Qualcomm ฉลองความสำเร็จครบรอบ 1 ปี ของแพลตฟอร์ม Snapdragon X Series ที่ได้เปลี่ยนโฉมวงการคอมพิวเตอร์พีซี โดย Cristiano Amon ประธานและซีอีโอของ Qualcomm ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน COMPUTEX 2025 เพื่อเน้นย้ำถึงความสำเร็จนับตั้งแต่การเปิดตัวแพลตฟอร์มดังกล่าว
Snapdragon X Series ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของคอมพิวเตอร์พีซีในยุค AI โดย Qualcomm ระบุว่านี่เป็นหนึ่งในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลกระทบมากที่สุดในช่วง 40 ปีของการสร้างนวัตกรรมของบริษัท และช่วยฟื้นฟูความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพให้กับระบบนิเวศ Windows
ความร่วมมือกับ Microsoft เป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จนี้ โดย Satya Nadella ซีอีโอและประธานของ Microsoft กล่าวว่า “Microsoft และ Qualcomm มีประวัติความร่วมมือและนวัตกรรมที่ยาวนาน และในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้นำเสนอคอมพิวเตอร์ Windows ระดับใหม่ที่สร้างขึ้นสำหรับ AI โดยเฉพาะ Copilot+ PC กำลังเปลี่ยนแปลงผลิตภาพและความคิดสร้างสรรค์ในชีวิตการทำงาน”
ปัจจุบัน มีแพลตฟอร์มที่ใช้ Snapdragon X Series มากกว่า 85 รุ่นที่วางจำหน่ายหรืออยู่ในขั้นตอนการพัฒนาในทุกระดับราคา และคาดว่าจะมีมากกว่า 100 รุ่นที่จะเปิดตัวในปีหน้า คอมพิวเตอร์เหล่านี้มาพร้อมกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานหลายวัน และประสิทธิภาพการทำงานที่ช่วยเพิ่มผลิตภาพและความคิดสร้างสรรค์ด้วย AI
Qualcomm ยังเผยว่าขณะนี้มีแอปพลิเคชันมากกว่า 750 รายการที่ทำงานบน Snapdragon X Series รวมถึงแอปยอดนิยม 200 อันดับแรกของโลก นอกจากนี้ ยังมีเกมมากกว่า 1,400 เกมที่รองรับแพลตฟอร์มนี้ และที่น่าตื่นเต้นคือเกม Fortnite จะมาสู่ Snapdragon X Elite ในช่วงปลายปีนี้
บริษัทมองว่า AI กำลังกลายเป็นส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) รูปแบบใหม่ โดย Snapdragon X Series พร้อมรองรับประสบการณ์ในวันพรุ่งนี้ และจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการส่งมอบอนาคตอัจฉริยะ ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในงาน Snapdragon Summit ในฤดูใบไม้ร่วงนี้
นอกจากการมุ่งเน้นที่ AI บนอุปกรณ์แล้ว Qualcomm ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ NVIDIA ในงาน Computex เพื่อนำเทคโนโลยี CPU ขั้นสูงของพวกเขามาใช้กับแพลตฟอร์ม AI แบบครบวงจรของ NVIDIA สำหรับโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทในการขยายบทบาทไปสู่ศูนย์ข้อมูลนอกเหนือจากอุปกรณ์ปลายทาง
ข้อมูลจาก : Qualcomm
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
