รีวิว realme GT 7 Series

รีวิว realme GT 7 Series สเปคแรงจัดสำหรับเกมเมอร์ แบตอึด 7000mAh เครื่องไม่ร้อน ครบเครื่องเรื่องกล้อง + AI

รีวิว realme GT 7 Series สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด พร้อมบุกสายเกมมิ่งเต็มตัว ด้วยสเปคแรงระดับเรือธง เล่นเกมเสถียรได้ 120fps ลื่นๆ ตัวเครื่องออกแบบพิเศษเพื่อการระบายและควบคุมความร้อนระหว่างเล่นเกมได้ดีเยี่ยม แถมยังเปิดมาในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า

ใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่เอาอยู่ทั้งเกมหนักๆ และถ่ายภาพสวยๆ ต้องบอกเลยว่า realme GT 7 Series คือคำตอบที่คุณรอคอย! ซีรีส์นี้มาพร้อมกับ 3 รุ่นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น realme GT 7 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400e ที่ปรับแต่งมาสำหรับการเล่นเกม, realme GT 7 Dream Edition รุ่นพิเศษที่ร่วมมือกับ Aston Martin F1 ดีไซน์สวยลักชัวรี่ และ realme GT 7T ตัวคุ้มค่าที่มาพร้อม Dimensity 8400-MAX

ที่น่าตื่นเต้นคือ ทั้ง 3 รุ่นนี้มาพร้อมนวัตกรรม “ครั้งแรกของโลก” มากมาย ทั้ง IceSense Design ที่ใช้กราฟีนในการออกแบบสมาร์ตโฟนเป็นครั้งแรก, แบตเตอรี่ไททัน 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W ซึ่งเร็วที่สุดในโลกสำหรับแบตเตอรี่ขนาดนี้, AI Planner ที่แค่แตะ 2 ครั้งหลังเครื่องก็สร้างตารางเวลาได้

หากคุณเป็นเกมเมอร์ตัวจริงที่ต้องการเฟรมเรต 120FPS แบบไม่ตก? หรือเป็นนักเดินทางที่อยากได้กล้องถ่ายภาพระดับโปร? หรืออาจจะเป็นแฟน F1 ที่อยากได้สมาร์ตโฟนดีไซน์เท่ๆ? ไม่ว่าจะเป็นใคร realme GT 7 Series มาพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ 

สำหรับ รีวิว realme Gt 7 Series ครั้งนี้ ทีมงาน TechOffside เราจะมาเจาะลึกให้ดูกันว่า แต่ละรุ่นมีอะไรน่าสนใจบ้าง!

รีวิว realme GT 7

รีวิว realme GT 7 : ข้านี่ล่ะ “นักฆ่าเรือธงแห่งปี 2025”

เมื่อพูดถึงสมาร์ตโฟนเรือธงที่ครบเครื่องทุกด้าน realme GT 7 ดูจะโดดเด่นมากที่สุด ด้วยการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพอันทรงพลัง, เทคโนโลยีการระบายความร้อนล้ำสมัย, และนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการสมาร์ตโฟน ทำให้ทางเรียลมีขนานนามให้รุ่นนี้เป็น “The 2025 Flagship Killer

ไม่ว่าคุณจะเป็นเกมเมอร์ที่ต้องการเล่น PUBG ด้วยกราฟิกสูงสุดแบบไม่มีสะดุด, คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูงบนมือถือ, หรือแม้แต่คนที่ใช้งานหนักตลอดทั้งวันแต่ไม่อยากพกพาวเวอร์แบงก์ realme GT 7 พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยสเปคที่จัดเต็มทุกด้าน 

Unbox แกะกล่อง realme GT 7

สำหรับตัวแพ็กเกจของ realme GT 7 มาในโทนสีดำสุดหรู มีชื่อรุ่น GT 7 โดดเด่นตรงกลาง ส่วนด้านหลังจะแสดงสเปคหลักของรุ่น เมื่อเปิดออกมาชั้นแรกจะเจอกับกล่องสีดำเก็บอุปกรณ์เสริม ได้แก่ เคสซิลิโคนสีดำ, เข็มเปิดถาดซิม, และ คู่มือการใช้งาน ถือว่าให้มาครบสำหรับการเริ่มใช้งาน

ต่อมาจะเจอกับตัวเครื่อง realme GT 7 ที่มีฟิล์มกันรอยติดมาจากโรงงานเรียบร้อยไม่ต้องหาซื้อมาติดเอง และที่ด้านล่างสุดจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จมาตรฐาน 120W พร้อมด้วยสาย USB-A to Type-C 

Hand On สัมผัสรอบเครื่อง

มาดูรายละเอียดรอบเครื่องของ realme GT 7 กัน โดยที่ด้านหน้าการออกแบบจะเว้นตำแหน่งกล้องหน้า Punch Hole 32MP ที่ตรงกลางด้านบนตามปกติ พร้อมด้วยลำโพงสเตอริโอที่ขอบด้านบน

ตัวหน้าจอเป็นแบบ Pro-Esports Display ที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ด้วยหน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K+ รองรับ Refresh Rate 120Hz และ Sampling Rate 360Hz ให้การตอบสนองที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และขอบจอก็บางเฉียบ ได้สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอถึง 93.9%

ทางด้านฝั่งขวาตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power โดยมีความพิเศษที่ตัวปุ่มนั้นจะเป็นสีแดงที่ตัดกับสีเครื่องให้ดูมีรายละเอียดแตกต่างและโฉบเฉี่ยวเพิ่มขึ้น

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิมการ์ด ตามด้วยไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB-C และลำโพงเสียงสนทนา ส่วนด้านบนจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 พร้อมด้วยเซ็นเซอร์อินฟราเรด หรือ IR Blaster สำหรับควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้าน

รีวิว realme GT 7

ด้านหลังเครื่อง จะจัดวางโมดูลกล้องหลังทรงสี่เหลี่ยมที่มุมด้านบน ภายในจะประกอบด้วยกล้องหลักทั้ง 3 เลนส์และไฟแฟลช LED โดยจะมีฐานยื่นออกมาเล็กน้อยพร้อมสัญลักษณ์ HYPERIMAGE+ และที่อีกฝั่งจะมีคำว่า “GRAPHENE” ที่หมายถึงตัววัสดุควบคุมอุณหภูมิที่ใช้อยู่ภายใน

ความแข็งแกร่งของ realme GT 7 ยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68/69 ที่สามารถอยู่ในน้ำสะอาดได้ลึกถึง 1.5 เมตร นานสูงสุดถึง 30 นาที และยังทนต่อน้ำแรงดันสูงและน้ำอุณหภูมิสูงได้อีกด้วย

Dimensity 9400e  ชิปเซ็ตตัวแรง ปรับจูนสำหรับการเล่นเกม

รีวิว realme GT 7

ถ้าพูดถึงหัวใจสำคัญของ realme GT 7 คงหนีไม่พ้น MediaTek Dimensity 9400e ชิปเซ็ตที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อตอบสนองการเล่นเกมขั้นสูง ด้วยคะแนน AnTuTu ที่ทำได้สูงกว่า Snapdragon 8 Gen 3 ผลิตด้วยกระบวนการ TSMC 4nm ที่ประหยัดพลังงาน มาพร้อมกับ CPU แบบ All-Big-Core ที่ประกอบด้วย:

  • 1x Cortex-X4 Prime @ 3.4GHz – แกนประมวลผลหลักที่แรงที่สุด
  • 3x Cortex-X4 @ 2.85GHz – แกนประสิทธิภาพสูง
  • 4x Cortex-A720 @ 2.0GHz – แกนประหยัดพลังงาน

ส่วน GPU นั้นใช้ Arm Immortalis-G720 @ 1.3GHz ที่รองรับ Ray Tracing สำหรับกราฟิกเกมที่สมจริงยิ่งขึ้น

แต่ที่เด่นที่สุดคือระบบ AI APU 7.0 ที่มีพลังประมวลผล AI สูงถึง 50.7 TOPS (INT8) ทำให้รองรับ Google Gemini Nano2 ได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการแปลภาษาแบบ Real-time, ตัดภาพพื้นหลัง, หรือแม้แต่ AI Gaming Coach ที่ช่วยให้คุณเล่นเกมเก่งขึ้น ทุกอย่างทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ

จอภาพ 6000nits Pro-Esports Display

รีวิว realme GT 7

คุณเคยเจอปัญหาเล่นเกมกลางแดดแล้วมองหน้าจอไม่เห็นไหม? realme GT 7 มาพร้อมจอภาพ 6.78 นิ้ว AMOLED ที่มีความสว่างสูงสุดถึง 6000 nits – สว่างที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนกลุ่มเดียวกัน

แต่ความเจ๋งไม่ได้มีแค่ความสว่าง จอนี้ยังรองรับ Dolby Vision และ HDR10+ ทำให้การดูหนังหรือเล่นเกมได้สีสันสดใสสมจริง พร้อม Refresh Rate 120Hz ที่ลื่นไหล และที่สำคัญสำหรับเกมเมอร์คือ Touch Sampling Rate สูงสุดถึง 360Hz (Instantaneous 2600Hz) ทำให้การสัมผัสหน้าจอตอบสนองไวแม่นยำ

รวมถึงยังมีฟีเจอร์ Rainwater Smart Touch ที่อัปเกรดมาใหม่ แม้มือเปียกน้ำหรือเหงื่อไหลขณะเล่นเกมตึงๆ ก็ยังควบคุมการสัมผัสได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องกลัวพลาดจังหวะสำคัญอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมี DC Dimming ระดับฮาร์ดแวร์และ PWM 240Hz ที่ช่วยลดอาการปวดตาจากการจ้องหน้าจอนานๆ

ระบบระบายความร้อน Airflow VC

เล่นเกมนานๆ แล้วเครื่องร้อนจนเฟรมเรตตก? ลืมปัญหานี้ไปได้เลยกับ Airflow VC ใน realme GT 7 ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 7,700 ตร.มม.ครอบคลุมพื้นผิวของตัวเครื่องถึง 65% โดยที่ภายในมีโครงสร้างช่องอากาศขนาดใหญ่พิเศษ ทำให้อากาศไหลเวียนได้ดี ผลลัพธ์คือคุณสามารถเล่นที่ระดับเฟรมเรตสูงสุด 120FPS ได้นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง โดยที่เฟรมเรตยังคงเสถียร!

รีวิว realme GT 7

ระบบ GT Boost ใหม่ล่าสุดยังช่วยคาดการณ์เฟรมโหลดระหว่างการเล่นเกม ทำให้ควบคุมการปล่อยประสิทธิภาพได้แม่นยำ ไม่มีอาการกระตุกหรือเฟรมดรอปกะทันหัน

แบตเตอรี่ไททัน 7000mAh + ชาร์จเร็ว 120W

รีวิว realme GT 7 Series

นี่คือไฮไลท์สำคัญของ realme GT 7 กับ แบตเตอรี่ไททัน 7000mAh ที่มาคู่กับ ชาร์จเร็ว 120W ซึ่งเป็นระบบชาร์จที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับแบตเตอรี่ขนาดนี้ สามารถชาร์จจาก 1-50% ใน 14 นาที และเต็ม 100% ใน 40 นาที เท่านั้น

และให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีขึ้นด้วยฟีเจอร์พิเศษ Smart Bypass ที่จ่ายไฟตรงไปยังเมนบอร์ดขณะเล่นเกมพร้อมชาร์จ ช่วยลดความร้อนและการสึกหรอของแบตเตอรี่ พูดง่ายๆ คือเล่นเกมพร้อมชาร์จได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเสื่อมไปได้เลย

นอกจากนี้ realme GT 7 ยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้รับ การรับรอง 5 ดาวจาก TÜV Rheinland ในด้านแบตเตอรี่ ยืนยันความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการเสื่อมสภาพต่ำ ทำให้คุณมั่นใจในการใช้งานได้ในระยะยาว

IceSense Design ครั้งแรกกับการระบายความร้อนด้วยกราฟีนในสมาร์ตโฟน

รีวิว realme GT 7

เป็นสิ่งที่น่าสนใจในการที่ realme นำเอา กราฟีน วัสดุระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง มาใช้ในการออกแบบสมาร์ตโฟน เพราะ IceSense Graphene ในตัว realme GT 7 มีคุณสมบัติการนำความร้อนที่ยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพดีกว่าฝาครอบไฟเบอร์กลาสทั่วถึง 26 เท่า และดีกว่ากระจกถึง 5 เท่า

ตัวชั้นกราฟีนขนาด 4,500 ตร.มม. จะถูกประกบอยู่ระหว่างชั้นไฟเบอร์กลาสของฝาหลัง ช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่พิเศษคือมันให้ “อุณหภูมิเวลาที่ถือเครื่อง” สามารถถือจับเล่นเกมได้โดยไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป

นอกจากนี้ realme GT 7 ยังมาพร้อมมาตรฐาน IP69 ที่กันน้ำกันฝุ่นระดับสูงสุด และ Corning Gorilla Glass 7i ที่แข็งแกร่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทานในการใช้งานประจำวัน

รีวิว realme GT 7

ตัวเครื่องมีสีให้เลือกคือ IceSense Black และ IceSense Blue ทั้งสองสีให้ความรู้สึกพรีเมียมและเย็นสบายเมื่อจับ น้ำหนักเพียง 206 กรัม ถือว่าเบามากสำหรับสมาร์ตโฟนที่มีแบตเตอรี่ขนาด 7000mAh

รีวิว realme GT 7

AI Travel Snap Camera: กล้องอัจฉริยะสำหรับนักเดินทาง

ใครว่าสมาร์ตโฟนสายเกมมิ่งถ่ายรูปไม่สวย? realme GT 7 มาพร้อมระบบกล้อง AI Travel Snap ที่จะเปลี่ยนความคิดคุณไปเลย! ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพท่องเที่ยว พอร์ตเทรต หรือแม้แต่วิดีโอใต้น้ำ ทุกอย่างทำได้ในระดับมืออาชีพ

สำหรับเซ็ตอัพกล้องของ realme GT 7 จะประกอบด้วย

  • กล้องหลัก Sony IMX906 50MP (f/1.8, 1/1.56″) – เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่ให้แสงเข้าได้มาก ถ่ายภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อย รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุดถึง 8K 30fps และ 4K 120fps พร้อม Dolby Vision ที่ให้สีสันสดใส
  • กล้อง Telephoto Samsung S5KJN5 50MP (f/2.0) – ซูม 2X แบบ Optical ถ่ายภาพระยะไกลได้คมชัดไม่แตกพิกเซล เหมาะกับการถ่ายพอร์ตเทรตหรือวัตถุที่ไม่อยากเข้าใกล้
  • กล้อง Ultra-wide OV08D10 8MP (f/2.2) – มุมกว้าง 112 องศา เหมาะกับการถ่ายภาพหมู่ สถาปัตยกรรม หรือทิวทัศน์
  • กล้องหน้า Sony IMX615 32MP (f/2.45) – ถ่ายเซลฟี่คมชัด รองรับวิดีโอ 4K 60fps เหมาะกับการไลฟ์สตรีมหรือวิดีโอคอล

Lightning Snap

หัวใจสำคัญของระบบนี้คือ Lightning Snap ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ IMX906 (GT 7) และ IMX896 (GT 7T) ให้ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 1/10266 วินาที 

เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการถ่ายภาพแนวสตรีท เพื่อที่เราจะไม่พลาดในโอกาสสำคัญๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไม่กี่เสี้ยววินาที แต่ด้วยประสิทธิภาพในการรัวชัตเตอร์ของ realme GT 7 ที่สามารถถ่ายภาพได้ถึง 50 ภาพต่อวินาที ทำใ้ห้มีอัตราความสำเร็จที่จะเก็บภาพในโมเมนต์ที่ดีที่สุดมากกว่า 90% เลยทีเดียว

เป็นโหมดที่ช่วยให้เก็บภาพที่มีการเคลื่อนไหว ให้ได้จังหวะโมเมนต์สวยๆ อย่างเช่นคนกำลังปั่นจักรยาน, สุนัขที่กำลังวิ่ง, คนเดิน

Travel Style: 3 สไตล์ที่เข้าใจนักเดินทาง

realme ไม่ได้แค่ให้คุณถ่ายภาพได้เร็ว แต่ยังต้องสวยด้วย! กับ Travel Style ฟิลเตอร์ใหม่ให้มาพร้อม 3 แบบมาเพื่อสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะ:

  • “Mountain” – สำหรับคนรักธรรมชาติ โหมดนี้จะเน้นโทนสีเขียวมรกตของป่าไม้และฟ้าใส ทำให้ภาพถ่ายบนดอย น้ำตก หรือทุ่งหญ้า ดูสดชื่นเหมือนได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ต้นไม้เขียวขจี ท้องฟ้าฉายแสงสวยงาม
  • “Island” – โหมดนี้ถูกสร้างมาเพื่อทะเล โทนสีฟ้าคริสตัลของน้ำทะเลจะใสราวกับมัลดีฟส์ ทรายขาวจะขาวสะอาด ท้องฟ้าจะฟ้าสดใส เหมาะกับการถ่ายภาพริมหาด พระอาทิตย์ตก หรือกิจกรรมทางน้ำ
  • “City” – สำหรับสายสตรีท โหมดนี้เพิ่มคอนทราสต์และความคมชัด ทำให้ตึกระฟ้ามีมิติ ป้ายนีออนสว่างสดใส ผู้คนดูมีชีวิตชีวา เหมาะกับการถ่ายในเมือง ตลาดกลางคืน หรือย่านการค้า

Portrait Snap: พอร์ตเทรตที่ไม่มีพลาด

การถ่ายภาพบุคคลระหว่างเดินทาง สิ่งที่มักเจอบ่อยๆ ก็คือปัญหาแสงย้อน หน้าดำ หรือพื้นหลังไม่สวย Portrait Snap แก้ปัญหานี้ด้วยการผสมผสานความเร็วของ Lightning Snap เข้ากับ AI ที่ฉลาด 

ผลลัพธ์คือภาพพอร์ตเทรตที่ได้ใบหน้าชัดเจน ผิวพรรณสวยงามแบบธรรมชาติ โบเก้พื้นหลังนุ่มนวล ไม่ดูปลอม ปรับแสงอัตโนมัติ แม้ย้อนแสงก็ยังสวย และจับโฟกัสดวงตาได้แม่นยำ แม้มีการเคลื่อนไหว

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ของกล้อง realme GT 7

4K Underwater Video ถ่ายคลิปใต้น้ำได้คมชัด

เพราะว่า realme GT 7 Series ตัวเครื่องมีมาตรฐาน IP69 อยู่แล้ว ทำให้การลงน้ำในระยะไม่เกิน 1.5 เมตรยังมีความปลอดภัย และมีการพัฒนาโหมดสำหรับการกดถ่ายภาพใต้น้ำให้ใช้งานได้ง่าย และเลือกปรับในส่วนของวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K ทำให้คุณเก็บคลิปวิดีโอใต้น้ำได้ชัดมากขึ้น 

ไม่ใช่แค่ความละเอียดที่สูง แต่มีการปรับแต่งสีพิเศษสำหรับใต้น้ำ ช่วยแก้ปัญหาสีเพี้ยนใต้น้ำ ทำให้สิ่งที่ถ่าย วัตถุที่อยู่ใต้น้ำยังคงสีสันสดใส ไม่ติดโทนเขียวหรือฟ้าเกินไป

AI Eraser 2.0 ลบแต่งภาพให้สวยสมบูรณ์มากขึ้น

ถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวแล้วมีคนเดินผ่านพอดี? AI Eraser 2.0 ช่วยได้! แค่วงรอบคนที่ไม่ต้องการ AI จะวิเคราะห์และลบออกอย่างแนบเนียน เหมือนไม่เคยมีใครอยู่ตรงนั้น ใช้ได้ทั้งคน วัตถุ หรือแม้แต่สายไฟที่บดบังวิว

AI Lanscape ถ่ายวิวได้เป๊ะง่ายขึ้น

โหมดถ่ายภาพสายทิวทัศน์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยจะมี Vision Engine วิเคราะห์และปรับแต่งส่วนต่างๆ ในภาพทั้งท้องฟ้า, ตึกอาคาร, ภูเขา, ต้นไม้ ฯลฯ ให้ได้ความคมชัดและคอนทราสต์ที่เหมาะสม พร้อมลบหมอกควันที่ทำให้ภาพดูเบลอออกไปให้ได้อีกด้วย

และยังมีเลือกเปิดตัวช่วยจัดวางมุมภาพให้ได้องค์ประกอบที่เหมาะสม ไม่ว่าเราจะถือเล็งกล้องเองหรือก้มเงยมากเกินไป ภาพจะถูกปรับให้อยู่ในระนาบที่ดีที่สุด ทำให้ composition ของภาพที่ถ่ายออกมาดูดีอย่างง่ายดาย จากภาพที่เป็นมุมเสย จะถูกปรับใหม่ให้เป็นมุมมองแบบตรงที่สวยงามให้ทันที

Cinematic Video 

โหมดวิดีโอสไตล์ภาพยนตร์ที่จะปรับอัตราส่วนภาพให้เป็น 21:9 ที่เป็นสัดส่วนแบบภาพยนตร์ และได้โทนสีแบบหนังและมีระบบกันสั่นพร้อมปรับค่ากล้องระดับโปรได้ทั้งความเร็วชัตเตอร์, EV, โฟกัส, ไวท์บาลานซ์ เหมาะสำหรับคนที่อยากเก็บฟุตเทจสวยๆ เอาไปทำคลิปที่ได้อารมณ์สมจริง

นอกจากนี้ ความสามารถในการถ่ายวิดีโอนั้น กล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K 60fps ส่วนกล้องหลังก็คมชัดสุดถึง 8K 30fps แล้วยังมีปรับเลือกได้ทั้งกันสั่น, HDR Dolby Vision ได้ด้วย จึงเหมาะสำหรับสายคอนเทนต์ที่อยากเก็บคลิปวิดีโอสวยๆ ไปตัดต่อได้แบบมืออาชีพ

AI Enhancement Features

โหมด AI ที่มาช่วยปรับแต่งภาพทิวทัศน์ให้สวยสมบูรณ์แบบมากขึ้น หมดกังวลว่าถ่ายมาแล้วพลาด เพราะ AI จะมาช่วยปรับแต่งแก้ซ่อมแซมให้ได้

  • AI Glare Removal ปัญหาแสงเงาสะท้อนจากกระจกหรือแสง Flare ที่ทำให้ภาพเสีย แก้ได้ด้วยคลิกเดียว! AI จะวิเคราะห์และลบแสงสะท้อนออกอย่างแม่นยำ
  • AI Landscape+ เมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์แล้วมีหมอกหรือภาพขุ่นมัว AI จะช่วยเพิ่มความคมชัด ปรับแสงเงา และแก้ไของค์ประกอบภาพให้สวยงามขึ้น

ด้วยระบบ AI Travel Snap Camera ที่ครบครันนี้ ทำให้ realme GT 7 Series ไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟนสำหรับเกมเมอร์ แต่ยังเป็นเพื่อนคู่ใจของนักเดินทางที่อยากบันทึกทุกความทรงจำให้สวยงามที่สุด!

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ realme GT 7

NEXT AI: ผู้ช่วยอัจฉริยะในทุกการใช้งาน

เมื่อพูดถึง AI ในสมาร์ตโฟน หลายคนอาจนึกถึงแค่การถ่ายรูปสวยขึ้น แต่ realme GT 7 Series ขยับขอบเขตของ AI ไปไกลกว่านั้น ด้วยชุดฟีเจอร์ NEXT AI ที่จะเปลี่ยนวิธีการใช้สมาร์ตโฟนของคุณไปตลอดกาล!

AI Planner: แตะ 2 ครั้ง จัดตารางชีวิตให้เป็นระเบียบ

คุณเคยลืมนัดหมายสำคัญไหม? หรือจำไม่ได้ว่าตั๋วคอนเสิร์ตที่ซื้อไว้เป็นวันไหน? AI Planner คือผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่จะจัดการตารางชีวิตให้คุณ! วิธีใช้ง่ายมาก แค่แตะที่แผงด้านหลังสองครั้ง เมื่อเห็นข้อมูลสำคัญบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น

  • ในแอพแชท – เพื่อนชวนไปกินข้าว หรือมีตารางงานสำคัญ AI จะจดจำบทสนทนา คาดคะเนการตัดสินใจ และสร้างกำหนดการให้โดยอัตโนมัติ
  • ในโซเชียลมีเดีย – หากมีเห็นโปสเตอร์งานคอนเสิร์ตโพสต์แชร์อยู่ เราสามารถสั่งให้ AI ดึงข้อมูลวันเวลาสถานที่สร้างตารางนัดหมายได้ทันที
  • ในอีเมล – เวลาได้รับการยืนยันการจองที่พัก? AI จะดึงข้อมูลทั้งหมด ทั้งชื่อโรงแรม วันเช็คอิน ที่อยู่ แล้วใส่ลงตารางเวลาให้ครบถ้วน

ที่น่าสนใจคือ รองรับการแจ้งเตือนรายวันแบบเฉพาะบุคคล AI จะเรียนรู้พฤติกรรมของคุณและแจ้งเตือนในเวลาที่เหมาะสม ไม่รบกวนเวลาทำงานหรือพักผ่อน

เราได้ทดสอบกับตั๋วจองเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ที่เป็น e-Ticket ส่งมา แค่แตะหลังเครื่อง 2 ครั้งติดกัน ตัว AI Planner จะตรวจข้อมูลที่อยู่ในภาพ แล้วจะถามว่าให้เพิ่มตารางกิจกรรมในปฎิทินเลยมั้ย เป็นฟีเจอร์ที่สะดวกมากๆ เพราะเราไม่ต้องกรอกอะไรเองเลย

AI Gaming Coach โค้ชส่วนตัวสำหรับเกมเมอร์

สำหรับเกมเมอร์สาย PUBG ต้องลอง AI Gaming Coach ที่จะช่วยให้คุณเล่นเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด!

  • Smart Danger Alerts – AI จะสแกนหาภัยคุกคามที่คุณอาจมองข้าม เช่น ศัตรูที่ซ่อนอยู่ในมุมอับ หรือกับระเบิดที่วางไว้ แล้วเตือนให้ระวังทันที
  • In-Game Status Updates – ให้ข้อมูลสำคัญแบบ Real-time เช่น: สถานะอาวุธและกระสุนของเพื่อนร่วมทีม, ความทนทานของอุปกรณ์ที่ใกล้หมด, ความก้าวหน้าของ Safe Zone และการเคลื่อนไหวของศัตรูในระยะใกล้

AI Translator: แปลภาษาได้ทุกรูปแบบ

ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาอีกต่อไป AI Translator รองรับการแปลหลากหลายรูปแบบ:

  • แปลจากภาพหน้าจอ – จับภาพเมนูอาหาร ป้ายบอกทาง แล้วแปลทันที
  • การแปลพร้อมกัน – คุยกับชาวต่างชาติแบบ Real-time
  • การแปลแบบเห็นหน้ากัน – วางมือถือตรงกลาง แต่ละฝ่ายจะเห็นคำแปลในภาษาของตัวเอง

AI Tools 2.0: ผู้ช่วยอัจฉริยะทุกเรื่อง

ความฉลาดของ AI ที่สามารถเข้าใจบริบทของสิ่งที่คุณกำลังทำ และให้คำแนะนำที่เหมาะสม ในงานการเขียนตอบแชทสั้นๆ ด้วยข้อความน่ารัก, เขียนอีเมลที่ปรับภาษาให้เป็นทางการเหมาะสม หรือการเห็นข้อความภาษาอื่นบนหน้าจอ AI ก็ช่วยแปลให้ทันทีโดยไม่ต้องก็อปปี้ไปแปลที่แอปอื่นๆ

รองรับ Google Gemini เต็มรูปแบบ

ด้วยประสิทธิภาพของชิปประมวลผล Dimensity ทั้ง GT 7 และ GT 7T รองรับ Google Gemini Nano2 อย่างสมบูรณ์ ทำให้ AI ทำงานบนอุปกรณ์ได้เร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหา ตอบคำถาม หรือช่วยในงานสร้างสรรค์ต่างๆ และยังพร้อมสำหรับการพัฒนาด้าน AI และฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Google ที่จะมีมาอีกในอนาคต

รีวิว realme GT 7 Dream Edition

รีวิว realme GT 7 Dream Edition ความหรูหราจาก Aston Martin F1

สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Aston Martin หรือหลงใหลในกีฬา Formula One ต้องบอกเลยว่า realme GT 7 Dream Edition คือสมาร์ตโฟนที่คุณรอคอย! นี่คือการร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง realme กับ Aston Martin Aramco Formula One Team ที่ไม่ได้แค่ติดโลโก้ แต่ออกแบบร่วมกันตั้งแต่ต้นจนจบ

ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง F1

จุดเด่นแรกที่สะดุดตาคือ สีเขียว Aston Martin อันเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมากว่า 110 ปี สีนี้ไม่ใช่แค่สีธรรมดา แต่ผ่านการขัดเกลาด้วยชั้นสีถึง 5 ชั้น และปรับแต่งนับร้อยครั้ง จนได้โทนสีที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงตำนานและจิตวิญญาณของแบรนด์

ที่พิเศษกว่านั้นคือ ตราสัญลักษณ์ Silver Wing บนฝาหลัง ผ่านกระบวนการแกะสลัก 3 ชั้น โดยร่องลายปีกแต่ละเส้นมีขนาดเพียง 0.1 มม. แสดงถึงความประณีตและความหรูหราแบบอังกฤษที่ไร้กาลเวลา

ดีไซน์ตัวเครื่องได้แรงบันดาลใจจากเส้นลมความเร็วสูงของรถแข่ง F1 ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ผสานกับผิวสัมผัสแบบ 3 มิติ ให้ความรู้สึกเหมือนถือรถแข่งอยู่ในมือ!

UI พิเศษเฉพาะรุ่น Dream Edition

ไม่ใช่แค่ภายนอกตัวเครื่องที่พิเศษ แต่ UI ก็ถูกปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ตั้งแต่ตัว วอลเปเปอร์แบบเคลื่อนไหว ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถ F1, ไอคอนของแอปต่างๆ ที่ดีไซน์ใหม่และเป็นโทนสีเขียว, เอฟเฟกต์ขณะชาร์จแบตเตอรี่มีลูกเล่นแบบออร่าแห่งพลัง, ภาพอนิเมชันตอนเปิดเครื่องสไตล์ F1 รวมถึงเอฟเฟกต์ไดนามิกของโหมด GT ที่ดูเร้าใจ

และที่สวยงามน่าประทับใจที่สุด ก็คือ ลายน้ำกล้องพิเศษ Aston Martin Aramco F1 Team Edition ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรุ่นนี้เท่านั้น ทำให้การถ่ายภาพพร้อมลายน้ำโชว์ให้ชาวโซเชียลรู้ว่า เรานั้นคือ

Limited Edition Co-Branded Gift Box

ความพิเศษนี้ เด็ดตั้งแต่ตัวแพ็กเกจที่ออกแบบตั้งแต่ตัวกล่องด้านนอกเป็นสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Aston Martin และยังให้ประสบการณ์สุดพิเศษตั้งแต่การเปิดกล่องแบบปีกคู่ ที่ได้แรงบันดาลใจจากโลโก้ Silver Wing และตัวฐานกล่องใส่ตัวสมาร์ตโฟนจะยกตัวลอยขึ้น เพิ่มความรู้สึกพรีเมียมยิ่งขึ้น

อุปกรณ์เสริมในกล่องก็มีความพิเศษเช่นกัน เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ตัวเข็มจิ้มถาดซิมเป็นรูปทรงรถแข่ง F1, สายชาร์จและอะแดปเตอร์ชาร์จที่ปกติจะเป็นสีขาว ในในรุ่นลิมิเต็ดนี้จะเป็นสีดำด้านดูคมเข้ม

ตัวเคสที่แถมมาให้ บอกเลยว่าสวยพรีเมียมมากๆ เป็นสีดำลวดลายคาร์บอนสไตล์รถแข่งให้ผิวสัมผัสที่ดี มีเจาะเพิ่มบริเวณตรงกลาง เผยให้เห็นโลโก้ Silver Wing ที่อยู่ตรงกลางอย่างสวยงาม

สำหรับคนที่รักทีม Aston Martin ต้องชอบแน่นอนกับ Booklet หนังสือเล่มพิเศษที่เล่าถึงความมุ่งมั่นของทั้ง realme และ Aston Martin ในการพัฒนาสู่ความเร็วแรง

สเปคที่จัดเต็มกว่ารุ่นปกติ

ให้สมศักดิ์ศรีความเป็นทีมรถแข่งระดับโลก realme GT 7 Dream Edition มาพร้อม RAM ขนาด 16GB และ ROM 512GB ให้ประสิทธิภาพสูงสุดแบบไร้ขีดจำกัด น้ำหนักตัวเครื่อง 211 กรัม อาจจะหนักขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นปกติเนื่องจากวัสดุพิเศษที่ใช้ ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น Deeply Customized realme UI บน Android 15 ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ

สำหรับใครที่เป็นแฟน Aston Martin, สาย F1, หรือแม้แต่คนที่ชื่นชอบของสะสมรุ่นพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัด realme GT 7 Dream Edition คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนชั้นนำกับดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่งระดับโลก นี่ไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟน แต่คือสัญลักษณ์ของความเร็ว ประสิทธิภาพ และความสมบูรณ์แบบ!

รีวิว realme GT 7T

รีวิว realme GT 7T ตัวเลือกคุ้มค่าสำหรับเกมเมอร์

อีกรุ่นที่น่าสนใจใน realme GT 7 Series เหมาะสำหรับคุณที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ให้ประสบการณ์เกมมิ่งระดับเรือธง ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น realme GT 7T คือคำตอบที่ลงตัว แม้ว่าจะเป็นรุ่นน้องสุดของซีรีส์ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นพี่เลย โดยเฉพาะในแง่ของการเล่นเกมและฟีเจอร์สำคัญๆ

Dimensity 8400-MAX ประสิทธิภาพดีที่สุดในกลุ่ม

ขุมพลังของ realme GT 7T คือชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8400-MAX ที่ทำคะแนน AnTuTu มากกว่า 1,750,000 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนราคานี้ และให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่น่าประทับใจ ผลิตด้วยกระบวนการ TSMC 4nm เช่นเดียวกับรุ่นพี่ ประกอบด้วย

  • 1x Cortex-A725 @ 3.25GHz – แกนประมวลผลหลัก
  • 3x Cortex-A725 @ 3.0GHz – แกนประสิทธิภาพ
  • 4x Cortex-A725 @ 2.1GHz – แกนประหยัดพลังงาน
  • ARM Mali-G720 MC7 – GPU ที่แรงพอสำหรับเกมระดับสูง

ที่น่าสนใจคือสามารถใช้ โมเดล AI เดียวกับ Dimensity 9400 และรองรับ Google Gemini Nano2 เช่นกัน หมายความว่าคุณจะได้ประสบการณ์ AI ที่ทัดเทียมกับรุ่นเรือธง

จุดเด่นที่สุดคือการเป็น ผู้บุกเบิก 1.5K + 120FPS ใน PUBG ใช่ครับ! คุณอ่านไม่ผิด GT 7T สามารถเล่น PUBG ที่ความละเอียด 1.5K พร้อมเฟรมเรต 120FPS ได้ รวมถึงระบบ ระบายความร้อน Airflow VC ก็ไม่แพ้รุ่นพี่ ด้วยขนาด 7,700 ตร.มม. ครอบคลุมพื้นผิว 65% ช่วยให้เล่นเกมได้นานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องร้อน

ฟีเจอร์เด่นจัดมาให้เหมือนรุ่นพี่

เรียกได้ว่า realme GT 7T ถึงจะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็คุ้มค่าสุดๆ เพราะได้ฟีเจอร์สำคัญจากรุ่นพี่มาแบบครบครันมากๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • แบตเตอรี่ไททัน 7000mAh + ชาร์จเร็ว 120W ชาร์จ 14 นาทีได้ 50%, เต็ม 100% ใน 40 นาที พร้อม Smart Bypass สำหรับเล่นเกมพร้อมชาร์จ
  • IceSense Design พร้อมกราฟีน จัดการนำความร้อนดีขึ้น 26 เท่า สัมผัสเย็นสบายเหมือนรุ่นพี่
  • จอภาพ 6.80 นิ้ว AMOLED 120Hz – แม้ความสว่างสูงสุดจะอยู่ที่ 1800 nits (ไม่ถึง 6000 nits แบบรุ่นพี่) แต่ก็ยังรองรับ HDR10+ และมี sampling rate สูงสุด 360Hz เหมือนกัน
  • กล้อง AI Travel Snap – กล้องหลัก Sony IMX896 50MP ถ่ายภาพได้สวยด้วยระบบ Lightning Snap และ Travel Style 3 โหมดเหมือนรุ่นพี่ แถมยังมี 4K Underwater Video ด้วย แต่จะไม่มีโหมด AI Landscape มาให้
  • AI Planner และฟีเจอร์ AI ต่างๆ – สร้างตารางเวลาให้อัตโนมัติ, มี AI Gaming Coach, AI Translator ครบครันเหมือนรุ่นพี่ทุกอย่าง
  • มาตรฐาน IP69 – กันน้ำกันฝุ่นระดับสูงสุดเช่นกัน
รีวิว realme GT 7T

realme GT 7T จะมีสีให้เลือกคือ IceSense Black, IceSense Blue และ Racing Yellow (เป็นรุ่นพิเศษที่หนักขึ้นเล็กน้อยที่ 205 กรัม) พร้อมตัวเลือกความจุ 12GB+256GB และ 12GB+512GB

เมื่อดูจากสเปคและฟีเจอร์ทั้งหมด realme GT 7T คือตัวเลือกที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับคนที่อยากได้ประสบการณ์เกมมิ่งระดับเรือธง แบตเตอรี่อึดทนทาน และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างกราฟีน แต่ไม่ต้องจ่ายแพงเท่ารุ่นท็อป ถือเป็น “The Segment’s Most Powerful Flagship” อย่างแท้จริง!

รีวิว realme GT 7 Series

สรุป รีวิว realme GT 7 Series ดีสมศักดิ์ศรี “นักฆ่าเรือธงแห่งปี 2025” หรือไม่?

จากที่เราได้ทดสอบลองใช้งานในทั้งสามรุ่นในซีรีย์นี้ สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของ realme GT 7 Series คือการที่ทุกรุ่นได้รับฟีเจอร์สำคัญส่วนใหญ่แบบเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ไททัน 7000mAh ที่ชาร์จเต็มใน 40 นาที, IceSense Design ที่ใช้กราฟีนเป็นครั้งแรกในโลก, ชุดฟีเจอร์ NEXT AI ที่ครบครัน รวมถึงความสามารถในการถ่ายวิดีโอใต้น้ำ 4K และมาตรฐานกันน้ำ IP69 ระดับสูงสุด

ดังนั้นเรื่องของสเปคความแรงในแต่ละรุ่นจะมีลดหลั่นกันบ้างตามประสิทธิภาพของชิปเซ็ตและ RAM แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ทำได้กับราคาค่าตัวและสมาร์ตโฟนในระดับเดียวกันในตลาด ถือว่าทำได้ดีกว่าในหลายๆ ด้าน โดยที่โดดเด่นมากก็คือ ความเสถียรของการเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ด้วยการนำเอากราฟีน วัสดุกระจายความร้อนมาช่วยเสริมช่วยให้อุณภูมิสะสมในเครื่องลดลง ทำให้การทำงานได้ไหลลื่น และการถือจับก็ยังสบายมือด้วย

การถ่ายภาพที่ครั้งนี้สร้างความประหลาดใจไม่น้อย กับการมาเน้นเรื่องของการถ่าย Landscape ที่ทำออกมาได้ว้าว จากประสบการณ์ที่ได้ลองไปถ่ายที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เราได้ความสนุกในการถ่ายภาพทิวทัศน์ต่างๆ ที่เก็บภาพออกมาได้สวยโดยแทบไม่ต้องเล็ง ตัวโหมดกล้องจัดการด้านองค์ประกอบให้ได้จุดที่เหมาะสม และยังมีโหมดสีภาพให้เลือกที่น่าสนใจ

ส่วนการถ่ายภาพ Portrait ต่างๆ ก็ทำได้ดีไม่เสียชื่อเรียลมี แถมยังมีโหมดใหม่ๆ มาเสริมในการแต่งแก้ไขภาพด้วย AI ช่วยให้ไม่ต้องกังวลว่าถ่ายภาพมาแล้วอาจไม่สมบูรณ์ เรามาเลือกปรับแต่งอย่างลบคน, ลบสิ่งของ, ลบเงาสะท้อน ฯลฯ ได้ง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่คลิก

รีวิว realme GT 7

realme GT 7 Series เลือกรุ่นไหนดีที่เหมาะกับคุณ?

สำหรับ realme GT 7 นั้นเหมาะกับคนที่ต้องการสุดยอดประสิทธิภาพโดยไม่มีข้อจำกัด ด้วยชิปเซ็ต Dimensity 9400e ที่แรงที่สุดใน Android ณ ขณะนี้ มันตอบโจทย์เกมเมอร์ตัวจริงที่ต้องการเฟรมเรตสูงสุดในทุกเกม หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ตัดต่อวิดีโอ 4K หรือ 8K บนมือถือเป็นประจำ จอภาพความสว่าง 6000 nits ยังทำให้มองเห็นชัดเจนแม้ใช้งานกลางแดงจัด และสำหรับช่างภาพ การมีกล้อง Telephoto 2X ช่วยให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตและวัตถุระยะไกลได้อย่างมีคุณภาพ

ขณะที่ realme GT 7 Dream Edition ถูกสร้างมาสำหรับคนที่หลงใหลในความพิเศษและการออกแบบ การร่วมมือกับ Aston Martin Aramco F1 Team ทำให้มันไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟน แต่เป็นงานศิลปะที่ใช้งานได้ สีเขียว Aston Martin ที่ผ่านการขัดเกลา 5 ชั้น และตราสัญลักษณ์ Silver Wing ที่แกะสลักอย่างประณีต สะท้อนถึงมรดกของแบรนด์รถยนต์หรูระดับตำนาน นอกจากนี้ RAM ขนาด 16GB ยังทำให้มันเหมาะกับผู้ใช้งานหนักที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในทุกด้าน

ส่วน realme GT 7T คือคำตอบสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มค่า แม้จะเป็นรุ่นน้อง แต่ก็ได้รับฟีเจอร์สำคัญมาแบบครบครัน ชิปเซ็ต Dimensity 8400-MAX ที่รองรับ PUBG ความละเอียด 1.5K พร้อมเฟรมเรต 120FPS ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ที่มีงบจำกัด การที่ได้เทคโนโลยีกราฟีน แบตเตอรี่ 7000mAh และชาร์จเร็ว 120W เหมือนรุ่นพี่ ยิ่งตอกย้ำความคุ้มค่าที่หาได้ยากในตลาด

รีวิว realme GT 7

สรุปแล้ว realme GT 7 Series จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรดสมาร์ตโฟนธรรมดา แต่เป็นการนิยามใหม่ของสมาร์ตโฟนสายเกมมิ่งที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ด้วยนวัตกรรมครั้งแรกของโลกหลายอย่าง ทั้งการใช้กราฟีนในการออกแบบ, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ชาร์จเร็วที่สุด, และ AI ที่ฉลาดอย่างน่าทึ่ง ทำให้มันกลายเป็นสมาร์ตโฟนที่แรง เย็น อึด และฉลาด พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน

นี่คือการพิสูจน์ว่า realme พร้อมก้าวขึ้นมาท้าทายวงการสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ด้วยการให้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นเกมเมอร์ นักถ่ายภาพ หรือผู้ใช้ทั่วไป เราเชื่อว่า realme GT 7 Series มีคำตอบที่เหมาะสมสำหรับทุกคน

ราคา realme GT 7 Series วางจำหน่ายในประเทศไทย

  • realme GT 7T ความจุ 12+256GB ราคา 17,999 บาท
  • realme GT 7 ความจุ 12+512GB ราคา 22,999 บาท
  • realme GT 7 Dream Edition ความจุ 16+512GB ราคา 24,999 บาท

สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 27-30 พฤษภาคมและเป็นเจ้าของได้พร้อมกันในวันที่ 31 พฤษภาคม ได้ตามช่องทางดังนี้

  • ช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อาทิ Banana, BKK, Cyberkong, Kingkong Phone, IT City, TG, Jaymart, Stamp, Advice และ Singer
  • ช่องทางเครือข่ายโอเปอร์เรเตอร์ True, Dtac และ AIS
  • ช่องทางอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ Tiktok Shop (สำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ซจำหน่ายวันแรกในวันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป)

พิเศษสำหรับรุ่น realme GT 7 Dream Edition สามารถเป็นเจ้าของได้เฉพาะช่องทาง Shopee และ realme Brand Shop ตามสาขาที่กำหนดเท่านั้น

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

การออกแบบ
100
ฟีเจอร์การใช้งาน
90
ประสิทธิภาพ
90
กล้อง
85
ความคุ้มค่า
85
Reader Rating0 Votes
0
จุดเด่น
แบตเตอรี่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W เต็มใน 40 นาที
ใช้กราฟีนระบายความร้อน นำความร้อนดีขึ้น 26 เท่า
ชิปสำหรับการเล่นเกม Dimensity 9400e และ Dimensity 8400-MAX
หน้าจอสว่างสุดถึง 6000nits
ฟีเจอร์ AI ให้มาครบ มีของใหม่ AI Planne
กล้องโหมดถ่าย Landscape ใช้ง่ายถ่ายสนุก
ข้อสังเกต
ไม่มีกล้องเทเลโฟโต้ใน GT 7T
RAM 16GB มีเฉพาะในรุ่น Dream Edition
90

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.