AIS เดินหน้าภารกิจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ด้วยการประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรจากหน่วยงานรัฐ ได้แก่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ กสทช. ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” ชูโมเดล 3 ประสาน เรียนรู้-ร่วมแรง-เร่งมือ มุ่งเชิญชวนกว่า 100 องค์กรร่วมตัดวงจรมิจฉาชีพตั้งแต่ต้นทาง
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องการปกป้องประชาชนจากภัยทางเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ โดยมุ่งสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและปลอดภัยในการใช้งานดิจิทัลทุกมิติ

ภาครัฐตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการรับมือภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชน โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติได้เดินหน้าทำงานเชิงรุกผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่
- กำหนดและพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- สร้างความร่วมมือและประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ
- ยกระดับความมั่นคงระดับประเทศ
การทำงานดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และขจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านการดำเนินการทั้งในเชิงนโยบาย เชิงปฏิบัติ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ซึ่งรวมถึงมาตรการซีลชายแดนเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การแก้ไขกฎหมายควบคุมบัญชีม้า-ซิมม้า และบูรณาการการทำงานร่วมกับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน
นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้ายกระดับนโยบายความปลอดภัยทางไซเบอร์สู่ระดับชาติ และบูรณาการกับทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อร่วมสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นภารกิจร่วมของทุกคนในประเทศ

สถิติน่ากังวล: ความเสียหายจากภัยไซเบอร์ทะลุ 8.9 หมื่นล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยสถิติที่น่าตกใจว่า จากการแจ้งความออนไลน์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 – 30 เมษายน 2568 มีคดีออนไลน์เกิดขึ้นถึง 887,315 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 8.9 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยความเสียหายสูงถึง 77 ล้านบาทต่อวัน
ภัยไซเบอร์ที่คนไทยต้องเผชิญมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถูกหลอกให้โอนเงินผ่านแอปพลิเคชันปลอม การถูกดูดเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว หรือแม้แต่การถูกล้วงข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางมิชอบ ซึ่งล้วนสร้างความเสียหายทั้งด้านข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สิน จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขในทุกมิติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าปราบปรามภัยไซเบอร์เชิงรุก
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการเชิงรุกในทุกด้าน ทั้งการป้องกัน ปราบปราม และพัฒนาโครงสร้างการทำงานให้สอดรับกับพฤติกรรมอาชญากรรมยุคใหม่ โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร. เพื่อรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และเปิดปฏิบัติการเชิงรุก
ศปอส.ตร. ได้นำเทคโนโลยี AI และระบบวิเคราะห์ธุรกรรมมาใช้ในการติดตามเส้นทางการเงินของขบวนการอาชญากร นอกจากนี้ยังร่วมมือกับภาคีเครือข่าย รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AIS เพื่อเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันและขยายผลสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง

AIS ชูภารกิจ “Cyber Wellness for THAIs” กับโมเดล 3 ประสาน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ใช้งานสู่โลกออนไลน์ AIS มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์และทักษะออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ภารกิจ “Cyber Wellness for THAIs” โดยดำเนินการในหลายด้าน เช่น
- ปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐในการควบคุมระดับเสาสัญญาณมือถือในพื้นที่ชายแดน
- ร่วมปฏิบัติการกับตำรวจลงพื้นที่ปราบปรามมิจฉาชีพและแก๊งคอลเซ็นเตอร์
- พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น บริการสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center และบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร
- สร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาทักษะดิจิทัลให้ประชาชนผ่านหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์
- พัฒนาตัวชี้วัดสุขภาวะด้านดิจิทัล




นายสมชัย ย้ำว่า การสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ไม่ใช่หน้าที่ขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย ความร่วมมือภายใต้ภารกิจ “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” ในครั้งนี้เป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วน โดยใช้โมเดล 3 ประสาน ได้แก่
- เรียนรู้ (Educate) – สร้างความเข้าใจและทักษะในการป้องกันภัยไซเบอร์ให้กับเครือข่ายทั้ง Ecosystem เพื่อยับยั้งปัญหาดังกล่าวตั้งแต่ต้นทาง
- ร่วมแรง (Collaborate) – ผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมสื่อสารและสร้างแรงขับเคลื่อนสังคม
- เร่งมือ (Motivate) – รณรงค์ให้ทุกภาคส่วนขับเคลื่อนกฎระเบียบ หรือกติกา แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
แนวทางทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นสังคมดิจิทัลที่มั่นคงและปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นายสมชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “เมื่อทุกภาคส่วนมีความรู้ ความเข้าใจ และจุดมุ่งหมายร่วมกัน จะนำไปสู่การสร้างสังคมดิจิทัลที่มีคุณภาพและปลอดภัยในทุกมิติ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้เดินหน้าร่วมกันต่อไป เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยของประชาชนคนไทยทุกคน”

ความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อคนไทยปลอดภัยในโลกไซเบอร์
ความร่วมมือระหว่าง AIS กับภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 100 องค์กรในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและรุนแรงขึ้นทุกวัน
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ปัจจุบัน AIS ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีลูกค้ารวมกว่า 50.8 ล้านราย ครอบคลุมทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่บนโครงข่าย 5G, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS 3BB FIBRE3, บริการลูกค้าองค์กร และบริการดิจิทัลต่างๆ
การร่วมกันผลักดัน “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” ของ AIS จึงเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ขององค์กรในการเป็น Cognitive Tech-Co ที่ไม่เพียงสนับสนุนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์อีกด้วย
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok