Sony กำลังพิจารณาปรับ ขึ้นราคา PlayStation 5 ในสหรัฐอเมริกา เพื่อรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกเก็บจากสินค้าจีน
บริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเปิดเผยในการประกาศคาดการณ์ทางการเงินล่าสุดว่า จะได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสูงถึง 100,000 ล้านเยน (ประมาณ 680 ล้านดอลลาร์) ส่งผลให้บริษัทต้องพิจารณาทางเลือกต่างๆ รวมถึงการผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค
Lin Tao CFO ของ Sony ยืนยันระหว่างการประชุมนักลงทุนว่า บริษัทกำลังพิจารณาการ “ผลักภาระ” ค่าใช้จ่ายจากภาษีไปยังผู้บริโภคเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผลกำไร แม้ว่า Tao จะไม่ได้กล่าวถึง PS5 โดยตรง แต่เป็นไปได้ว่า Sony อาจพยายามปกป้องราคาคอนโซลผ่านการเพิ่มราคาในธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
นอกจากการปรับ ขึ้นราคา PlayStation 5 แล้ว Hiroki Totoki CEO ของ Sony ยังกล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิต PlayStation ไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีนำเข้า โดยระบุว่า PS5 “สามารถผลิตในประเทศได้” และนี่จะเป็น “กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ” ที่ “ต้องพิจารณาต่อไปในอนาคต”
ปัจจุบัน Sony ยังคงผลิตฮาร์ดแวร์ PS5 ส่วนใหญ่ในจีน ทำให้ธุรกิจเกมของบริษัทมีความเสี่ยงสูง แม้ตอนนี้สหรัฐฯและจีนจะมีการประกาศหยุดชั่วคราว 90 วันและลดอัตราภาษีในสัปดาห์นี้ แต่อัตราภาษี 30% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ ยังคงสูงกว่าอัตรา 10% ที่เรียกเก็บจากประเทศอื่นๆ และเครื่องเล่นเกมไม่ได้รับการยกเว้นเหมือนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาสิ้นสุดเดือนมีนาคม Sony จัดส่ง PS5 ไป 18.5 ล้านเครื่อง ลดลงเล็กน้อยจาก 20.8 ล้านเครื่องในปีก่อนหน้า รวมยอดจัดส่งตลอดอายุการใช้งานเป็น 77.7 ล้านเครื่อง
ก่อนหน้านี้ Microsoft ได้ปรับราคา Xbox เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 100 ดอลลาร์ ในขณะที่ Nintendo ยังคงรักษาราคา Switch 2 เท่าเดิมก่อนเปิดตัวในเดือนหน้า สำหรับ Sony เอง ได้เคยปรับราคา PS5 ในปีนี้แล้ว แต่เฉพาะในสหราชอาณาจักร ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
ข้อมูลจาก : The Verge
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
