HUAWEI ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ PC แรกที่พัฒนาขึ้นเองอย่างเป็นทางการ บนพื้นฐานของ HarmonyOS 5 (หรือ HarmonyOS NEXT) นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการขยายแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยประกาศในงาน HarmonyOS Computer Technology and Ecosystem Communication Event ในประเทศจีน โดยบริษัทได้อธิบายระบบนี้ว่าเป็น “One as All, All as One”
HUAWEI อ้างว่า HarmonyOS 5 มอบประสบการณ์ที่ราบรื่น เพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI ผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะ Xiaoyi ระบบนี้รองรับการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อกับ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อปของ HUAWEI นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ภายนอกได้มากกว่า 1,000 ชิ้นใน 20 หมวดหมู่ ครอบคลุมทั้งอุปกรณ์มาตรฐาน 800 รายการ (เช่น คีย์บอร์ด และจอภาพ) และอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน 250 รายการ (เช่น เครื่องพิมพ์ และเครื่องสแกน)

อินเทอร์เฟซที่ครบครันและการปรับแต่งที่หลากหลาย
อินเทอร์เฟซของ HarmonyOS 5 โดดเด่นด้วยการเปลี่ยนจากหน้าจอล็อคสู่เดสก์ท็อปอย่างราบรื่น มีวอลเปเปอร์แบบไดนามิก แอปเป็นชั้น และสามารถปรับแต่งไอคอน วิดเจ็ต และแถบงานได้ตามใจชอบ เพิ่มเติมด้วยเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหว การเรนเดอร์แสงและเงา และภาพที่ใช้หลักการแรงโน้มถ่วงที่ช่วยเสริมการปรับแต่ง UI
การรองรับการใช้งานด้วยท่าทางมีจุดเด่นที่การปัดนิ้วสามนิ้วสำหรับมัลติทาสกิ้ง ส่วนเอนจิน Ark กราฟิกช่วยให้การเรนเดอร์เป็นไปอย่างราบรื่นด้วย Fangtian Window และการเลือกคัดตรวจจับการบดบังระดับพิกเซล ทำให้การแสดงผลมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

Xiaoyi ผู้ช่วย AI ที่ทรงพลัง
Xiaoyi รองรับการทำงานด้วยเสียง ข้อความ และรูปภาพ โดยมีความสามารถมากมาย เช่น:
- แยกและแปลข้อความ/ตารางจากรูปภาพใน 21 ภาษา
- สร้างเทมเพลต งานนำเสนอ แผนผังความคิด และคู่มือการเดินทาง
- จัดเตรียมการถอดความและสรุปการประชุมแบบเรียลไทม์
- ช่วยแก้ไขปัญหาอุปกรณ์และจัดรูปแบบอัจฉริยะสำหรับ PPT
ความสามารถเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งาน PC อย่างลงตัว ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์หลากหลาย
HarmonyOS PC รองรับ “การเชื่อมต่อในทุกสถานการณ์” ด้วยคุณสมบัติอย่างการส่งต่อแอป คลิปบอร์ดร่วม การลากและวางหน้าต่างหลายอย่าง และการแสดงผลแบบมิเรอร์สกรีน ผู้ใช้สามารถแชร์คีย์บอร์ด/เมาส์และเลื่อนเคอร์เซอร์ระหว่างอุปกรณ์ด้วยการเคลื่อนไหวของดวงตา
HUAWEI Share ช่วยให้การถ่ายโอนไฟล์ได้อย่างรวดเร็วด้วยความเร็วสูงสุดถึง 160MB/วินาที พร้อมรองรับการทำงาน 4 งานพร้อมกัน ซึ่งช่วยให้การทำงานข้ามอุปกรณ์เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในระดับสูง
ระบบนี้สร้างบนสถาปัตยกรรม StarShield ช่วยลดช่องโหว่ลง 50% ข้อมูลได้รับการปกป้องด้วยการเข้ารหัสระดับระบบและการตรวจสอบหน้าจอล็อค โดยแอปต่างๆ ต้องผ่านการตรวจสอบยืนยันชื่อจริงเพื่อการแสดงรายการ
คุณสมบัติความปลอดภัยยังรวมถึงการให้สิทธิ์ข้อมูลแบบครั้งเดียว ข้อจำกัดการแชร์ไฟล์ หน้าจอป้องกันการแอบมอง และ “โหมดความเป็นส่วนตัวพิเศษ” เครื่องมือ “Star Flash Find” ยังช่วยค้นหาอุปกรณ์แม้ว่าจะปิดเครื่องและรองรับการลบข้อมูลจากระยะไกล
ระบบนิเวศแอปพลิเคชัน
ระบบนิเวศ HarmonyOS มีแอปที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ PC มากกว่า 150 แอป พร้อมแอปสากลอีกกว่า 2,000 แอปที่ครอบคลุมการทำงาน การออกแบบ การเงิน การศึกษา และความบันเทิง
ด้วย HarmonyOS Base ซึ่งรวมเครื่องมืออย่าง ArkTS, ArkUI และ DevEco ผู้ใช้จะได้รับประสิทธิภาพที่เหมาะสม การเปิดใช้แอปที่เร็วขึ้น และการผสานรวมแบบไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์

คุณสมบัติหลักในภาพรวม
- กราฟิก: ประสิทธิภาพของหน้าต่างหลายหน้าต่างที่ราบรื่นขึ้น 32% ด้วยเอนจิน Ark
- ความปลอดภัย: StarShield + การระบุตำแหน่งอุปกรณ์จากระยะไกลและการลบข้อมูล
- การถ่ายโอน: HUAWEI Share รองรับการแชร์ความเร็วสูง 160MB/วินาที
- แอป: App Dock ในตัวรวมถึง การตั้งค่า แกลเลอรี App Store บันทึก และอื่นๆ
- UI: ท่าทาง วิดเจ็ต วอลเปเปอร์ และการเปลี่ยนผ่านที่ปรับแต่งได้
ทางหัวเว่ยได้ประกาศว่า PC รุ่นแรกที่ใช้ HarmonyOS จะเปิดตัวในจีนวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 เวลา 14:30 น. โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน
การเปิดตัว HarmonyOS สำหรับ PC ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ HUAWEI ในการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างระบบนิเวศของตัวเอง นับเป็นก้าวที่น่าจับตามองของวงการเทคโนโลยี และสะท้อนให้เห็นศักยภาพของเทคโนโลยีจีนที่สามารถพัฒนาระบบปฏิบัติการระดับโลกได้ด้วยตัวเอง ผู้ที่สนใจเทคโนโลยีควรติดตามความเคลื่อนไหวของ HUAWEI อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่พลาดการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นและอาจเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ในอนาคต
ข้อมูลจาก : Fonearena และ Huawei Central
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
