ทรูมันนี่ ผู้ให้บริการการเงินดิจิทัลชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ แอสเซนด์ บิท ผู้ให้บริการเทคโนโลยีบล็อกเชนชั้นนำ ขยายความร่วมมือด้านความยั่งยืน ประกาศจับมือกับ บริษัท วรุณา จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนคาร์บอนอย่างยั่งยืน ในกลุ่มบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) เปิดตัวโครงการนำร่องคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ผ่านแอปทรูมันนี่
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสานต่อบริการซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนผ่านโครงการที่พัฒนาภายใต้มาตรฐาน T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) โดยตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งานแอปทรูมันนี่ซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนจำนวน 5,800 ตันคาร์บอน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 386,000 ต้น (ข้อมูล ณ 20 เมษายน 2568)
ผู้ใช้งานสามารถสนับสนุนการปลูกป่าไม้ไทยผ่านโครงการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ครอบคลุมพื้นที่ป่าในจังหวัดแพร่ ได้แก่ สวนป่าขุนแม่คำมี สวนป่าวังชิ้น และสวนป่าแม่ยม-แม่แปง โดยมีองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นเจ้าของโครงการและ บริษัทวรุณา เป็นผู้พัฒนาโครงการ
นายอภินันท์ ดาบเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซนด์ บิท จำกัด และผู้อำนวยการฝ่ายการเติบโตของวอลเล็ทแพลตฟอร์ม บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมันนี่ และ แอสเซนด์ บิท ภายใต้เครือ แอสเซนด์ กรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะ เชื่อมโยงและสนับสนุนคนไทยในด้านความยั่งยืน โดยล่าสุด เราได้ร่วมมือกับ วรุณา เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทรูมันนี่ มีส่วนร่วมในการร่วมลดคาร์บอนผ่านโครงการป่าไม้ในไทย ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิตผ่านแอปทรูมันนี่ได้อย่างง่าย ๆ และโปร่งใสเพราะสามารถตรวจสอบได้”
ด้าน นางสาวพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วรุณา จำกัด กล่าวว่า “วรุณา มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนอนาคตสีเขียวที่ยั่งยืน และสร้างประโยชน์สูงสุดต่อพื้นที่เกษตรและป่าไม้รวมถึงสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ความร่วมมือกับทรูมันนี่ และแอสเซนด์ บิท ในครั้งนี้จะช่วยให้คนไทยเข้าถึงการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมได้ในวงกว้างผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่แล้ว พร้อมร่วมผลักดันการลดก๊าซเรือนกระจก สู่เป้าหมาย SDG 13 Climate Action และร่วมรักษ์โลกไปด้วยกัน”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อคาร์บอนเครดิตผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 39 บาทสำหรับโครงการในไทย โดยเลือกแพ็กเกจได้ตามต้องการ (1, 3, 10, 30 หรือ 90 วัน) ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้บนเครือข่ายบล็อกเชนสาธารณะ (Polygon) ในรูปแบบ NFT เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://tmn.app.link/CARBON_CREDIT
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok