China Telecom Quantum Group ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาระบบเข้ารหัสควอนตัมแบบกระจายเชิงพาณิชย์รายแรกของโลกที่ต้านทานการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้
ระบบดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของระบบเข้ารหัสแบบดั้งเดิม ซึ่งมีความเสี่ยงจากอัลกอริทึมใหม่ที่ทรงพลังในยุคควอนตัมคอมพิวติ้ง โดยรวมเทคโนโลยีสองแนวทางเข้าด้วยกัน คือ การกระจายกุญแจควอนตัม (Quantum Key Distribution) เพื่อส่งกุญแจเข้ารหัสผ่านกลศาสตร์ควอนตัมอย่างปลอดภัย และการเข้ารหัสแบบหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography) เพื่อป้องกันข้อมูลด้วยอัลกอริทึมทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน
เผิง เฉิงจือ นักวิทยาศาสตร์ควอนตัมหัวหน้าของ China Telecom และศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งจีน เน้นย้ำว่าระบบเข้ารหัสที่ใช้กุญแจสาธารณะในปัจจุบันจะเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นเมื่อเทคโนโลยีการคำนวณควอนตัมก้าวหน้าขึ้น จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ต้านทานควอนตัม
บริษัทอธิบายว่าระบบใหม่นี้มีสถาปัตยกรรมสามชั้นที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้ผ่านการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงและพร้อมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง นับเป็นก้าวสำคัญสู่การสื่อสารที่ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีควอนตัม
China Telecom ได้สร้างเครือข่ายพื้นที่มหานครควอนตัมใน 16 เมืองใหญ่ของจีน รวมถึงเหอเฝย์ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางโจว เพื่อสร้างโครงข่ายระดับประเทศสำหรับการสื่อสารที่ปลอดภัยด้วยควอนตัม โดยเครือข่ายควอนตัมเหอเฝย์ได้รับการยกย่องว่าเป็นเครือข่ายควอนตัมที่ใหญ่และก้าวหน้าที่สุดในโลก มีโหนดหลัก 8 แห่งและจุดเชื่อมต่อ 159 จุด ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 713 ไมล์ของเส้นใยกระจายกุญแจควอนตัม ปัจจุบันให้บริการหน่วยงานรัฐบาลราว 500 แห่งและรัฐวิสาหกิจ 380 แห่ง
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัว Quantum Secret แพลตฟอร์มข้อความด่วนและการทำงานร่วมกันที่ปลอดภัยด้วยควอนตัมสำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาล และ Quantum Cloud Seal แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยสำหรับแอปพลิเคชันสำคัญ เช่น การอนุมัติของรัฐบาล การตรวจสอบทางการเงิน และการจัดการขั้นตอนการทำงานขององค์กร ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหลายอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันความปลอดภัยระดับควอนตัมในโลกดิจิทัลปัจจุบัน
ข้อมูลจาก : Interesting Engineering
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
