Apple ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติช่วยการเข้าถึง (Accessibility) ใหม่หลายรายการที่จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการทางสายตา การได้ยิน การเคลื่อนไหว หรือผู้มีความบกพร่องด้านพัฒนาการ
Tim Cook CEO ของ Apple กล่าวว่า “ที่ Apple การช่วยการเข้าถึงเป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของเรา การทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้สำหรับทุกคนคือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ และเรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้แบ่งปันนวัตกรรมใหม่ๆ ในปีนี้”
Accessibility Nutrition Labels เพิ่มข้อมูลแอปบน App Store
Apple เปิดตัว Accessibility Nutrition Labels บน App Store ที่จะแสดงข้อมูลด้านการช่วยการเข้าถึงของแอปและเกมอย่างละเอียด ช่วยให้ผู้ใช้ทราบตั้งแต่ก่อนดาวน์โหลดว่าสามารถเข้าถึงแอปนั้นได้หรือไม่ โดยระบุว่าแอปนั้นรองรับคุณสมบัติใดบ้าง เช่น VoiceOver การสั่งการด้วยเสียง ข้อความตัวใหญ่ คอนทราสต์ที่เหมาะสม ลดการเคลื่อนไหว คำบรรยาย และอื่นๆ
Eric Bridges ประธานและ CEO ของ American Foundation for the Blind กล่าวว่า “Accessibility Nutrition Labels ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับการช่วยการเข้าถึง ผู้บริโภคควรมีสิทธิ์ได้รับข้อมูลตั้งแต่แรกว่าพวกเขาจะเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นได้หรือไม่”
แอปแว่นขยายและ Accessibility Reader สำหรับผู้มีปัญหาด้านการมองเห็น
แอปแว่นขยายซึ่งเคยมีให้ใช้งานบน iPhone และ iPad ตั้งแต่ปี 2016 จะมาสู่ Mac เพื่อช่วยให้ผู้มีสายตาเลือนรางมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับกล้องของผู้ใช้ ซูมดูสิ่งรอบตัวได้อย่างชัดเจน เช่น หน้าจอหรือกระดานไวท์บอร์ด
นอกจากนี้ แอปแว่นขยายยังทำงานร่วมกับคุณสมบัติกล้องต่อเนื่องบน iPhone รวมถึงกล้อง USB ที่เชื่อมต่อกับ Mac ผู้ใช้สามารถทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ด้วยหน้าต่างถ่ายทอดสดหลายหน้าต่าง และปรับมุมมองให้เหมาะกับตนเองได้ ซึ่งรวมถึงการปรับความสว่าง คอนทราสต์ ฟิลเตอร์สี หรือมุมมองภาพ
Apple ยังเปิดตัว Accessibility Reader โหมดการอ่านใหม่ที่ครอบคลุมทั้งระบบ ออกแบบสำหรับผู้ใช้ที่มีภาวะดิสเล็กเซียหรือมีสายตาเลือนราง ใช้งานได้บน iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งข้อความและโฟกัสกับเนื้อหาที่ต้องการอ่านได้ง่ายขึ้นด้วยตัวเลือกแบบอักษร สี และระยะห่างระหว่างบรรทัด
Braille Access และคุณสมบัติสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
Braille Access เป็นประสบการณ์ใหม่ที่เปลี่ยน iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro ให้กลายเป็นเครื่องจดโน้ตอักษรเบรลล์ครบวงจร ผู้ใช้สามารถเปิดแอปใดก็ได้อย่างง่ายดายผ่านการพิมพ์ด้วยคุณสมบัติการป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอหรืออุปกรณ์เบรลล์ที่เชื่อมต่ออยู่
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถจดโน้ตและคำนวณด้วย Nemeth Braille ซึ่งเป็นรหัสเบรลล์ที่นิยมใช้ในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ รวมถึงเปิดไฟล์ในรูปแบบ Braille Ready Format (BRF) ได้โดยตรง
สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน การควบคุมคุณสมบัติฟังสดมาอยู่บน Apple Watch แล้ว พร้อมคำบรรยายสดแบบเรียลไทม์ คุณสมบัติฟังสดจะเปลี่ยน iPhone ให้กลายเป็นไมโครโฟนระยะไกลเพื่อส่งเสียงไปยัง AirPods, อุปกรณ์รับฟัง Made for iPhone หรือหูฟัง Beats โดยตรง
เมื่อใช้งานคุณสมบัติฟังสดบน iPhone ผู้ใช้จะสามารถดูคำบรรยายสดบน Apple Watch ที่จับคู่ไว้ และสามารถควบคุมเซสชั่นฟังสดได้จากอีกฝั่งของห้องโดยไม่ต้องลุกออกจากที่ประชุมหรือระหว่างเรียน
การปรับปรุงสำหรับ Apple Vision Pro และ visionOS
visionOS จะขยายขีดความสามารถในการช่วยการเข้าถึงด้านการมองเห็นสำหรับผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมีสายตาเลือนรางด้วยการใช้ระบบกล้องของ Apple Vision Pro การอัปเดตคุณสมบัติซูมช่วยให้ผู้ใช้ซูมดูสิ่งต่างๆ และสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่ใช้ VoiceOver คุณสมบัติสังเกตรอบตัวบน visionOS จะใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์เพื่ออธิบายสิ่งรอบตัว ค้นหาวัตถุ อ่านเอกสาร และอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ Apple ยังจะเปิด API ใหม่ให้แอปที่ได้รับอนุมัติสามารถเข้าถึงกล้องหลัก เพื่อให้ความช่วยเหลือแบบตัวต่อตัวในการตีความภาพแบบเรียลไทม์
การปรับปรุงคุณสมบัติที่มีอยู่และคุณสมบัติใหม่
Apple ได้ปรับปรุงคุณสมบัติที่มีอยู่และเพิ่มคุณสมบัติใหม่หลายรายการ ได้แก่:
- เสียงเบื้องหลังที่ปรับแต่งได้ง่ายขึ้นด้วยการตั้งค่า EQ แบบใหม่ และตัวเลือกให้หยุดเสียงอัตโนมัติ
- เสียงส่วนตัวที่เร็วขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น ด้วยการใช้การเรียนรู้ของระบบและปัญญาประดิษฐ์บนอุปกรณ์ พร้อมรองรับภาษาสเปน (เม็กซิโก) เพิ่มเติม
- จุดนำสายตาเมื่ออยู่บนรถซึ่งช่วยลดอาการเมารถระหว่างโดยสารยานพาหนะ จะพร้อมใช้งานบน Mac
- การติดตามดวงตาบน iPhone และ iPad ที่เพิ่มตัวเลือกการกดสวิตช์หรือการอยู่นิ่งเพื่อสั่งการ
- การติดตามศีรษะที่ช่วยให้ควบคุม iPhone และ iPad ได้ง่ายขึ้นผ่านการเคลื่อนไหวของศีรษะ
- โหมดช่วยเหลือการเข้าถึงที่มาพร้อมแอป Apple TV แบบปรับแต่งใหม่
- Music Haptics บน iPhone ที่ปรับแต่งได้มากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์ดนตรีผ่านการสั่น
- การจำเสียงที่เพิ่มคุณสมบัติ Name Recognition ช่วยให้ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีความบกพร่องทางการได้ยินรู้ได้เมื่อมีคนเรียกชื่อ
- การสั่งการด้วยเสียงที่เพิ่มโหมดการเขียนโปรแกรมแบบใหม่ใน Xcode และเพิ่มภาษาใหม่อีกหลายภาษา
- คำบรรยายสดที่เพิ่มการรองรับภาษามากขึ้น รวมถึงภาษาอังกฤษหลายสำเนียง จีนกลาง กวางตุ้ง สเปน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมัน และเกาหลี
- Share Accessibility Settings ที่ช่วยให้แชร์การตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงไปยังอุปกรณ์เครื่องอื่นได้อย่างรวดเร็วและชั่วคราว
การเฉลิมฉลองวันตระหนักรู้ถึงการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม
Apple จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันตระหนักรู้ถึงการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม (Global Accessibility Awareness Day) หลากหลายรูปแบบ:
- Apple Retail เปิดพื้นที่เฉพาะเพื่อจัดแสดงคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงในร้านค้าที่ร่วมรายการตลอดเดือนพฤษภาคม
- Apple Music แบ่งปันเรื่องราวของศิลปิน Kiddo K และพลังของ Music Haptics ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ดนตรีให้กับผู้ใช้ที่หูหนวก
- Apple TV+ นำเสนอเบื้องหลังภาพยนตร์ Deaf President Now! ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองของผู้พิการทางการได้ยิน
- App Store นำเสนอคอลเลกชั่นแอปและเกมที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้
- แอปคำสั่งลัดเพิ่มคำสั่งลัด “Hold That Thought” เพื่อช่วยบันทึกไอเดียโดยไม่เสียสมาธิ
ข้อมูลจาก Apple
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
