Meta Marketing Summit 2025

Meta เผยเทรนด์การใช้ AI เพื่อธุรกิจไทยพร้อมเปิดตัวโซลูชันล่าสุด

Meta เปิดเผยเทรนด์การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อธุรกิจในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวโซลูชันใหม่ล่าสุดในงาน Meta Marketing Summit 2025 มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตให้ธุรกิจไทยทุกขนาดในยุคดิจิทัล

ข้อมูลจากรายงานล่าสุดของ Meta ร่วมกับ Deloitte ระบุว่า 77% ของธุรกิจไทยได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในกระบวนการดำเนินงาน โดยใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า 69% และการหาลูกค้าใหม่ 51% แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของภาคธุรกิจไทยในการรับนวัตกรรมเทคโนโลยี

ธุรกิจไทยก้าวไกลด้วยนวัตกรรม AI จาก Meta

แพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า “Meta เชื่อในศักยภาพของ AI ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจทุกขนาด งาน Meta Marketing Summit ในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมมือกับธุรกิจไทย และส่งมอบเครื่องมือและความรู้ในการใช้ AI ให้เป็นประโยชน์ในการยกระดับการบริการลูกค้า ปรับปรุงการดำเนินงาน และสร้าง ROI ได้อย่างมีนัยสำคัญ”

Meta Marketing Summit 2025

Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่อย่าง Opportunity Score ที่ช่วยให้ธุรกิจประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญแบบเรียลไทม์ภายใน Ads Manager จากการทดสอบในช่วงแรกพบว่าช่วยลด Cost Per Lead (CPL) ได้เฉลี่ย 14%

ในขณะเดียวกัน Advantage+ Sales Campaigns ที่ใช้ AI มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนประสิทธิภาพในการช่วยธุรกิจสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้น การวิจัยระบุว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้จ่ายใน Advantage+ Shopping Campaigns สามารถสร้างผลตอบแทน (ROAS) ถึง 4.52 ดอลลาร์โดยเฉลี่ย

เทรนด์การใช้งาน AI ที่น่าจับตามองในปี 2568

การใช้งาน AI ในภาคธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย Meta ได้ระบุเทรนด์สำคัญ 5 ประการ ได้แก่

  1. การเชื่อมต่อในวงกว้าง: การลงทุนด้าน AI ของ Meta เปลี่ยนแปลงวิธีที่ธุรกิจเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานประจำวันกว่า 3.4 พันล้านคน ปัจจุบันเนื้อหาบน Instagram ถึง 50% เป็นเนื้อหาที่แนะนำโดย AI
  2. การตลาดที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น: ด้วยชุดเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Meta ทำให้นักการตลาดสามารถสร้างเนื้อหาที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น ในไตรมาสที่ผ่านมา มีผู้ลงโฆษณาใช้เครื่องมือสร้างสรรค์ด้วย AI เพิ่มขึ้นถึง 30%
  3. การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ: AI ช่วยนักการตลาดขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญแบบเรียลไทม์และจับคู่โฆษณากับกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะมีส่วนร่วมมากที่สุด
  4. Conversion ที่คุ้มค่ามากขึ้น: วิดีโอสินค้าจากแคตตาล็อกและโฆษณาพาร์ตเนอร์ช่วยยกระดับประสิทธิภาพ นำไปสู่ Conversion ที่เพิ่มขึ้น 20% และลดต้นทุนต่อการได้ลูกค้าใหม่ลง 19%
  5. การสร้างเนื้อหา: เครื่องมือ Generative AI ของ Meta ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านเวลา ทรัพยากร และผลลัพธ์ ด้วยความสามารถในการสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลาย

Meta AI พร้อมใช้งานแล้วในประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ Meta ให้ความสำคัญกับการเปิดตัวเครื่องมือและโซลูชัน AI ล่าสุด โดยล่าสุดได้ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชัน Meta AI ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแอป AI ที่พัฒนาขึ้นมาต่างหากจากแพลตฟอร์มอื่นของ Meta สร้างขึ้นด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model – LLM)

ขณะนี้ Meta AI ติดตั้งอยู่บนแอปพลิเคชัน WhatsApp, Messenger, Facebook, Instagram และแอปพลิเคชันอื่นๆ ของ Meta อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผู้ช่วย AI ได้ทุกที่และทุกเวลา โดย Meta AI ได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมากกว่าผู้ช่วยเสมือนรายอื่นๆ มีผู้ใช้งานประจำเดือนกว่า 1 พันล้านคนทั่วทั้งกลุ่มแอปพลิเคชันในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568

ในอนาคตอันใกล้ Meta AI จะเพิ่มฟีเจอร์การวางแผนการเดินทางและการสรุปบทความและเอกสารที่มีเนื้อหายาวให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจประเด็นสำคัญจากบทความข่าวสาร งานวิจัย หรือกระทู้โซเชียลมีเดียที่มีความยาวได้ทั้งหมดภายในแพลตฟอร์ม Meta ที่พวกเขาคุ้นเคย

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.