน และมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ก็ยังเป็นข้อจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีระดับการป้องกันสูงกว่า นอกจากนี้ การรองรับเฉพาะ codec แบบ SBC และ AAC อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับนักฟังเพลงจริงจังที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด

สำหรับฟีเจอร์ Auto Switch ที่เป็นจุดขายหลัก ก็มีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ ต้องใช้กับสมาร์ทโฟนและหูฟังรุ่นที่รองรับเท่านั้น 

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker

ความคุ้มค่ากับราคา

LinkBuds Fit มีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 7,990 บาท เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติที่ได้ ถือว่าอยู่ในระดับที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังที่มีความสบายในการสวมใส่เป็นหลัก และต้องการฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในชีวิตประจำวัน ราคานี้อยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่ง  แต่มีจุดเด่นด้านความสบายและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นในระบบนิเวศ LinkBuds

ส่วน LinkBuds Speaker ที่ราคา 6,990 บาท ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของตลาดลำโพงพกพาคุณภาพสูง เมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ด้วยแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าและฟีเจอร์เฉพาะตัวอย่าง Auto Switch, Quick Access และ Auto Play ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการลำโพงที่มีความสามารถมากกว่าการเล่นเพลงทั่วไป

ท้ายที่สุด ผลิตภัณฑ์ในตระกูล LinkBuds ของ Sony ถือเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจในวงการเครื่องเสียงพกพา ด้วยระบบนิเวศที่ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ก็มีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ และถือเป็นก้าวสำคัญของ Sony ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์การฟังเพลงแบบไร้รอยต่อที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

รีวิว หูฟัง Sony LinkBuds Fit และ ลำโพง LinkBuds Speaker นวัตกรรมเสียงไร้รอยต่อสำหรับชีวิตยุคใหม่
จุดเด่นคือการเชื่อมต่อไร้สายแบบไร้รอยต่อ ระหว่างหูฟังและลำโพง
มอบประสบการณ์การฟังที่ไร้รอยต่อด้วยฟีเจอร์ Auto Switch ที่ช่วยให้สลับระหว่างหูฟังและลำโพงได้อย่างอัตโนมัติ ตอบโจทย์ชีวิตคนยุคใหม่ที่ติด content ตลอดเวลา
การออกแบบ
95
ฟีเจอร์การใช้งาน
85
ประสิทธิภาพ
80
ความคุ้มค่า
80
จุดเด่น
LinkBuds Fit ออกแบบมาให้สวมใส่ได้สบาย ตลอดทั้งวัน ไม่เจ็บหู แม้ขณะออกกำลังกาย
ฟีเจอร์ Auto Switch สลับเสียงระหว่างลำโพงและหูฟังโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกดเปลี่ยนอุปกรณ์ผ่านมือถือ
คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ทั้งหูฟังและลำโพงให้เสียงที่มีรายละเอียดสูง สมดุล และมีมิติ เหมาะกับทุกแนวเพลง
แบตเตอรี่ยาวนาน LinkBuds Speaker ใช้งานได้นานถึง 25 ชั่วโมง ส่วน LinkBuds Fit ให้เวลา 5.5 ชั่วโมงและชาร์จเร็ว 5 นาทีใช้ได้ 1 ชั่วโมง
ฟีเจอร์อัจฉริยะที่ใช้งานได้จริง ทั้ง Speak-to-Chat, Head Gesture, Auto Play และ Quick Access ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
ปรับแต่งตามสไตล์ส่วนตัว มีให้เลือกหลากหลายสี พร้อมเคสซิลิโคนเสริมที่ช่วยให้อุปกรณ์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ข้อสังเกต
ฟีเจอร์ Auto Switch รองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น และหูฟัง LinkBuds รุ่นที่กำหนดเท่านั้น
มาตรฐานกันน้ำระดับ IPX4 ป้องกันเหงื่อและน้ำกระเซ็นได้ แต่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับกีฬาทางน้ำหรือการจุ่มน้ำโดยตรง
85

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.