Infinix เปิดตัว NOTE 50 Series สมาร์ตโฟนตระกูลโน้ตรุ่นล่าสุด มาพร้อม 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ NOTE 50 Pro+ 5G, NOTE 50 Pro และ NOTE 50s 5G โดดเด่นด้วยดีไซน์ Metal Frame คุณภาพพรีเมียม และเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง One-Tap Infinix AI ที่ผสานปัญญาประดิษฐ์เข้ากับการใช้งานประจำวัน
เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย 29 เมษายนนี้ พร้อมราคาเริ่มต้นที่ 7,999 บาท รองรับทุกไลฟ์สไตล์ทั้งเกมเมอร์ คอคอนเทนต์ และผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการสมาร์ตโฟน 5G สเปกแน่นในราคาที่จับต้องได้
NOTE 50 Pro+ 5G รุ่นเรือธงสเปกจัดเต็ม ซูมไกล 100 เท่า ชาร์จไว 100W
รุ่นท็อปสุดของซีรีส์นี้มาพร้อมประสิทธิภาพที่น่าประทับใจในทุกด้าน โดยเฉพาะขุมพลังการประมวลผลจากชิปเซ็ต MediaTek Dimensity D8350 Ultimate 5.5G Processor ที่ทำงานร่วมกับหน่วยความจำภายในขนาด 256GB และ RAM 12GB สามารถขยายได้สูงสุดถึง 24GB เพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายแอปพลิเคชันได้อย่างลื่นไหล
ด้านแบตเตอรี่นับเป็นอีกจุดเด่นของรุ่นนี้ ด้วยความจุ 5,200 mAh ที่มาพร้อมเทคโนโลยี All-Round Fast Charge 3.0 รองรับการชาร์จแบบสายที่ความเร็วสูงถึง 100W และการชาร์จไร้สายกำลัง 50W ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างวัน
ความแข็งแรงของตัวเครื่องก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญ ด้วยโครงสร้าง ArmorAlloy™ และดีไซน์ Metal Frame ที่ผ่านการทดสอบการตกกระแทกมากถึง 99,999 ครั้ง มอบความมั่นใจในการใช้งานยาวนาน
ระบบกล้องระดับเรือธง ซูมไกล ถ่ายชัด
ระบบกล้องของ NOTE 50 Pro+ 5G มาพร้อมความสามารถที่น่าประทับใจ โดยใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูง Sony IMX896 ร่วมกับกล้อง Periscope ที่สามารถซูมได้ไกลถึง 100 เท่า (Hybrid zoom) ทำให้การถ่ายภาพระยะไกลเป็นเรื่องง่าย
กล้องหลักความละเอียด 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ NOTE Series มาพร้อมเลนส์ Ultra-Wide มุมกว้าง 112° ที่ช่วยให้เก็บภาพวิวหรือภาพกลุ่มได้ครบทุกรายละเอียด
หน้าจอ AMOLED คุณภาพสูง พร้อม In-display Fingerprint
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ให้ภาพที่ลื่นไหลคมชัด สีสันสดใส พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-display Fingerprint) เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการใช้งาน
NOTE 50 Pro+ 5G มีให้เลือก 3 สีสัน ได้แก่ สี Racing Edition, สี Titanium Grey และสี Enchanted Purple ในราคา 13,999 บาท พร้อมรับฟรีอุปกรณ์เสริมการชาร์จไร้สาย MagPad และ MagCase รวมถึงของขวัญพิเศษอื่นๆ รวมมูลค่าสูงสุด 3,198 บาท
NOTE 50 Pro สเปกครบครัน ราคากลางๆ จำหน่ายเฉพาะออนไลน์
สำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนสเปกดีในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น Infinix NOTE 50 Pro เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Helio G100 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหล เหมาะกับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่ไม่ต้องการพลังประมวลผลสูงมาก
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP และ 8MP รวมถึงกล้องหน้า 32MP สำหรับการเซลฟี่ที่คมชัด
ด้านความจุมาพร้อม RAM 12GB (สามารถขยายได้สูงสุดถึง 24GB) และหน่วยความจำภายใน 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,200 mAh ที่ให้การใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
NOTE 50 Pro มีให้เลือก 2 สี คือ Racing Edition และ Titanium Grey ในราคา 8,499 บาท โดยมีจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น
NOTE 50s 5G รุ่นเริ่มต้น ราคาคุ้มค่า เน้นการใช้งาน 5G
สำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ตโฟน 5G ในราคาที่คุ้มค่า Infinix NOTE 50s 5G เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity D7300 Ultimate ที่รองรับเครือข่าย 5G อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จอโค้งสวยงาม เล่นเกมลื่น
หน้าจอ AMOLED โค้ง 3D ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ให้ภาพที่ลื่นไหล สีสันสดใส เหมาะสำหรับการเล่นเกมและรับชมวิดีโอความละเอียดสูง
รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,200 mAh และรองรับการชาร์จเร็ว 45W ที่ช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมหน่วยความจำ RAM 8GB (ขยายได้อีก 8GB รวมเป็น 16GB) และ ROM 256GB
เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ NOTE 50s 5G มาพร้อมดีไซน์พรีเมียม True Metal Frame ที่แข็งแรงทนทาน และฟีเจอร์ One Tab AI ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น
NOTE 50s 5G มีให้เลือก 2 สี คือ Marine Drift Blue และ Titanium Grey ในราคา 7,999 บาท
พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของ PUBG MOBILE
นับเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจเมื่อ Infinix NOTE 50 Series ได้เป็นพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของการแข่งขัน PUBG MOBILE National Championship (PMNC) Thailand 2025 ซึ่งตอกย้ำความแรงและประสิทธิภาพของสมาร์ตโฟนซีรีส์นี้ที่เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องการความลื่นไหลและการตอบสนองที่รวดเร็ว
วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 29 เมษายน 2568
สมาร์ตโฟน Infinix NOTE 50 Series ทั้ง 3 รุ่น พร้อมวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 29 เมษายน 2568 โดยสามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Shopee Mall, Lazada Mall และ TikTok Shop รวมถึงร้านค้าชั้นนำอย่าง BaNANA, Jaymart, IT City และ TG FONE สาขาที่ร่วมรายการ
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
