Acer เปิดตัวแล็ปท็อปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Predator Triton 14 AI พร้อมกับ Predator Helios Neo 14 AI และเดสก์ท็อป Predator Orion 3000 ที่มาพร้อมกับขุมพลังล่าสุดจาก Intel และการ์ดจอซีรีส์ GeForce RTX 50 จาก NVIDIA ที่งาน Computex 2025
อุปกรณ์ทั้งหมดไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่เกมเมอร์ แต่ยังรองรับนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ มืออาชีพด้านงานสร้างสรรค์ และนักศึกษา ด้วยการผสมผสานระหว่างพลัง ความพกพา และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย
นวัตกรรมการระบายความร้อนที่เป็นที่แรกของวงการ
Predator Triton 14 AI เป็นแล็ปท็อปเครื่องแรกในอุตสาหกรรมที่ใช้วัสดุ graphene thermal interface materials (TIM) บน CPU เพื่อช่วยในการระบายความร้อน โดยให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูงกว่าวัสดุระบายความร้อนแบบดั้งเดิมถึง 14.5%
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพัดลมโลหะ AeroBlade 3D รุ่นที่ 6 ที่อ้างว่าเป็นใบพัดระบายความร้อนที่บางที่สุดในโลกด้วยความหนาเพียง 0.05 มม. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้มากกว่าพัดลมพลาสติกถึง 20% ทำงานร่วมกับระบบ Vortex Flow ของ Acer ที่ช่วยระบายความร้อนไปยังส่วนประกอบสำคัญและป้องกันการเกิดจุดร้อน
สเปคทรงพลังในดีไซน์บางเบา
แล็ปท็อปรุ่นนี้มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 9 processor 288V และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5070 Laptop GPU พร้อม DLSS 4 และไดรเวอร์ NVIDIA Studio ที่เหมาะสำหรับเวิร์กโฟลว์งานสร้างสรรค์และความเสถียรสูงสุดในการตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการไลฟ์สตรีม
ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม และมีความหนาเพียง 17.31 มม. ทำจากอลูมิเนียมที่ทั้งเบาและทนทาน พร้อมเคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือที่ตัวเครื่องและหน้าจอ
จอภาพคุณภาพระดับมืออาชีพ
จอภาพ OLED WQXGA+ (2880 x 1800) ขนาด 14.5 นิ้ว ที่ผ่านการรับรองจาก Calman รองรับ 100% DCI-P3 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานถ่ายภาพและตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ มาพร้อมกับความละเอียดสูง คอนทราสต์ลึก ความแม่นยำสีสูง อัตรารีเฟรช 120Hz และเวลาตอบสนอง 1ms ทำให้ทุกเฟรมราบรื่นและทุกรายละเอียดคมชัด
จอภาพยังรองรับการสัมผัสด้วยนิ้วมือ ช่วยเพิ่มการโต้ตอบผู้ใช้และความสะดวกสบาย รองรับท่าทางง่ายๆ เช่น การซูมเข้า การปัดและแตะ การเลื่อนหน้า หรือการสลับระหว่างงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสร้างสรรค์

นวัตกรรมทัชแพดและปากกาสำหรับงานสร้างสรรค์
Predator Triton 14 AI มาพร้อมกับทัชแพด Corning Gorilla Glass แบบ haptic ขนาดใหญ่ไร้ปุ่มที่รองรับปากกาสไตลัส ปากกาที่มาในชุดรองรับโปรโตคอล AES 2.0, USI 2.0 และ MPP 2.5 พร้อมระดับแรงกด 4,096 ระดับ รองรับการเอียงปากกา และแรงกดปลายปากกาที่ตอบสนองที่ 10-450 กรัม
ระบบสัมผัสแบบ haptic จำลองความรู้สึกสัมผัส ให้ข้อมูลป้อนกลับทางกายภาพเมื่อกด ช่วยเพิ่มความแม่นยำและทำให้การโต้ตอบรู้สึกตอบสนองและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งระบบสัมผัสตามความต้องการส่วนตัวได้
ฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยด้วย AI
มืออาชีพด้านงานสร้างสรรค์จะชื่นชอบความสะดวกและความปลอดภัยที่มาพร้อมกับ Human Presence Detection (HPD) ด้วย AI Vision Sensor ในเว็บแคมของแล็ปท็อป สามารถตรวจจับเมื่อมีคนอยู่หน้าแล็ปท็อปและเปิดใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง เช่น การเข้าสู่ระบบ การปลุกระบบ ลดความสว่างหน้าจอเมื่อผู้ใช้มองไปที่อื่น หรือล็อคอุปกรณ์เมื่อไม่มีคนอยู่
คีย์บอร์ดและการเชื่อมต่อ
แล็ปท็อปรุ่นนี้มาพร้อมกับคีย์บอร์ด RGB แบบปรับแต่งได้ตามปุ่ม ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่สดใสและความสวยงามของอุปกรณ์ PredatorSense ให้การควบคุมแบบเรียลไทม์เหนือประสิทธิภาพของระบบและทำให้ง่ายต่อการสลับระหว่างโหมดการทำงานที่แตกต่างกันทั้ง 4 โหมด
การเชื่อมต่อ Intel Killer Wi-Fi 7 มอบการเชื่อมต่อความเร็วสูงและความหน่วงต่ำมาก และ Thunderbolt 4 ให้การถ่ายโอนข้อมูลและการชาร์จที่รวดเร็วเพื่อการทำงานหลายอย่างได้อย่างราบรื่น

Predator Helios Neo 14 AI – พลังเกมมิ่งพกพา
Acer ยังได้เปิดตัวแล็ปท็อปเกมมิ่ง Predator Helios Neo 14 AI ที่รองรับ Intel Core Ultra 9 processor 285H และ NVIDIA GeForce RTX 5070 Laptop GPU พร้อม DLSS 4 มาพร้อมหน้าจอ OLED 2.8K WQXGA+ (2880 x 1800) ขนาด 14.5 นิ้ว อัตราส่วน 16:10 พร้อมเวลาตอบสนอง 0.2 ms และรองรับ 100% ของสเปคสี DCI-P3

Predator Orion 3000 – เดสก์ท็อปเกมมิ่งทรงพลัง
เดสก์ท็อปเกมมิ่ง Predator Orion 3000 ได้รับการออกแบบชาสซีใหม่ ด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 7 processor 265F และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5070 GPU เหมาะสำหรับนักเกมที่ต้องการพีซีขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงมีพื้นที่ภายในเพียงพอสำหรับการระบายความร้อนที่เชื่อถือได้ ความสามารถในการขยาย และฮาร์ดแวร์ระดับไฮเอนด์
ราคาและการวางจำหน่าย
Predator Triton 14 AI จะมีจำหน่ายในยุโรปในเดือนกรกฎาคม เริ่มต้นที่ 2,999 ยูโร Predator Helios Neo 14 AI จะมีจำหน่ายในยุโรปในเดือนกรกฎาคม เริ่มต้นที่ 1,699 ยูโร Predator Orion 3000 จะมีจำหน่ายในยุโรปในเดือนกรกฎาคม เริ่มต้นที่ 1,099 ยูโร และในออสเตรเลียในไตรมาสที่ 3 เริ่มต้นที่ 4,499 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
