ธุรกรรมการเงินดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับเกิดช่องโหว่ให้ “แอปเงินกู้นอกระบบ” เข้ามาแทรกแซง ปัญหานี้ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนมากต้องเผชิญกับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ปัจจุบันแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบมักแฝงตัวในรูปแบบที่น่าเชื่อถือ ล่อลวงผู้ที่ต้องการเงินฉุกเฉิน ด้วยสัญญาว่าจะได้รับเงินอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยาก แต่แท้จริงแล้วกลับนำไปสู่ปัญหาทางการเงินและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
4 กลโกงของ แอปเงินกู้นอกระบบ อย่าหลงตกเป็นเหยื่อ
การรู้เท่าทันกลโกงจากแอปพลิเคชันเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันตนเอง ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางการเงินระบุว่ามีรูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อย ดังนี้
1. ดอกเบี้ยโหด กู้ 10,000 อาจต้องจ่ายคืนเกิน 50,000 บาท
แอปกู้เงินเถื่อน มักคิดดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนด เช่น 36%-50% ต่อปี หรือมากกว่านั้นหลายเท่า ทำให้ผู้กู้ที่ต้องการเงินเพียง 10,000 บาท อาจต้องจ่ายคืนมากถึง 50,000 บาท ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดหลายเท่า
ผู้กู้มักไม่ได้รับการแจ้งอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงก่อนทำสัญญา หรือมีการซ่อนเงื่อนไขในสัญญาที่ยากต่อการเข้าใจ ทำให้ผู้กู้ไม่ทราบถึงภาระหนี้ที่แท้จริงที่ต้องแบกรับ
2. ค่าธรรมเนียมแฝง หลอกให้โอนเงินก่อน
บางแอปเรียกเก็บเงินล่วงหน้าก่อนอนุมัติ เช่น ค่าดำเนินการ หรือค่าประกันวงเงิน หากโอนไปแล้วมักถูกปฏิเสธหรือหายไปโดยไม่สามารถติดต่อได้
กลยุทธ์นี้เป็นการหลอกลวงโดยตรง ทำให้ผู้กู้สูญเสียเงินตั้งแต่ยังไม่ได้รับเงินกู้ แอปเหล่านี้อาจอ้างว่าเป็นค่าตรวจสอบเครดิต ค่าเปิดบัญชี หรือค่าประกันความเสี่ยง ซึ่งเป็นข้ออ้างเพื่อให้ผู้กู้โอนเงินไปให้ก่อน
3. ล้วงข้อมูลส่วนตัว ขู่ทวงหนี้แบบผิดกฎหมาย
“แอปเงินกู้นอกระบบ” มักขอเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อ และรูปภาพ เพื่อนำมาใช้ข่มขู่หากผู้กู้ผิดนัดชำระ
เมื่อได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ แอปเหล่านี้จะสามารถดึงข้อมูลรายชื่อครอบครัว เพื่อน และคนรู้จัก รวมถึงรูปภาพส่วนตัวของผู้กู้ เพื่อนำไปใช้ในการทวงหนี้ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย เช่น การข่มขู่ คุกคาม หรือประจาน ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งทางด้านจิตใจและชื่อเสียง
4. ไม่มีใบอนุญาต ไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย
เงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย หากไม่มีข้อมูลจดทะเบียนหรือไม่สามารถตรวจสอบได้ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นแอปเถื่อน
การกู้เงินจากแหล่งที่ไม่มีใบอนุญาตทำให้ผู้กู้ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเมื่อเกิดปัญหา นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงหรือถูกเอาเปรียบ เพราะไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้
ทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ต้องการสินเชื่อ
สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการสินเชื่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแนะนำให้เลือกแหล่งสินเชื่อที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งเตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อและตรวจสอบความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองก่อนตัดสินใจ
ในปัจจุบัน มีบริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายให้เลือกใช้ เช่น บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” (KTC PROUD) ที่ให้บริการสมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://www.ktc.co.th/apply-online โดยผู้สนใจสามารถส่งเอกสารประกอบการสมัคร เช่น สำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือนล่าสุด และสำเนาบัญชีธนาคาร ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ปลอดภัย และรอผลการพิจารณาอนุมัติภายใน 30 นาที
สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายและคำแนะนำในการเลือกใช้บริการทางการเงินอย่างปลอดภัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-123-5000 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทยและศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
หมายเหตุ: อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” อยู่ที่ 20% – 25% ต่อปี ผู้ใช้บริการควรกู้เท่าที่จำเป็นและพิจารณาความสามารถในการชำระคืนอย่างรอบคอบ
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
