แกร็บ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำแอปเรียกรถอันดับ 1 เดินหน้ารุกตลาดลักชัวรี เปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถล่วงหน้าระดับพรีเมียมอย่างเป็นทางการ หลังพบว่าตลาดบริการเรียกรถในกลุ่มพรีเมียมเติบโตขึ้นถึง 50%
นางสาวเมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารคนขับ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า การพัฒนาบริการให้ครอบคลุมและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในทุกกลุ่มถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของแกร็บ ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทเห็นเทรนด์ความต้องการใช้บริการเรียกรถในกลุ่มพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น สะท้อนผ่านยอดใช้บริการ GrabCar Premium และ GrabCar Luxe ที่เติบโตขึ้นถึง 50%
ทั้งนี้ ลูกค้าหลักที่ใช้บริการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักท่องเที่ยวลักชัวรี กลุ่มเอ็กซ์แพทหรือชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย และกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ โดยเฉพาะผู้บริหารและนักธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ของตลาดท่องเที่ยวลักชัวรีที่มีมูลค่าราว 6.6-7.7 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 8-10% ต่อปี
บริการ GrabExecutive แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- Lite ให้บริการด้วยรถตู้รุ่น Denza D9, Zeekr 009 และ MG Maxus 9 ในราคา 2,500 บาท
- M ให้บริการด้วยรถยนต์ซีดานรุ่น Mercedes-Benz E-Class, BMW Series 5 ในราคา 2,500 บาท
- L ให้บริการด้วยรถตู้รุ่น Toyota Vellfire และ Toyota Alphard ในราคา 3,400 บาท
นอกจากความหรูหราของรถแล้ว บริการ GrabExecutive ยังยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้วยคนขับที่ผ่านการอบรมหลักสูตรเฉพาะ พร้อมชุดเครื่องแบบที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชั้นนำอย่าง VATANIKA เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งน้ำแร่และ Onboard Wi-Fi ตลอดการเดินทาง
ผู้ใช้บริการสามารถวางแผนการเดินทางได้ตามความต้องการ โดยจองรถล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 90 วัน หรืออย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง สามารถยกเลิกได้ 90 นาทีก่อนเวลาที่จองไว้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมให้บริการส่งผู้โดยสารได้สูงสุด 2 จุด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง (หรือในระยะทาง 60 กิโลเมตร) ในราคาเดียวตลอดการเดินทาง ซึ่งรวมค่าทางด่วนหรือโทลเวย์แล้ว
พิเศษสำหรับผู้ใช้บริการ GrabExecutive สามารถรับส่วนลด 20% เพียงใส่โค้ด ‘EXEC20’
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok