TechOffside เรามี รีวิว สำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนสเปกดีที่เน้นเรื่องแบตเตอรี่ความจุใหญ่เพื่อการใช้งานยาวนาน แต่ยังต้องการเครื่องที่บางเบา ดีไซน์สวย และนี่คือ vivo V50 Lite ที่จะเป็นคำตอบให้คุณได้ เพราะ vivo ได้นำเสนอสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดในซีรีส์ V ที่มาพร้อมกับสโลแกน “แบตอึด จนขอท้า” ซึ่งถือเป็นการท้าทายอย่างจริงจังด้วยแบตเตอรี่ BlueVolt ขนาดใหญ่ 6500mAh ที่ให้การใช้งานยาวนาน แต่ยังคงรักษาความบางของตัวเครื่องไว้ได้อย่างน่าทึ่ง
ไม่เพียงแค่แบตเตอรี่อึดเท่านั้น vivo V50 Lite ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยหรู ทันสมัย ในสามเฉดสีใหม่ที่โดดเด่น โดยเฉพาะสี Titanium Gold ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและหรูหรา นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์กล้องที่ได้รับการอัปเกรดด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX882 ความละเอียด 50MP พร้อมระบบ AI อัจฉริยะที่ช่วยให้การถ่ายภาพสวยงามและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
และที่พิเศษไปกว่านั้น ยังมีคู่หูอย่าง vivo Watch GT สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่ใช้ดีไซน์หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมเป็นครั้งแรก ให้ความรู้สึกคลาสสิก และแน่นอนเรื่องแบตเตอรี่ก็ดีถึงใจ ใช้งานได้ยาวนานถึง 21 วัน รวมถึงฟีเจอร์การติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายที่ครบครัน ทำให้เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับ vivo V50 Lite ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบถ้วน

สเปค vivo V50 Lite
ก่อนจะเริ่ม รีวิว vivo V50 Lite เรามาดุสเปคเบื้องต้นทั้งหมดของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้กันก่อน
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว (หน้าจอแบน), ความละเอียด 2392 × 1080, อัตรารีเฟรช 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1800nits
- โปรเซสเซอร์: MediaTek Dimensity 6300 (6nm)
- แรม: 8GB/12GB LPDDR4X (สามารถขยายแรมเพิ่มเติมได้)
- หน่วยความจำ: 256GB (UFS 2.2)
- แบตเตอรี่: BlueVolt ขนาด 6500mAh, รองรับการชาร์จเร็ว 90W FlashCharge
- กล้องหลัง:
- กล้องหลัก 50MP พร้อมเซนเซอร์ Sony IMX882, รูรับแสง f/1.79
- กล้องรอง 8MP, รูรับแสง f/2.2
- กล้องหน้า: 32MP, รูรับแสง f/2.45
- ระบบปฏิบัติการ: Funtouch OS 15 บน Android 15
- ความทนทาน: มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP65, SGS Five-Star Drop Resistance, Military-Grade Certification
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.4, USB Type-C, GPS
- ขนาด: 163.77 × 76.28 × 7.79 มม.
- น้ำหนัก: 197 กรัม
- สีที่มีให้เลือก: Titanium Gold, Phantom Black, Fantasy Purple
- อื่นๆ: ลำโพงสเตอริโอคู่, รองรับ Hi-Res Audio, ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ, รองรับ 5G+5G Dual SIM Dual Standby

Unbox รีวิว vivo V50 Lite
มาแกะกล่องดูในแพ็กเกจของ vivo V50 Lite กันก่อน ตัวกล่องมาดีไซน์เดียวกันในตระกูล V Series ที่เป็นสีดำสนิท และมีวงแหวนของ Aura Light ล้อมชื่อรุ่นเอาไว้ โดยภายในกล่องจะประกอบด้วย




- ตัวเครื่องซีลอยู่ในแพ็กเกจกระดาษ
- เอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้นและการรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสใสแบบ TPU สำหรับสวมป้องกันตัวเครื่อง
- สายชาร์จแบบ USB-A to USB-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จรองรับมาตรฐาน 90W FlashCharge

แบตเตอรี่ BlueVolt ใหญ่จัดสะใจ 6,500mAh
เรามาเริ่มคุยอย่างแรกกับหัวใจสำคัญของ vivo V50 Lite ที่ภูมิใจนำเสนอมากับสโลแกน “แบตอึดจนขอท้า” คือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ BlueVolt ที่ให้ความจุมหาศาลถึง 6500mAh ถือว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนของ vivo ที่มีดีไซน์บางเฉียบ
ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดนี้ช่วยให้เราสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างวัน แม้จะใช้งานหนักด้วยการเล่นเกม ดูวิดีโอสตรีมมิ่ง หรือใช้แอปพลิเคชั่นที่กินพลังงานสูงก็ตาม
ความพิเศษไม่ได้มีเพียงแค่ความจุที่มากเท่านั้น เทคโนโลยี BlueVolt ยังใช้นวัตกรรมแบตเตอรี่แบบ Semi-Solid (บนพื้นฐานแบตเตอรี่ Li-ion) ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูง ทำให้แบตเตอรี่สามารถเก็บพลังงานได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม นี่คือเหตุผลที่ vivo สามารถบรรจุแบตเตอรีขนาดใหญ่ถึง 6500mAh ในตัวเครื่องที่บางเพียง 7.79 มม. และเบาเพียง 197 กรัม

แต่แบตใหญ่แล้วชาร์จนานไหม? ไม่ต้องกังวล! vivo V50 Lite มาพร้อมเทคโนโลยี 90W FlashCharge ที่เราทดสอบชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาเพียง 45-60 นาที และชาร์จได้ 50% ภายในเวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น ถือว่าเป็นความเร็วที่น่าพอใจมาก สำหรับสมาร์ตโฟนที่มีความจุมากถึง 6500mAh
นอกจากนี้ vivo ยังให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานระยะยาว โดย V50 Lite มีการการันตีสุขภาพและประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่แม้หลังจากผ่านการชาร์จไปแล้วถึง 1,700 รอบ ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งหมายความว่าแม้คุณจะใช้งานโทรศัพท์หนักและชาร์จทุกวัน แบตเตอรีก็ยังสามารถรักษาประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม
ต้องชื่นชมกับทาง vivo ที่นำเอาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ BlueVolt มาใช้กับสมาร์ตโฟนใน V Seires ทุกรุ่น ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มักประสบปัญหาแบตหมดเร็ว ต้องพกพาแบตสำรอง หรือต้องหาที่ชาร์จตลอดเวลา ทำให้ vivo V50 Lite กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความอิสระในการใช้งานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทาง คนทำงานนอกสถานที่ หรือผู้ที่ต้องใช้สมาร์ทโฟนอย่างหนักตลอดทั้งวัน

ดีไซน์บางเฉียบ หรูหรา ดูพรีเมียม
vivo V50 Lite มาพร้อมกับดีไซน์ที่น่าประทับใจไม่แพ้แบตเตอรี่อึด ตัวเครื่องบางเพียง 7.79 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 197 กรัม ทั้งที่มีแบตขนาดใหญ่ถึง 6500mAh ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการออกแบบที่น่าทึ่ง
ความโดดเด่นเรื่องดีไซน์คือขอบเครื่องที่มีความเงางามด้วยวัสดุผิวสัมผัสแบบ High-gloss ที่ดูแวววาวและดูพรีเมียม โดยที่ขอบเป็นแบบเรียบแต่มีความโค้งมนที่ไม่แข็งกระด้าง
vivo V50 Lite มาพร้อมกับ 3 ตัวเลือกสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่

ทองไทเทเนียม (Titanium Gold)
เป็น vivo V50 Lite สีที่เราได้มา รีวิว มีความสวยงามด้วยการผสมผสานความแข็งแกร่งและความนุ่มนวลเข้าด้วยกัน โทนสีทองนี้มีความลึกและสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ตัวเครื่องดูมีมิติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความโดดเด่นแต่ยังคงความสุภาพและมีระดับ

สีม่วงแฟนตาซี (Fantasy Purple)
ได้แรงบันดาลใจจากท้องฟ้ายามพลบค่ำ เป็นโทนสีม่วงอ่อนที่มีประกายระยิบระยับ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและมีเสน่ห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสีสันสดใสและต้องการแสดงความเป็นตัวเอง

สีดำแฟนทอม (Phantom Black)
โทนสีดำที่มีความลึกพร้อมประกายเล็กน้อย เมื่อสะท้อนกับแสงจะเห็นมิติที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบง่าย คลาสสิก แต่ยังคงความทันสมัย

การออกแบบของ vivo V50 Lite ยังคงความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ V Series โดยการใช้งานจับถือได้ถนัดมือ โดยที่ตัวโมดูลกล้องด้านหลังจะยกสูงจากตัวฝาหลัง และเล่นระดับกับชุดเลนส์กล้อง 2 ตัว และไฟ Aura Light เป็นการจัดเรียงที่เหมาะลงตัว และตัวโลโก้ของ vivo ที่ฝาหลังก็มีความเงางาม ก็ขับให้เห็นได้อย่างโดดเด่นที่สวยงาม

ตัวปุ่มกดที่ด้านข้าง มีความเงาวาวเข้ากับตัวขอบเฟรมเครื่อง โดยมีขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป และนูนออกมาเล็กน้อย ดูไม่เป็นจุดเด่นหรือสะดุดตา ส่วนขอบอีกด้านก็จะเรียบๆ ไม่มีปุ่มอะไรเลย จึงมีความเรียบเนียนสวยงาม

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะช่องลำโพงเสียงสนทนา, พอร์ต USB-c สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล และถาดซิม เป็นแบบ Nano SIM 2 เบอร์ และใส่ microSD เพื่อเพิ่มความจุได้

สำหรับความทนทานของ vivo V50 Lite มาในมาตรฐาน IP65 ทำให้สมาร์ตโฟนทนต่อฝุ่นและน้ำได้ในระดับการใช้งานทั่วไปในแต่วัน อย่างเช่นละอองน้ำ ฝนตก น้ำกระเซ็น ยิ่งไปกว่านั้น ยังผ่านการรับรอง SGS Five-Star Drop Resistance และ Military-Grade Certification (MIL-STD-810H) ซึ่งรับรองว่าผ่านการทดสอบการตกกระแทกจากระดับความสูงต่างๆ และหลายมุมมอง

หน้าจอใหญ่ สวยคมชัด
vivo V50 Lite มาพร้อมหน้าจอแบน AMOLED 2.5D ขนาด 6.77 นิ้ว ที่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 95% มีขอบด้านข้างของจอที่น้อยมาก ให้พื้นที่การใช้งานที่กว้างขวาง เหมาะกับการดูวิดีโอและเล่นเกม
ด้านคุณภาพการแสดงผล หน้าจอมีความละเอียด FHD+ 2392 × 1080 พิกเซล ความหนาแน่น 387 PPI พร้อมความอิ่มตัวสี 105% NTSC และขอบเขตสี 100% DCI-P3 ทำให้ภาพที่แสดงมีความคมชัดและสีสันสมจริง

และด้วยคุณสมบัติค่าความสว่างสูงสุด 1800nits ช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้งที่มีแสงแดดจัด
อัตรารีเฟรช 120Hz ช่วยให้การเลื่อนหน้าจอลื่นไหล ไม่สะดุด และตอบสนองการเล่นเกมและการดูวิดีโอที่มีเฟรมเรตสูงได้อย่างนุ่มนวล นอกจากนี้หน้าจอยังผ่านการรับรอง SGS Low Blue Light ช่วยลดแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตา

กล้องหลังคู่ โหมดถ่ายภาพมีให้ครบ พร้อมลูกเล่น AI
vivo V50 Lite ถึงแม้จะเป็นรุ่นน้องเล็ก และไม่มี ZEISS เหมือนกับเพื่อนร่วมรุ่นใน V Series แต่ก็ยังให้ระบบกล้องที่น่าสนใจ โดยมีกล้องหลักความละเอียด 50MP พร้อมเซนเซอร์ Sony IMX882 ที่มีรูรับแสง f/1.79 และกล้องมุมกว้าง Ultra-wide ความละเอียด 8MP ที่มีรูรับแสง f/2.2 ส่วนกล้องหน้าเป็นความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.45 ให้คุณภาพการถ่ายภาพที่คมชัด
กล้องของ vivo V50 Lite มีโหมดถ่ายภาพที่หลากหลาย ทั้งโหมด Night, Portrait, Photo, Video, Pano, Documents, Slo-mo, Time-lapse, Supermoon, Pro, Dual View และ Live Photo ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดที่เหมาะกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว





โหมดถ่ายภาพพอร์ตเทรต จะมีให้เลือก 2 ระยะเลนส์คือ 1x (26mm) และ 2x (52mm) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพที่ต้องเห็นเต็มตัวหรือโคลสอัพ ที่ให้มิติของฉากหลังที่ต่างกัน พร้อมกับรูปแบบการแต่งบิวตี้ใบหน้าแยกแบบละเอียด




ตัวเลือกของโบเก้ฉากหลัง ที่เลือกปรับค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ f0.95 – f16 ยังเลือกปรับรูปทรงของโบเก้ได้หลายแบบ ทั้งแบบปกติ, หัวใจ, ดาว, ผีเสื้อ, ซากุระ เพื่อให้ได้ความแปลกตาของฉากหลังที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงยังมีโหมด Style ให้เลือกปรับโทนสีของภาพที่ได้อารมณ์ที่ต่างกัน และในแบบ เทศกาล และ ถ่ายภาพบุคคลในที่แสงน้อย จะมีการเปิดไฟ Aura Light เพื่อช่วยปรับความสว่างให้ได้ด้วย

สำหรับไฟ Aura Light ที่นอกจะใช้เป็นไฟแฟลชแล้ว ยังเลือกเปิดเป็นไฟส่องสว่างเพื่อช่วยลบเงาบนใบหน้าหรือถ่ายพอร์ตเทรตในพื้นที่แสงน้อยให้ดูนวลชัดมากขึ้น แต่ตัวไฟจะเลือกได้แค่เปิดปิด ไม่สามารถปรับระดับความสว่างหรืออุณหภูมิสีได้
🔻 ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยไฟ Aura Light ของ vivo V50 Lite ที่ช่วยให้การถ่ายในที่แสงน้อย ใบหน้ามีความสว่างชัดมากขึ้น



กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียดค่อนข้างสูง ทำให้ถ่ายภาพมาได้คมชัดและปรับแต่งให้ใบหน้ามีความสวยเป็นธรรมชาติ และมีเอฟเฟกต์ลูกเล่นทั้งปรับโทนสีและฟิลเตอร์สวยๆ ให้เลือกใช้
🔻 ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องหน้า ของ vivo V50 Lite




กล้อง Ultra-wide ถือว่ามีมุมมองกว้างพิเศษสำหรับเก็บภาพที่กว้างมากกว่าปกติ สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี รวมถึงการปรับแสง HDR ก็ทำออกมาได้น่าพึงพอใจ ได้ภาพที่มีความสว่างชัดสดใสทั้งภาพ
🔻 ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้อง Ultra-wide ของ vivo V50 Lite




ที่น่าสนใจคือในการแต่งภาพ มีฟีเจอร์ AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพมาให้ใช้ด้วย


- AI Erase 2.0 ช่วยตรวจจับบุคคลอื่นๆ ในภาพแบบอัตโนมัติ และสามารถลบเฉพาะบางบุคคลออกได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ทำให้การแก้ไขภาพเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องใช้แอปแก้ไขภาพเพิ่มเติม เช่น ถ่ายภาพในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน ก็สามารถลบคนแปลกหน้าออกได้


- AI Photo Enhance เทคโนโลยีการประมวลผลภาพขั้นสูงที่ช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงรายละเอียดในภาพ ทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนและสดใสยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับเวลาที่ crop ภาพบางส่วนในภาพถ่ายแล้วรายละเอียดภาพมีความเบลอ ฟีเจอร์นี้จะมาช่วยปรับให้ภาพที่ crop แล้วมีความคมชัดมากขึ้น
การถ่ายวิดีโอ vivo V50 Lite รองรับการบันทึกวิดีโอ ได้สูงสุดที่ 1080p 60fps สำหรับกล้องหลัง และกล้องหน้าได้สูงสุดที่ 1080p 30fps และมีฟีเจอร์ Dual View ที่ช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันได้ เหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียที่ต้องการแสดงทั้งภาพของตัวเองและสิ่งที่กำลังอธิบายหรือนำเสนอไปพร้อมกัน
โดยรวมแล้ว ระบบกล้องของ vivo V50 Lite ที่มีทั้งกล้องหลักและกล้องมุมกว้าง แต่อาจจะขาดในระยะซูม ถือว่ามีพร้อมสำหรับการใช้งานถ่ายภาพทั่วไปและถ่ายพอร์ตเทรตรวมถึงเซลฟี่ได้ค่อนข้างครบ โดยมีลูกเล่น AI ในการแต่งภาพลบคน และปรับความคมชัดมาให้ด้วย เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น ส่วนวิดีโอนั้นถือว่าเพียงพอสำหรับการถ่ายเพื่อโพสต์ลงโซเชียลต่างๆ
ประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งาน
vivo V50 Lite ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 ผลิตด้วยกระบวนการ 6 nm ประกอบด้วย CPU 8 คอร์ (2 × 2.4 GHz + 6 × 2.0 GHz) และ GPU Mali-G57 มาพร้อมหน่วยความจำภายใน 256GB แบบ UFS 2.2 และ RAM ขนาด 8GB แบบ LPDDR4X ที่มีคุณสมบัติขยาย RAM เพิ่มได้อีก 8GB ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและรองรับการใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล

ชิปเซ็ตรองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ช่วยให้การแชร์ภาพและวิดีโอทำได้รวดเร็ว เล่นเกมและรับชมวิดีโอคมชัดไม่กระตุก ด้วยระบบเสาสัญญาณรอบทิศทางที่เพิ่มความเสถียร

ด้านเสียง vivo V50 Lite มาพร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ รองรับมาตรฐานเสียง Hi-Res Audio พร้อมฟีเจอร์เพิ่มพลังเสียงสูงสุดถึง 400% ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมมีความสมจริงและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
vivo V50 Lite ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 ที่พัฒนาบน Android 15 มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่เป็นประโยชน์และใช้งานง่าย อินเตอร์เฟซเป็นมิตรกับผู้ใช้ มีความลื่นไหลและตอบสนองรวดเร็ว
คุณสมบัติการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทั้ง Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.4, USB Type-C และรองรับระบบระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo และ QZSS ทำให้การนำทางแม่นยำยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือการรองรับ 5G+5G Dual SIM Dual Standby ทำให้ใช้งานซิมคู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับความปลอดภัย vivo V50 Lite มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่ตอบสนองรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้การปลดล็อคเครื่องทำได้อย่างสะดวก

ประสบการณ์การใช้งาน ในด้านของการเล่นเกม สำหรับเกมที่เลือกปรับกราฟิกที่ระดับเริ่มต้น และเปิด Boost ใน Multi-Turbo ก็สามารถเล่นเกมในเฟรมเรต 60fps ได้อย่างไหลลื่น และเมื่อได้แบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ ก็ช่วยให้เล่นเกมต่อเนื่องยาวหลายชั่วโมงได้แบบสบายๆ

ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ
vivo V50 Lite ยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ


Circle to Search เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การค้นหาข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่แตะหรือวงกลมที่ข้อความหรือภาพบนหน้าจอ ระบบจะทำการค้นหาข้อมูลจาก Google ให้โดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนในการค้นหา เช่น เมื่อเห็นรูปสถานที่ท่องเที่ยวหรือสินค้าที่น่าสนใจ สามารถวงกลมที่ภาพนั้นเพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที นอกจากนี้ ยังรองรับฟีเจอร์ค้นหาเพลงที่กำลังเล่นบนสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย

Live Text ฟีเจอร์ที่ช่วยดึงข้อความจากภาพได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่แตะที่รูปภาพเพื่อดึงข้อความจากอินเทอร์เฟซโดยตรง รองรับถึง 15 ภาษา รวมถึงภาษาไทย ช่วยให้การคัดลอกข้อความจากภาพถ่ายเอกสาร นามบัตร หรือป้ายต่างๆ ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

AI Screen Translation ฟีเจอร์แปลภาษาด้วย AI ผ่าน Google Lens ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลข้อความจากเว็บไซต์หรือบทความได้ง่ายๆ เพียงแค่แตะที่แถบข้างเพื่อเปิดการแปลบนหน้าปัจจุบัน ทำให้การอ่านเนื้อหาในภาษาต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย
ฟีเจอร์ AI เหล่านี้ของ vivo V50 Lite ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้การใช้สมาร์ตโฟนเป็นไปอย่างราบรื่นและชาญฉลาดมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่พร้อมอำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้านของการใช้งาน

รีวิว vivo Watch GT
vivo Watch GT สมาร์ตวอตช์หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมรุ่นแรกจาก vivo ที่มาพร้อมดีไซน์คลาสสิกและหรูหรา โดดเด่นด้วยหน้าจอโค้งไร้ขอบ 2.5D HD AMOLED ขนาด 1.85 นิ้ว ความละเอียด 390 x 450 พิกเซล ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสดใส น้ำหนักเบาเพียง 33 กรัม (ไม่รวมสาย) ออกแบบให้เข้ากับสรีระข้อมือชาวเอเชีย ทำให้สวมใส่สบายแม้ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน








ตัวแพ็กเกจของ vivo Watch GT จะมีตัวเรือนนาฬิกาถอดแยกกับสายที่สามารถเลือกหาเปลี่ยนสีได้ โดยวัสดุจะเป็นยางที่มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการใส่ออกกำลังกาย ในกล่องจะมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้นและสายสำหรับชาร์จ โดยที่ตัวหัวชาร์จะเป็นแบบแม่เหล็กแปะติดกับตัวนาฬิกา

จุดเด่นที่สำคัญของ vivo Watch GT คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 21 วันเมื่อใช้งานในโหมด Bluetooth ช่วยลดความถี่ในการชาร์จ ทำให้สะดวกสำหรับการเดินทางโดยไม่ต้องพกที่ชาร์จ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมดีไซน์ที่มีความทนทานด้วยมาตรฐานการกันน้ำลึก 20 เมตร (2ATM) ทำให้สามารถสวมใส่ได้ทั้งขณะล้างมือ อาบน้ำ หรือขณะฝนตก และยังใช้บันทึกข้อมูลขณะว่ายน้ำได้อีกด้วย

vivo Watch GT มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ Summer Black และ สีขาว Cloud White โดยมาพร้อมสายที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนลุคให้เข้ากับสไตล์ที่หลากหลาย ตัวเรือนกลางทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์แบบด้าน พร้อมขอบเงาสะท้อนสุดประณีต ให้ลุคที่โดดเด่นบนข้อมือ

นอกจากนี้ ยังมี Digital Crown 1 ปุ่ม 2 ฟังก์ชั่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาข้อมือแบบคลาสสิก ผลิตด้วยสแตนเลสคุณภาพสูง ผสมผสานความดั้งเดิมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว

ตัวหน้าปัด Watch Face จะมีให้เลือกใช้งานที่หลากหลาย มีทั้งแบบเน้นแสดงข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เห็นสถิติในระหว่างวัน หรือจะเป็นแบบลายการ์ตูนน่ารักๆ ก็มีให้เลือกใช้ด้วยเช่นกัน

ด้านฟีเจอร์การใช้งาน vivo Watch GT มาพร้อมโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือโยคะ พร้อมอัลกอริทึมเฉพาะที่มอบข้อมูลแต่ละประเภทกีฬาได้อย่างแม่นยำ

ในแต่ละกิจกรรมและการออกกำลังกาย เมื่อบันทึกแล้วจะสามารถมาดูสรุปโดยละเอียดผ่านทางแอป vivo Health ที่สามารถดูย้อนหลังในแต่ละวันเพื่อเช็คความพร้อมและดูแนวทางการพัฒนาการดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

และยังมีฟีเจอร์ Daily Activities สำหรับติดตามและตั้งเป้าหมายประจำวันใน 4 ด้าน ได้แก่ จำนวนก้าวเดิน การเผาผลาญพลังงาน ระยะเวลาการยืน และกิจกรรมออกกำลังกายระดับกลางถึงสูง

นอกจากฟีเจอร์ด้านกีฬาแล้ว vivo Watch GT ยังโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ติดตามสุขภาพที่ครบครัน ด้วยเทคโนโลยี CPC Cardiopulmonary Coupling Sleep Staging ที่ช่วยวิเคราะห์การนอนหลับได้อย่างแม่นยำ สามารถระบุช่วงและอัตราส่วนของแต่ละช่วงการนอนได้ละเอียด ทำให้ผู้ใช้เห็นโครงสร้างการนอนและงีบตลอดทั้งวัน พร้อมฟีเจอร์ Non-intrusive Infrared Monitoring ที่จะปิดไฟสีเขียวโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่าผู้ใช้กำลังเข้าสู่ภาวะการนอน และใช้แสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็นในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ไม่รบกวนการนอน นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือดแบบเรียลไทม์อีกด้วย

การใช้งานพื้นฐานของ vivo Watch GT รองรับการเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์ ทั้งการรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า ดูรายชื่อผู้ติดต่อและข้อมูลการโทร รวมถึงการดูแจ้งเตือนต่างๆ ที่แสดงผลเป็นภาษาไทยตัวใหญ่ชัดเจน และยังใช้ควบคุมการเล่นเพลง

มีอีกลูกเล่นที่น่าสนใจกับ NFC Access Card ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อบัตรแบบดิจิทัลโดยไม่ต้องพกบัตรจริง อย่างเช่นคีย์การ์ดของพนักงานหรือที่พักอาศัย ทำให้สะดวกใช้งานแตะผ่านตัวนาฬิกาได้เลย และยังรองรับการปรับแต่ง Widget บนหน้าจอเพื่อสร้าง Shortcut ได้สูงสุด 4 ใบ ตามความต้องการของผู้ใช้
ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันทั้งด้านการออกแบบ ฟีเจอร์การใช้งาน และการติดตามสุขภาพ vivo Watch GT จึงเป็นคู่หูที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับ vivo V50 Lite ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามกิจกรรมและสุขภาพได้อย่างสะดวกและแม่นยำ พร้อมสวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน

สรุป ริวิว vivo V50 Lite และ vivo Watch GT
หลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน vivo V50 Lite และ Watch GT มาสักพัก ผมว่าทั้งคู่นี้ตอบโจทย์คนใช้งานทั่วไปได้ค่อนข้างดีเลย โดยเฉพาะใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนแบตอึดๆ คู่กับสมาร์ตวอตช์ที่ใช้งานได้นาน ลองมาดูจุดเด่นและข้อจำกัดกันครับ
vivo V50 Lite
จุดเด่น
- แบตอึดจริง! แบตเตอรี่ 6500mAh ใช้ได้ยาวข้ามวันสบายๆ แม้ใช้งานหนัก ที่ทึ่งคือตัวเครื่องยังบางแค่ 7.79 มม. และเบาเพียง 197 กรัม ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับแบตขนาดนี้ ดีไซน์ดูพรีเมียม โดยเฉพาะสีทองไทเทเนียมที่ผมได้ทดลองใช้ สวยจับถนัดมือ เวลาแบตใกล้หมดก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีชาร์จเร็ว 90W ที่ชาร์จได้เร็วไม่ต้องเสียบชาร์จนานๆ
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว สวยคมชัด สีสันสดใส ดูหนัง เล่นเกม สบายตา รีเฟรชเรต 120Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอลื่นไหลดี ที่ชอบคือความสว่าง 1800nits เอาไปใช้กลางแดดก็ยังเห็นหน้าจอชัดเจน ไม่ต้องหลบเข้าที่ร่มเวลาใช้งานตอนกลางวัน
- กล้องหลัก 50MP พร้อมเซนเซอร์ Sony IMX882 ถ่ายภาพทั่วไปออกมาได้ดี โทนสีสวย รายละเอียดครบ โหมดพอร์ตเทรตแยกวัตถุกับฉากหลังได้แม่นยำ ไม่มีปัญหาเรื่องขอบเบลอผิดที่ผิดทาง กล้อง 8MP ช่วยให้ถ่ายภาพมุมกว้างได้ครบทุกองค์ประกอบ
- ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 ไม่ได้แรงสุดๆ แต่ใช้งานประจำวันลื่นไหลดี แม้จะเปิดแอปหลายๆ ตัวพร้อมกันก็ไม่มีอาการกระตุก เล่นเกมแนว MOBA หรือเกมทั่วไปก็เล่นได้สบาย (แต่เกมหนักๆ อาจต้องลดกราฟิกลงบ้าง) RAM 8GB ที่ขยายเพิ่มอีก 8GB ได้ก็ช่วยให้เปิดสลับหลายแอปได้รวดเร็ว
- ฟีเจอร์ AI สะดวกมาก โดยเฉพาะ Circle to Search ที่ช่วยให้ค้นหาข้อมูลได้ไวขึ้น และ AI Erase 2.0 ที่ช่วยลบคนเกินในรูปได้ง่ายๆ ได้อย่างแม่นยำ
ข้อจำกัด
- กล้องไม่รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ซึ่งอาจเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ชอบถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง เพราะทำได้แค่ระดับ Full HD เท่านั้น
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP65 ทนฝนและละอองน้ำได้ แต่ไม่สามารถแช่น้ำได้ ต่างจากสมาร์ตโฟนเรือธงที่มักจะมีมาตรฐาน IP68 ที่สามารถแช่น้ำได้ในระดับหนึ่ง

vivo Watch GT
จุดเด่น
- หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมขนาด 1.85 นิ้ว มองเห็นข้อมูลได้ชัดเจน จอ AMOLED คมชัด สีสันสดใส น้ำหนักแค่ 33 กรัม (ไม่รวมสาย) ใส่ทั้งวันไม่เมื่อย ไม่รู้สึกว่ามีอะไรเกะกะข้อมือ
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานมากถึง 21 วัน ในโหมด Bluetooth ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องชาร์จบ่อยๆ ผมใช้มาเกือบสองอาทิตย์ แบตก็ยังเหลืออยู่ประมาณ 40% ใช้ได้สบายใจแม้เดินทางไกลหลายวัน
- รองรับกีฬามากกว่า 100 โหมด ตั้งแต่วิ่ง ว่ายน้ำ จนถึงโยคะ ข้อมูลแต่ละประเภทค่อนข้างละเอียดและแม่นยำ ระบบติดตามการออกกำลังกายและรางวัล Achievement จูงใจให้อยากออกกำลังกายมากขึ้น
- ฟีเจอร์ติดตามสุขภาพและการนอนทำได้ดี โดยเฉพาะเทคโนโลยี CPC ที่วิเคราะห์คุณภาพการนอนได้ละเอียด ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมการนอนของตัวเองได้ดีขึ้น และแสงอินฟราเรดตอนกลางคืนไม่รบกวนการนอน
- กันน้ำลึก 20 เมตร (2ATM) ใส่ว่ายน้ำได้สบาย ไม่ต้องกังวลเวลาโดนน้ำหรือเหงื่อ
ข้อจำกัด
- ฟีเจอร์การจ่ายเงินผ่าน NFC ยังไม่รองรับในไทยอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ฟังก์ชัน NFC Access Card ใช้ประโยชน์ได้จำกัด เป็นเพียงการเชื่อมต่อกับระบบเฉพาะเท่านั้น ไม่สามารถใช้ชำระเงินทั่วไปได้
- ไม่มี GPS ในตัว
โดยภาพรวม vivo V50 Lite และ Watch GT เป็นคู่หูที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนแบตอึดและสมาร์ตวอตช์ที่ใช้งานได้นาน กับราคาถือว่าอยู่ในระดับที่คุ้มค่ากับสเปคและประสิทธิภาพที่ได้ ที่ตอนนี้เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ
ราคาและการวางจำหน่าย
vivo V50 Lite วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยพร้อมแบตเตอรี่ที่อึดจนต้องขอท้าให้ชาว vivo fans ไปลองสัมผัสด้วยตนเองอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนนี้ที่หน้าร้าน vivo Brand Shop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ใน 2 รุ่นความจุ ได้แก่ 8GB + 256GB ในราคา 9,999 บาท และ12GB + 512GB ในราคา 12,999 บาท พิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อในรอบพรีออเดอร์และรอบปกติ ภายในวันที่ 22 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2568 จะได้สิทธิ์รับของสมนาคุณจาก vivo ประกอบด้วย
- หูฟัง vivo Buds สีขาว (มูลค่า 1,799 บาท)*
- กระเป๋าผ้า V Friends Tote Bag (มูลค่า 790 บาท)
- และ ประกัน vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง และ ประกันแบตเตอรี่ 5 ปี (มูลค่า 7,999 บาท)**
หมายเหตุ:
*หูฟัง vivo Buds จะได้รับเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อในรอบ Pre-order ตั้งแต่วันที่ 22 – 25 เมษายน 2568 และรับเครื่องภายในวันที่ 27 เมษายน 2568 เท่านั้น
**ใน 5 ปีแรกสามารถนำเครื่องไปเช็คสุขภาพแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการ vivo หากพบว่าสุขภาพแบตเตอรี่ต่ำกว่า 80% รับสิทธิ์เปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรีจำนวน 1 ครั้ง โดยเวลารับประกันจะเริ่มตั้งแต่วันที่ลูกค้าซื้อสินค้าไป
พร้อมกันนี้ vivo ยังวางจำหน่าย Watch GT อย่างเป็นทางการใน 2 ตัวเลือกสีและดีไซน์ ได้แก่ สีดำซัมเมอร์ แบล็ก (Summer Black) พร้อมสายซิลิโคนเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และสีขาวคลาวด์ ไวท์ (Cloud White) พร้อมสายหนังแบบเรียบหรูและคลาสสิก ในราคาเพียง 3,999 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ vivo V50 Lite และ Watch GT รวมถึงติดตามข่าวสารเทคโนโลยีอื่น ๆ จาก vivo ได้ที่เว็บไซต์ https://vivo.com/th/ และเฟซบุ๊ก vivo Thailand
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok