แบตเตอรี่สมาร์ตโฟน

ผลสำรวจเผย คนจะเริ่มกังวล มองหาที่ชาร์จ เมื่อแบตเตอรี่สมาร์ตโฟนเหลือ 38%

ผลการวิจัยจาก Talker Research ที่สำรวจผู้ใช้สมาร์ตโฟน 2,000 คนในสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่เริ่มกังวลและมองหาที่ชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 38% โดยประมาณหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามจะรอจนกระทั่งได้รับการแจ้งเตือนแบตเตอรี่เหลือน้อย (20% หรือต่ำกว่า) และมีเพียง 13% ที่ยอมรอจนแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 10%

ที่น่าสนใจคือ มีความแตกต่างระหว่างช่วงวัย โดยกลุ่ม Gen Z จะรีบหาที่ชาร์จเร็วกว่าคนรุ่น Millennial, Gen X และ Boomer โดยเริ่มชาร์จตั้งแต่แบตเตอรี่เหลือประมาณ 44% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนที่เรียกว่า “ABC” (Always Be Charging) ซึ่งเริ่มชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่แบตเตอรี่เหลือ 60% ในขณะที่บางคนสามารถใช้งานต่อไปได้แม้แบตเตอรี่เหลือเพียง 1% โดยไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด

แทนที่จะกังวลเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 38% ผู้ใช้สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ด้วยเทคนิคง่ายๆ สำหรับ iPhone แนะนำให้ลดความสว่างหน้าจอ เปิดโหมดประหยัดพลังงาน ปิดการทำงานของแอปพลิเคชันในเบื้องหลัง และปรับการแจ้งเตือนให้น้อยลง

ส่วนผู้ใช้ Android สามารถลดความสว่างหน้าจอ ใช้ Dark Mode ปิดการสั่นและเสียงคีย์บอร์ด เปิดโหมดประหยัดพลังงาน และตั้งค่าให้แอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานเข้าสู่โหมดพักเพื่อประหยัดพลังงาน

แบตเตอรี่สมาร์ตโฟน

ปัจจุบันระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android ใช้ AI และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อจัดการอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่บางครั้งแบตเตอรี่จะไม่ชาร์จถึง 100% เพื่อรักษาสุขภาพแบตเตอรี่ในระยะยาว

นอกจากเทคนิคต่างๆ แล้ว การพกสายชาร์จ อะแดปเตอร์ และแบตเตอรี่สำรองติดตัวไว้ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผู้ใช้สบายใจได้ว่าจะไม่มีวันหมดแบตเตอรี่ในเวลาที่ต้องการใช้งาน

ข้อมูลจาก TechRadar

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.