สรุปขัอมูล สเปค พร้อมยืนยันแล้วว่า Samsung Galaxy S25 Edge จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ และเตรียมวางจำหน่ายในจีนและเกาหลีวันที่ 23 พฤษภาคม ก่อนขยายสู่ตลาดทั่วโลกในวันที่ 30 พฤษภาคม หลังจากมีข้อมูลหลุดครั้งใหญ่เผยรายละเอียดสเปคเครื่อง ภาพเรนเดอร์ และราคาอย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นการกลับมาของซีรีส์ Edge ที่ซัมซุงเคยเปิดตัวในอดีต แต่หายไปนาน
ในส่วนของราคา Galaxy S25 Edge จะวางจำหน่ายในเยอรมนีที่ราคา €1,249 (ประมาณ 46,500 บาท) สำหรับรุ่นความจุ 256GB และ €1,369 (ประมาณ 51,000 บาท) สำหรับรุ่น 512GB ซึ่งวางตำแหน่งเอาไว้ระหว่าง S25+ และ S25 Ultra ในไลน์อัพสมาร์ตโฟนเรือธงของซัมซุง ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้นในปีนี้
จุดเด่น สเปค สำคัญของ Galaxy S25 Edge อยู่ที่ดีไซน์บางเฉียบเพียง 5.85 มิลลิเมตรและน้ำหนักเบาเพียง 163 กรัม ถือว่าบางและเบามากเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนเรือธงทั่วไปในตลาด การออกแบบนี้ทำให้การถือใช้งานสบายมือแม้จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ โดยมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1440×3120 พิกเซล รองรับอัตรารีเฟรช 120Hz ให้ภาพคมชัดและลื่นไหล มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออัลตร้าโซนิกฝังใต้หน้าจอเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการปลดล็อคเครื่อง
ในด้านวัสดุ หน้าจอปกป้องด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Ceramic 2 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดจาก Corning ส่วนด้านหลังใช้ Gorilla Glass Victus 2 ที่ให้ความแข็งแรงทนทานสูง และกรอบเครื่องผลิตจากไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Ultra เพื่อความแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา ทั้งยังให้สัมผัสพรีเมียมเมื่อถือในมือ

รุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8 Elite for Galaxy เป็นชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบเฉพาะสำหรับซัมซุง จับคู่กับแรม 12GB เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและรองรับการทำงานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน รันบนระบบปฏิบัติการ Android 15 กับอินเตอร์เฟซ One UI 7 ที่พัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายและมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น
ในส่วนของระบบกล้อง Galaxy S25 Edge มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 200 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมระบบกันสั่น OIS ให้ภาพคมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย คู่กับกล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง และกล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 สำหรับเซลฟี่และวิดีโอคอล แม้จะไม่มีกล้องเทเลโฟโต้แบบรุ่น Ultra แต่ก็สามารถถ่ายภาพซูมด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยรักษาคุณภาพของภาพไว้ได้ดี
การออกแบบให้ตัวเครื่องบางเฉียบส่งผลให้แบตเตอรี่มีขนาดเพียง 3,900 mAh เล็กที่สุดในตระกูล S25 อย่างไรก็ตาม ด้วยประสิทธิภาพการจัดการพลังงานของชิปเซ็ตและการปรับแต่งซอฟต์แวร์ คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ตลอดวันสำหรับการใช้งานทั่วไป และยังคงรองรับการชาร์จไร้สายเพื่อความสะดวก นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 ทำให้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อมโดยไม่ต้องกังวล
สำหรับการ เปิดตัว Galaxy S25 Edge ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความพยายามของซัมซุงในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสมาร์ตโฟนบางเบาแต่ยังคงประสิทธิภาพระดับสูง
ข้อมูลจาก : GSMArena
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
