ASUS ยืนหนึ่งแฟล็กชิป AI PC ในงาน Computex 2025 พร้อมส่งมอบนวัตกรรมล้ำสมัยที่จะเปลี่ยนวิถีการทำงานและใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ทั่วโลก เปิดตัวกลยุทธ์ “Ubiquitous AI. Incredible Possibilities” หรือ AI ที่อยู่ทุกที่ เพื่อมอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยนำเสนอโซลูชัน AI ครบวงจรตั้งแต่การทำงานประจำวัน การเรียนการสอน ไปจนถึงงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ
ASUS ขึ้นแท่นผู้นำด้วยกลยุทธ์ AI ที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน
ASUS ประกาศตำแหน่งผู้นำในตลาด AI PC ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี AI ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน แนวคิด “Ubiquitous AI” มุ่งเน้นการนำ AI มาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นในสำนักงาน บ้าน หรือระหว่างเดินทาง
กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับไลฟ์สไตล์ให้สมาร์ทขึ้น โดยการใช้ประโยชน์จาก AI ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานประจำวันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ASUS ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เข้าถึงและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
การเปิดตัวในงาน Computex 2025 ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ ASUS ในการแสดงจุดยืนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม AI PC ที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ในปี 2025

โน้ตบุ๊ก Copilot+ PCs พลิกโฉมการทำงานยุคใหม่
ในงาน Computex 2025 ทาง ASUS ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊ก AI PC ในซีรีส์ Zenbook และ Vivobook ที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์ล่าสุดจากพาร์ทเนอร์ชั้นนำ ได้แก่ AMD Ryzen AI, Intel Core Ultra และ Qualcomm Snapdragon X series ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสพลัง AI ผ่านฟีเจอร์ล่าสุดของ Copilot+
ฟีเจอร์เด่นของ Copilot+ ได้แก่ Recall ที่ช่วยจำและค้นหาข้อมูลจากกิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ Click to Do ที่ทำให้การใช้งานเป็นเรื่องง่าย และ Generative Fill & Erase ใน Paint ที่ช่วยแก้ไขภาพได้อย่างชาญฉลาด ฟีเจอร์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้การทำงานประจำวันเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ความพิเศษของโน้ตบุ๊ก AI PC คือการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการใช้งานจริง ทำให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแค่คำโฆษณาชวนเชื่อ
ผู้ช่วยเสมือนจริง OMNI ปฏิวัติการทำงานแบบออฟไลน์
นวัตกรรมที่น่าสนใจที่สุดจาก ASUS คือผู้ช่วยเสมือนจริง OMNI หรือแชทบอท AI ที่สามารถโต้ตอบและช่วยสรุปเอกสาร ถอดเสียง พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาไฟล์ได้อย่างแม่นยำ
OMNI เหมาะสำหรับการจดประชุมและการเรียนการสอน เนื่องจากสามารถประมวลผลเอกสารและเสียงได้แบบเรียลไทม์ ที่สำคัญคือฟีเจอร์เหล่านี้สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญในด้านความสะดวกและการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
การทำงานแบบออฟไลน์ของ OMNI ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูล โดยไม่ต้องส่งข้อมูลไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ทำให้ข้อมูลสำคัญอยู่ในการควบคุมของผู้ใช้เท่านั้น
ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เทคโนโลยีชั้นนำ
ASUS ร่วมมือกับ Intel นำเสนอ Intel AI Playground และแอปพลิเคชันขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง Skylum Luminar Neo และ Canvid เพื่อยกระดับการสร้างสรรค์งานบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ทั้ง Series 1 และ 2
แอปพลิเคชันเหล่านี้เป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ ASUS ในการพัฒนาความสามารถของ AI สำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย ตั้งแต่เหล่านักสร้างสรรค์ที่ใช้งานส่วนบุคคล ไปจนถึงระดับองค์กร
การร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเอโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งของ ASUS ในการผลักดันเทคโนโลจี AI PC ให้เป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม

ASUS Zenbook A14 พกพาสะดวก แบตเตอรี่อึดทน
ASUS Zenbook A14 (UX3407) กำหนดนิยามใหม่ของประสิทธิภาพการทำงานแบบพกพา ด้วยน้ำหนักที่เบาเหลือเชื่อไม่ถึง 1 กิโลกรัม เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เน้นการพกพาและต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง
โน้ตบุ๊กรุ่นนี้มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Snapdragon Series ที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ Copilot+ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่น่าประทับใจคือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้กว่า 32 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งอย่างแท้จริง
ด้านการออกแบบยังเน้นความมินิมอลและเรียบหรู พร้อมวัสดุ Ceraluminum™ ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ให้ทั้งความทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วน และรอยเปื้อนได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เครื่องดูใหม่และสวยงามตลอดการใช้งาน

ASUS Vivobook S14 ผู้ช่วย AI ในชีวิตประจำวัน
ASUS Vivobook S14 (S3407QA) เป็นโน้ตบุ๊ก Copilot+ PC ที่ออกแบบมาเป็นผู้ช่วย AI ในชีวิตประจำวัน ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon X พร้อม NPU สูงสุดกว่า 45 TOPS ที่ช่วยให้การสร้างสรรค์งานเป็นเรื่องชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น
โน้ตบุ๊กรุ่นนี้เหมาะสำหรับทั้งการเรียน การทำงาน และด้านบันเทิง ด้วยตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเบา 1.35 กิโลกรัม บางเพียง 1.59 เซนติเมตร และสามารถใช้งานได้ตลอดวันกว่า 30.5 ชั่วโมง
ผู้ใช้สามารถเลือกหน้าจอตามการใช้งาน ได้แก่ หน้าจอความคมชัด 16:10 FHD OLED หรือ 2.5K IPS พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ที่มอบประสบการณ์การฟังที่เหนือระดับ ทำให้การใช้งานทั้งทำงานและบันเทิงเป็นเรื่องเพลิดเพลินยิ่งขึ้น

ProArt P16 ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ
ส่งมอบพลังแห่งการสร้างสรรค์สู่โน้ตบุ๊กตระกูล ProArt ที่ผสานรวมอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทันสมัยกับแอปพลิเคชัน AI เอกสิทธิ์เฉพาะ เพื่อมอบประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงสุดและปลดล็อกพลังแห่งการสร้างสรรค์
ProArt P16 (H7606) เป็นโน้ตบุ๊กแห่งการสร้างสรรค์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะใช้งานในสตูดิโอหรือขณะเดินทาง มาพร้อมการ์ดจอ NVIDIA Studio อย่าง GeForce RTX 50 Series Laptop GPU และโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ที่ให้ความสามารถในการประมวลผล AI กว่า 50 TOPS
ด้านการแสดงผล ProArt P16 มาพร้อมหน้าจอ OLED ที่ให้ค่าสีแม่นยำ เหมาะสำหรับงานกราฟิกและการตัดต่อวีดีโอ พร้อมพอร์ทเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับสายงานครีเอเตอร์ และ RAM ความเร็วสูง LPDDR5X ทำงานที่ 7,500MHz ขนาด 64 GB ให้ผู้ใช้ทำงานไฟล์ความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดาย
แม้จะมีสมรรถนะสูง แต่ตัวเครื่องยังคงมาพร้อมดีไซน์บางเบาเพียง 14.9 มิลลิเมตร หนัก 1.8 กิโลกรัม และผ่านมาตรฐานความทนทานทางทหาร การ์ดจอ NVIDIA อันทรงพลังยังช่วยเร่งความเร็วเอฟเฟกต์และเครื่องมือ AI ในแอปพลิเคชันสำหรับงานสร้างสรรค์และการตัดต่อวีดีโอ อย่าง DaVinci Resolve และ Adobe Premiere Pro
แอปพลิเคชัน AI เฉพาะสำหรับครีเอเตอร์
โน้ตบุ๊ก ProArt ทุกรุ่นมาพร้อมแอปพลิเคชัน AI สำหรับนักสร้างสรรค์ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน Muse Tree ช่วยเปลี่ยนไอเดียเป็นภาพได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหล่าครีเอเตอร์สามารถยกระดับพลังแห่งการสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ โดยยังสามารถใช้งานได้แบบออฟไลน์อีกด้วย
StoryCube ช่วยจัดการข้อมูลดิจิทัล ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการไฟล์ภาพ โดยได้รับการพัฒนาเพิ่มความสามารถในการค้นหาผ่านตัวอักษร รวมถึงเครื่องมือเพิ่มความคมชัดภาพและลบวัตถุที่ไม่ต้องการ ช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
GlideX เป็นโซลูชันการแชร์และควบคุมหน้าจอข้ามอุปกรณ์ที่ได้รับการอัปเกรดด้วยเช่นกัน สามารถสตรีมและปรับภาพคมชัดได้แบบเรียลไทม์ ทำให้การทำงานข้ามอุปกรณ์เป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสุด
การผสานรวม Windows Copilot Runtime API
ASUS เดินหน้าตามเทรนด์ AI ด้วยการนำ Windows Copilot Runtime API ของ Microsoft มาใช้กับซอฟแวร์สร้างสรรค์ที่พัฒนาขึ้นเอง เช่น StoryCube และ GlideX เพื่อเพิ่มคุณสมบัติและมอบประโยชน์เพิ่มเติมให้กับผู้ใช้
การผสานรวมบนแพลตฟอร์ม ARM นี้จะสามารถทดลองใช้งานฟีเจอร์อย่าง Text Recognition การรู้จำตัวอักษร Image Super Resolution การเพิ่มความคมชัดภาพ และ Image Segmentation การแบ่งส่วนภาพได้อีกด้วย
ความร่วมมือกับ Microsoft ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ASUS ในการสร้างระบบนิเวศที่ครบครันสำหรับผู้ใช้ AI PC และการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของเทคโนโลยี AI
การวางจำหน่ายในประเทศไทย
ASUS Zenbook A14 (UX3407), Vivobook S14 (S3407CA) ในรุ่นโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra (Series 2) รุ่น D3407 โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 5 220 และ ProArt P16 (H7606) มีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ ASUS Thailand Facebook หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ASUS ในงาน Computex 2025 ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุค AI และยืนยันตำแหน่งของ ASUS ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
