รัฐบาลทรัมป์ประกาศมาตรการเข้มงวดใหม่ในการขยายรายชื่อองค์กรและบริษัทในบัญชีดำการส่งออกอีก 80 แห่ง ที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทและองค์กรในจีน เพื่อป้องกันจากการได้รับเทคโนโลยีคอมพิวติ้งขั้นสูงของสหรัฐไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร
มาตรการใหม่นี้ประกาศโดยสำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (Bureau of Industry and Security หรือ BIS) ภายใต้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ มีองค์กรมากกว่า 50 แห่งที่ตั้งอยู่ในจีน ส่วนที่เหลืออยู่ในอิหร่าน ไต้หวัน ปากีสถาน แอฟริกาใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งหมดถูกระบุว่ากระทำการที่ “ขัดต่อความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ”
Jeffrey Kessler รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้านอุตสาหกรรมและความมั่นคง กล่าวว่า “เทคโนโลยีอเมริกันไม่ควรถูกนำไปใช้ต่อต้านประชาชนอเมริกัน BIS กำลังส่งข้อความที่ชัดเจนว่ารัฐบาลทรัมป์จะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ โดยการป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีและสินค้าของสหรัฐถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดสำหรับการคำนวณประสิทธิภาพสูง ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง การฝึกอบรมอากาศยานทางทหาร และโดรนที่คุกคามความมั่นคงของชาติ”
6 บริษัทย่อยของ Inspur Group ผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งชั้นนำของจีนและลูกค้ารายใหญ่ของผู้ผลิตชิปสหรัฐอย่าง Nvidia, AMD และ Intel ก็ถูกรวมอยู่ในบัญชีดำนี้ โดย BIS กล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับกองทัพจีน นอกจากนี้ Beijing Academy of Artificial Intelligence ก็ถูกเพิ่มในรายชื่อด้วย
นอกจากนี้ สถาบันวิจัย Beijing Academy of Artificial Intelligence ก็ถูกเพิ่มในรายชื่อด้วย โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “เราตกใจอย่างมากที่สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรและเป็นเอกชนถูกเพิ่มในรายชื่อนี้ เราคัดค้านการตัดสินใจที่ผิดพลาดนี้ซึ่งไม่มีพื้นฐานของข้อเท็จจริงใดๆ และขอให้หน่วยงานสหรัฐที่เกี่ยวข้องถอนการตัดสินใจดังกล่าว”
กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ประณามมาตรการควบคุมการส่งออกนี้ โดยกล่าวว่าการขยายบัญชีดำ “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง” มาตรการใหม่นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่มีอยู่แล้วระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าครั้งใหม่กับสินค้าจากจีนตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
การขยายข้อจำกัดการส่งออกนี้เป็นความพยายามล่าสุดในการขัดขวางการเข้าถึงชิปอเมริกันขั้นสูงของต่างชาติ แม้จะมีการคัดค้านก่อนหน้านี้จาก Nvidia และกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ข้อมูลจาก : The Verge
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok