เอชพี ประเทศไทย ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญด้วยการเปิดตัวกลยุทธ์คู่ขนานที่มุ่งเสริมศักยภาพทั้งในแง่เทคโนโลยีและเศรษฐกิจไทย ผ่านกลยุทธ์ One HP ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และโครงการ Made in Thailand ที่ยืนยันการมีฐานผลิตในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบรับกับความท้าทายในโลกการทำงานยุคใหม่
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI และรูปแบบการทำงานแบบไฮบริด เอชพี จึงวางแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ผ่านการลงทุนในการผลิตภายในประเทศ
กลยุทธ์ One HP: รากฐานของอนาคตแห่งการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI
การทำงานในยุคปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการทักษะดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น หรือความคาดหวังในเรื่องความยืดหยุ่นของการทำงาน เอชพี จึงได้พัฒนากลยุทธ์ One HP ที่เน้นการผสานเทคโนโลยีแบบไร้รอยต่อ เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานและองค์กรธุรกิจ
กลยุทธ์ OneHP คือการนำเสนอพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อกันอย่างครบวงจรโดยใช้ศักยภาพของ AI ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่พีซี, เครื่องพิมพ์, อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ (เช่น Poly และ HyperX), ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งนี้ช่วยมอบประโยชน์แก่ผู้ใช้งานใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
เทคโนโลยีของ เอชพี ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกันได้อย่างชาญฉลาด ตัวอย่างเช่น เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์การประชุม Poly เข้ากับพีซีของ เอชพี ระบบจะปรับมุมกล้องและมุมมองของหน้าจอให้สอดคล้องกับผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายในการประชุมออนไลน์
ระบบอัจฉริยะเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำงานราบรื่นมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวม ทำให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานสำคัญแทนที่จะต้องกังวลกับการตั้งค่าอุปกรณ์
การบริหารจัดการต้นทุนอย่างคุ้มค่า
สำหรับองค์กรธุรกิจ การลงทุนในเทคโนโลยีไม่ใช่เพียงแค่การซื้ออุปกรณ์ แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและสนับสนุนตลอดอายุการใช้งาน เอชพี จึงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนลูกค้าองค์กรตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้งไปจนถึงวันสิ้นสุดการใช้งานผลิตภัณฑ์
บริการเหล่านี้รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ การออกแบบฟีเจอร์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับองค์กร และบริการสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ IT และเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนด้านเทคโนโลยี
การรักษาความปลอดภัยในระดับมืออาชีพ
ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความปลอดภัยของข้อมูลและระบบจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร เอชพี จึงได้ผสานเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเข้าไปในผลิตภัณฑ์และบริการทุกประเภท เพื่อให้การทำงานมีความปลอดภัยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือใช้อุปกรณ์ใด
โครงการ Made in Thailand: ยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่เวทีโลก
ความเคลื่อนไหวสำคัญอีกประการหนึ่งของ เอชพี คือการประกาศอย่างเป็นทางการว่าบริษัทมีฐานผลิตในประเทศไทย โดยจัดตั้งเป็นโครงการ “Made in Thailand” หรือ “HP ดีต่อไทย” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของ เอชพี ที่มีต่อประเทศไทย
โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นสำหรับ เอชพี เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตภายในประเทศ รวมถึงมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางสังคมและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
เสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีของไทย
หนึ่งในจุดเน้นหลักของโครงการ Made in Thailand คือการผลิตผลิตภัณฑ์พีซีและเครื่องพิมพ์ด้วยมาตรฐานระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับความสามารถในการผลิตของประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีให้แก่บุคลากรไทยอีกด้วย
การถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้จาก เอชพี ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศไทย และเปิดโอกาสให้คนไทยได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะในด้านการผลิตและเทคโนโลยีสมัยใหม่
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย
อีกหนึ่งแกนหลักของโครงการนี้คือการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผ่านการสร้างอาชีพและยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการผลิตที่มีความเป็นเลิศ
การลงทุนของ เอชพี ในการผลิตภายในประเทศไทยจะช่วยสร้างงานให้กับคนไทยทั้งในด้านการผลิตโดยตรงและในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตที่มีคุณภาพสูงสำหรับเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
มุ่งสู่ความยั่งยืนผ่านการผลิตในประเทศ
ด้านที่สามของโครงการมุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืน โดย เอชพี ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการผลิตและขนส่งภายในประเทศ รวมถึงกระบวนการจัดหาวัตถุดิบและการรีไซเคิลที่ยั่งยืน
การผลิตในประเทศช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งผลิตภัณฑ์ระยะไกล และเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาระบบการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในประเทศไทย สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จและวิสัยทัศน์ของบริษัทว่า “ปี 2567-68 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จของเอชพี ประเทศไทย พวกเราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกท่านและยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรภายใต้กลยุทธ์ One HP พร้อมพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งและหลากหลายซึ่งตอบโจทย์ทั้งการทำงานแบบไฮบริดและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของลูกค้า สำหรับในอนาคต เอชพี ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นผู้นำอนาคตแห่งการทำงาน ไม่เพียงด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ครบรอบด้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพของคนไทยและเศรษฐกิจประเทศไทยผ่านความร่วมมือภายในประเทศด้วย”
ด้าน ดร. อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความเห็นว่า “การตัดสินใจตั้งฐานผลิตที่ประเทศไทยของเอชพีแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจประเทศไทย และความมุ่งมั่นที่จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของไทย การสร้างอาชีพ พัฒนาทักษะคนทำงาน และยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญบนเวทีโลก พร้อมสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติของไทยในการก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงภายในปี พ.ศ. 2580”
ฉลองการเปิดตัว Made in Thailand ด้วยแคมเปญพิเศษ
เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวโครงการ “Made in Thailand” เอชพี เตรียมนำเสนอแคมเปญสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการจากร้านค้าปลีกที่ร่วมกิจกรรม
ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ HP Made in Thailand ตามเงื่อนไขที่กำหนด จะได้รับสิทธิพิเศษในการขยายระยะเวลารับประกันเพิ่มเติมอีก 1 ปี พร้อมลุ้นรับรางวัลพิเศษผ่านการชิงโชค เพื่อร่วมทริปสุดพิเศษ สัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทย ทั้งด้านวัฒนธรรมและการบริการอย่างเหนือระดับ
การริเริ่มเหล่านี้ของ เอชพี ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวในการมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ตอกย้ำความเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่าง เอชพี และประเทศไทยที่จะเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ข้อมูลจาก : HP Thailand
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
